82.นมัสการรอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฏ

​

 

​

 

ก่อนถึงเขตผ้าแดงก็จะถึงบาตรพระสาลีบุตร ตอนนี้เวลาตีหนึ่งห้าสิบกว่าๆ ตรงนี้บาตรพระสาลีบุตรนี้เป็นลักษณะของหินที่คล้ายบาตรซ้อนอยู่บนหินอีกทีนึง หยุดไหว้พระ ได้พรมน้ำมนต์แล้วเดินต่อ

 

​

 

เห็นป้ายบอกว่าอีกไม่ไกลก็ถึงเขตผ้าแดง แต่ทำไมจากตรงนี้ยิ่งเดินเหมือนไม่ยอมถึงสักที บางคนเดินถามคนที่เดินสวนลงมาบอกว่าอีกไกลมั๊ย ก็ยิ้มๆ แล้วบอกอีกนิดเดียว แต่เดินก็ไม่ถึงสักที ช่างเถอะ ก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป

 

​

 

​

 

และแล้วก็มาถึงจนได้เขตผ้าแดงด้วยเวลาตีสองสิบห้านาที ทำบุญหยอดตู้ได้ผ้าแดงผืนยาวๆ มาแล้วเขียนคำอธิฐานบนผ้าแดงแล้วก็นำไปผูกไว้กับต้นไม้

 

​

 

​

 

​

 

​

 

ถ่ายรูปเสร็จก็ถึงเวลาเดินลง

 

​

 

​

 

ตรงช่วงที่ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ มีป้ายบอกทางลัดเดินลงด้วย ไหนๆ ลองเดินทางลัดดีกว่า แค่ก้าวแรกของทางลัดดูแล้วทางมันโหดมาก เป็นบันไดดินอย่างชันและลื่นๆ เลยหล่ะ ตัดสินใจแล้วลองดู เดินลงได้ประมาณ ๑๐ เมตร ได้ยินมีคนอีกกลุ่มนึงเดินลงมาเหมือนกัน ค่อยๆ เดินลง ต้องจับราวบันไดไม้บ้าง จับต้นไม้ริมทางบ้างเพื่อพยุงตัวไม่ให้หกล้ม ส่วนมากเป็นทางเดินโขดหินและรากต้นไม้ชันๆ เดินๆ แล้วรู้สึกว่าน่าจะเป็นทางเดินของพวกลูกหาบที่หาบของขึ้นข้างบน ยิ่งเดินลงยิ่งไม่เจอคนเลย คณะข้างหลังก็เริ่มเงียบเสียงไปแล้วเหมือนถอดใจเดินกลับขึ้นไป วังเวงแล้วสิ ได้ยินแต่เสียงเครื่องขยายเสียงดังมาจากทางเดินปกติที่ดังผ่านความมืดของดงไม้

 

​

 

และแล้วก็เดินผ่านทางลัดได้อย่างปลอดภัย มานั่งพักขาสักครู่ก็เดินลงต่อ แต่แล้วสร้อยฟ้าฯ ก็พลาดจนได้ ลื่นบนทางเดินลงที่เป็นโขดหิน ล้มลงแต่ไม่กลิ้ง ใช้มือข้างซ้ายยันพื้นทัน ยังไม่ทันลงไปถึงกับวัดพื้น มือซ้ายกับกางเกงช่วงหัวเขาเปื้อนฝุ่น นึกว่าข้อมือซ้ายจะเจ็บซะแล้ว เพราะรับน้ำหนักเต็มๆ เลย เดินบีบข้อมือสักพักก็ไม่เป็นอะไร หายเจ็บ

 

​

 

ค่อยๆ เดินลงมาจนถึงท่ารถ ซื้อตั๋วขึ้นรถได้ เห็นเด็กที่มากับแม่เขา(น่าจะใช่แม่ลูกกัน) นั่งร้องไห้อยู่บนรถ เพราะกลัว นับประสาอะไร เรายังหวั่นๆ เลย ลงรถและต่อรถเสร็จมาถึงวัดพลวงประมาณเกือบตีสี่โดยสวัสดิภาพ