รวบรวมรายชื่อสถานที่หลบภัยในช่วงภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 21 มิถุนายน 2006.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีสติ ไม่ประมาท ใช้ปัญญาไตร่ตรองว่า ว่าถ้าเกิดภัยพิบัติเราจะทำอย่างไร ถ้าไม่เกิดก็แล้วไป แต่ถ้าเกิดและเรามีชีวิตอยู่ จะอยู่รอดได้อย่างไร ถ้าไม่เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อน จะเลือกเป็นประเภทดูแลตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้ หรือเป็นภาระให้ผู้อื่นช่วยเหลือ ผมเชื่อว่าพุทธภูมิหลายคนถูกโปรแกรมให้ลงมาสร้างบารมีในภาระกิจช่วยเหลือคนจากภัยพิบัติครั้งนี้ หลายๆคนก็มีเหตุให้รู้และได้รับข้อมูลจากแหล่งต่างๆมากมาย เพื่อแจ้งข่าวสารนี้ ต่อผู้คน บางคนก็มีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่หลบภัย บางคนก็มุ่งฝึกอภิญญาเพื่อช่วยเหลือและรักษาคน บางคนก็มีหน้าที่ประสานงานของทุกฝ่ายให้สมบูรณ์สอดคล้องกัน กุญแจไขหน้าที่ของท่านทั้งหลายถูกเปิดออกแล้ว ณ บัดนี้ ท่านจะทราบและตระหนักรู้ได้ด้วยตนเองได้ว่าภาระกิจที่ท่านทั้งหลายได้อธิฐานก่อนลงมาเกิดในชาตินี้คือ อะไร และรู้ตัวว่าจะต้องทำอะไรและเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ผมขอโมทนาในกุศลของทุกท่าน และขอบคุณคุณเกษมในข้อมูลที่กว้างขวางและสมบูรณ์มากๆ ครับ
     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สายของอ.ดร.เทพพนมเตรียมไว้ที่เขาใหญ่จุดหนึ่ง และที่แม่ริม จ.เชียงใหม่อีกที่หนึ่งครับ
     
  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    กลุ่มเขากะลา จ.นครสวรรค์ พวกพี่วาสนายังรวมตัวกันเหนียวแน่นฝึกฝนเข้มข้นเหมือนเดิมครับ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อาจารย์ศักดา สกุลพนารักษ์เคยเตือนภัยไว้ดังนี้

    นับตั้งแต่ วันที่ 11 มีนาคม 2548 เป็นต้นไป จะเกิดภัยพิบัติอย่างร้ายแรง ทั้งจากเบื้องล่างและเบื้องบน......เบื้องล่าง คือ แผ่นดินไหว-แผ่นดินแยก-แผ่นดินทรุด น้ำท่วม (ระดับน้ำสูง 4-6 เมตร) เขื่อนพัง คลื่นขนาดใหญ่พัดเข้าหาฝั่ง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก ......ภัยจากเบื้องบน จะเกิดลมพายุพัดกระหน่ำ เป็นพายุหมุน ที่มีความเร็วสูง ทำลายอาคาร บ้านเรือน เรือกสวนไร่นา ชีวิตและทรัพย์สินเสียหายอย่างร้ายแรง......-จังหวัดที่จะได้รับความเสียหาย คือ เชียงใหม่ และลำพูน


    -ภาคกลาง กรุงเทพ และปริมณฑล

    -ภาคตะวันออก จังหวัดที่อยู่ชายฝั่งทะเล ให้ระวังภัยบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและตะวันตก จังหวัดที่อยู่ใกล้ชายทะเล ให้เตรียมตัวให้พร้อม อย่าได้ประมาท.......ควรจะหาที่อยู่สำรอง ในกรณีที่จำเป็นจะต้องอพยพหลบภัย ออกจากที่อยู่ในปัจจุบัน ให้พยายามหาที่อยู่บนที่สูง ให้เตรียมเสบียงอาหารสำรองไว้ให้พร้อม รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ถ้ามียานพาหนะ เติมน้ำมันให้เต็ม เพื่อที่จะได้เดินทางออกจากสถานที่เกิดภัยพิบัติให้ไกลที่สุด........

    ถ้าท่านยังไม่มีสถานที่พักสำรองให้ไปพักที่

    -ภาคใต้......ให้ไปพักที่พระธาตุเจดีย์สันติสุข ควนหินแท่น เส้นทางพัทลุง-หาดใหญ่ หลัก ก.ม.ที่ 41-42 ก่อนถึง อ.หาดใหญ่ บ้านทุ่งนารี อ.ป่าบอน โทร.074-211499

    -ภาคกลาง....ไปที่พระธาตุเจดีย์สันติสุข อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ถ้ำใหญ่ เขาวง หมู่ 11 บ้านหนองใหญ่ อ.บ้านไร่ (สอบถามเส้นทาง ไปพระธาตุ โทร.09-2304523 และ 07-8442755)

    -ภาคตะวันออก....ไปที่พระธาตุเจดีย์สันติสุข บ้านวังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี (โทร.ถามทาง 05-1707214)

    -ภาคอีสาน....โรงธรรม-โรงทานมังสวิรัติ พนารักษ์10 ถ้ำพระกายสิทธิ์ บานวังมน อ.ภูผาม่าน จ.ชัยภูมิ เส้นทางชุมแพ-หล่มสัก (โทร.06-6418771)

    -ภาคเหนือ....พระไตรรัตนเทวะสถาน ถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย หลัก ก.ม.ที่ 25 อ.ดออยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ (โทร.09-5826926)
    -จังหวัดน่าน........พระธาตุเจดีย์สันติสุข ภูลังกา เส้นทางดอกคำใต้ ไปบ้านสะเกิน ต.ยอด อ.สองแคว จ.น่าน (โทร.06-0162706และ 054-779094)

    สถานที่ดังกล่าว อ.ศักดา ได้เตรียมไว้สำหรับให้เป็นที่พักของผู้ที่อพยพหลบภัยพิบัติ เชิญท่านมาพักได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น......."ภัยที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากการตัดไม้ทำลายป่า ทำลายธรรมชาติแล้ว เกิดจากการที่เราได้เข่นฆ่าชีวิตผู้คนนับ 1,000 คน ในการปราบปรามยาเสพติด เพราะมีผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ทำความผิด ถูกฆ่าตายและถูกยึดทรัพย์สินไปจำนวนมาก และเกิดจากการฆ่าสัตว์ 30 กว่าล้านตัว เพื่อป้องกันไข้หวัดนก นับเป็นการทำบาปอย่างร้ายแรง จึงทำให้เกิดภัยพิบัติขึ้นมา มันเป็นกรรมของแผ่นดินอย่างแท้จริง!!!"

    ................ อ.ศักดา สกุลพนารักษ์.โทร.09-2304523...................
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  5. soonyata

    soonyata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +3,675
    จะรอดยังงัยไม่รู้ เอาเป็นว่าถือศีล 5 ให้ครบก่อนเป็นดี ถ้าใครทำได้มากกว่านั้น ก็เริ่มฝึกสมาธิกันได้แล้ว จะสายไหนก็ได้ เมื่อถึงเวลาผู้มีหน้าที่จะมารวบรวมผู้มีศีลธรรมทั้งหลายไปเองเพราะเป็นหน้าที่ของเค้าที่ต้องช่วยคนดีให้เหลือรอดมากที่สุด ตอนนี้ผู้มีหน้าที่เหล่านั้นเค้าก็เริ่มเตรียมตัวกันแล้ว อันนี้เราก็ไม่รู้หรอก เค้าบอกมาอีกที
    แต่ถ้าหากเราถือศีล 5 แล้วก็ยังไม่รอดจริง ๆ อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าศีลนี่แหละจะนำเราไปสู่สุคติภูมิ ไม่ต้องหวาดหวั่นว่าจะลงอบายภูมิอย่างคนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำชั่วอยู่ทุกวัน ขอให้ทุกท่านโชคดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2006
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอแรงคุณเกษม คุณMead และท่านอื่นๆที่มีข้อมูลช่วย รวบรวมสถานที่หลบภัยรายละเอียด และแผนที่มาไว้ที่กระทู้นี้ เพิ่มเติมด้วยครับเพื่อให้ง่ายในการค้นหาครับ ขอโมทนาล่วงหน้าด้วยครับ ขอให้กระทู้นี้เป็นของทุกๆคนที่ต้องการช่วยเหลือกันในช่วงภัยพิบัติครับ ผมขอให้เครดิตกับทุกๆท่านครับ
     
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    แนวทางในการเลือกสถานที่หลบภัยได้แก่
    ความปลอดภัย ความพร้อมของสถานที่นั้น ความสะดวกในการเดินทาง ความสะดวกในการพักอาศัย ความรู้จักคุ้นเคยกับเจ้าของสถานที่ ศีล ข้อวัตรแนวทางปฏิบัติเสมอกันกับสถานที่นั้น สุดท้ายไม่มีที่ไปจริงๆ ก็เลือกเอาซักที่และปรับตัวเข้าหาสถานที่นั้นๆ เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็จงหลิ่วตาตามครับผม
     
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    "สำนักอนุตรธรรม"ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งครับ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วไปกรุงเทพก็มีหลายจุด และเกือบทุกจังหวัดในประเทศไทยรวมถึงต่างประเทศด้วย ผู้ที่จะไปควรไป"รับธรรมะ"ด้วยเรียกว่า"ตรัยรัตน์" เป็นความลับสวรรค์ที่แพ่งพรายไม่ได้นอกจากที่สถานธรรมเท่านั้น คล้ายการขึ้นทะเบียนและเปิดตาที่สาม...แต่ต้องมีผู้แนะนำรับรองไปด้วย
    ยอมรับว่าผมมีศรัทธาและเชื่อถือที่นี่มาก หลังจากได้"ประชุมธรรม" ขอเล่าให้ฟังเล็กน้อยครับสำหรับท่านที่ไม่เคยไปมาก่อน ที่นี่มีพุทธระเบียบ ธรรมะบริสุทธิ์ ชาย-หญิงแยกกันชัดเจน และเน้นอาหารเจไม่เบียดเบียนชิวิตสัตว์

    การประชุมธรรม หากท่านใดเคยผ่านมาแล้ว จะรู้สึกซาบซึ้งกินใจสุดๆ ได้พบกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระโพธิสัตว์หลายพระองค์ เมตตากล่าวธรรมมะอันแยบยล กระเทาะสติปัญญาให้เราได้ขบคิด แฝงปริศนาธรรมในตัวอักษรบทกลอนได้อย่างน่าทึ่ง ยากที่ปุถุชนอย่างเราๆจะทำได้ โดยผ่าน"ร่างสามคุณ"ซึ่งเป็นการยืมร่างเด็กผู้หญิงบริสุทธิ์อายุ ราว 12-16 ปี มาเป็นสื่อกลาง
    วันนั้นชีวิตผมคุ้มค่าและจดจำไม่มีวันลืมทีเดียวครับ หากมีโอกาสจะไปสัมผัสบรรยากาศตรงนั้นอีกครั้งให้ได้

    ที่ที่ผมไปอยู่แถวดอนเมืองครับ อยู่ในหมู่บ้านนึงแถวนั้น...
    ในยามเกิดภัย บ้านเรือนที่อยู่โดยรอบแถวนั้นหลายร้อยเมตรจะถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีม่วงเรืองรองตรงกลางเป็นพุทธสถาน ผู้คนที่อยู่ในพุทธสถานและภายใต้การห่อหุ้มของแสงสีม่วงนี้จะพ้นภัยโดยทั่วกัน ผู้คนที่เป็นคนจิตใจดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะดลใจให้เขาวิ่งมาหลบภัยในพุทธสถานด้วย...
     
  9. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    จากข้อมูลที่ผมได้มา พอจะจำแนกสถานที่หลบภัยออกได้ดังนี้ครับ
    -สถานที่เปิดกว้างรับช่วยเหลือทุกคนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ
    -สถานที่หลบภัยส่วนตัวที่รับเฉพาะกลุ่มของตน
    -สถานที่หลบภัยลับที่ไม่อยากเปิดเผยสู่สาธารณะชน
    -สถานที่หลบภัยที่อยู่ในรูปรีสอร์ทและรอเปลี่ยนสถานะเมื่อถึงเวลาเพื่อช่วยคน
    วัตถุประสงค์ที่ผมเปิดประเด็นในกระทู้นี้เพียงเพราะอยากให้ข่าวสารข้อมูลและการประสานงานกันในแต่ละจุดซึ่งอาจขาดเหลืออะไรจะได้ช่วยเหลือจุนเจือกันในแบบเครือข่ายครับ ขั้นตอนนี้ขอให้ช่วยกันส่งข้อมูลและช่วยกันรวบรวมเรียบเรียงหน่อยครับ จะได้เริ่มจัดตั้งเครือข่ายและประสานงานต่อไปครับ
     
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    มี"รีสอร์ทไอยรา"(Iyara Park) ที่อุทัยธานีอีกแห่ง (ห่างจากวัดท่าซุงราว 12 ก.ม.) จากถนนสายเอเชียเข้ามาราว 8กม. เป็นของชาวไต้หวันครับ ทราบจาก"คุณแม้ว"ครับว่า "หลวงปู่เครา"กล่าวว่าเจ้าของรีสอร์ทนี้ทราบเป็นอย่างดีเรื่องภัยพิบัติ และพร้อมจะเปิดช่วยเหลือผู้คนในเวลานั้น..(ตอนนี้สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างปิดตัวครับ ผมเคยเข้าไปภายในแล้วสวยงามมาก เจ้าของที่เป็นผู้หญิงชาวไต้หวัน เล่าให้ฟังว่าอดีตชาติเคยเป็นคนอุทัยฯมาก่อน...จึงตั้งใจมาสร้างเอาไว้ที่นี่..)

    อาจจะมีอีกนะครับ ลักษณะเป็นรีสอร์ทที่พร้อมใช้งานได้เมื่อถึงเวลา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • iyapaview.jpg
      iyapaview.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.2 KB
      เปิดดู:
      118
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2006
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    แต่ถ้าตอนนั้นไม่คิดจะไปไหน ก็ตั้งหลักที่"บ้านตัวเอง"ครับ ซึ่งควรจะมีความแข็งแรง ควรดัดแปลงให้มี"ห้องนิรภัย"ขนาดประมาณเข้าไปนั่งหรือนอนได้ให้พอสำหรับ 4-5 คน ทำจากวัสดุผสมมีช่องระบายอากาศ กรองด้วยตะแกรงพลาสติกและแผ่นคาร์บอนของตู้ปลา และบุภายในด้วยแผ่นฟรอยด์หลายๆชั้นเพื่อป้องกันรังสี เก็บเสียง วางใว้ในตัวบ้านบนชั้นสอง..และมีอุปกรณ์ที่จำเป็นอยู่ในนั้นด้วยครับ..

    ทดลองออกแบบห้องนิรภัยมาเป็นตัวอย่างครับ
    อันนี้เฉพาะการป้องกัน"กายเนื้อ"เท่านั้นนะครับ ส่วนทางเรื่อง"จิต"นั้นก็สำคัญมากเช่นกัน..

    ***วัสดุและการสร้าง***
    โครงสร้างใช้เหล็กเส้น สานหรือถักเป็นตารางสี่เหลี่ยม ช่องละประมาณ 30 ซม.(ทำ2ชั้น) เว้นช่องตรงกลางผนังให้กว้างราว 10-15 ซม.ใส่แผนฟรอยด์หลายๆชั้น ผงถ่านคาบอนด์ หรือบรรจุกระป๋องน้ำอัดลมไว้ภายในให้เต็มช่อง เพื่อให้น้ำหนักเบา ประกบฝาด้วยไม้อัดเรซิ่นหรือไฟเบอร์อย่างหนา ทั้ง 2 ข้าง แล้วเททรายใส่ให้เต็มช่องผนังอย่าให้มีช่องว่าง

    ภายในติดโคมไฟแขวน+แบตตารี่ มีช่องเก็บของซ่อนใต้พื้น เก็บอาหารแห้ง มีช่องที้งขยะผ่านท่อฟรอยด์ออกไปภานนอก

    มีช่องระบายอากาศให้ถ่ายเทได้ ผ่านแผ่นกรองคาบอนด์ เลื่อนปิด-เปิดได้
    ใช้ป้องกันรังสีนิวเคลียร์ได้ระดับหนึ่ง ช่วยให้คนในครอบครัวปลอดภัย ในงบประมาณไม่เกินหมื่นบาท (ถ้าทำเอง) ภายในก็มีผ้าห่มกันรังสีของคุณ kananun ด้วยก็ยิ่งดีครับ...

    เอาไว้เป็นแนวทางเอาไปปรับใช้กันเองได้ ตามขนาดที่พอใจ...หรือสร้างเป็นก็ทรง"ปิรามิด"ยิ่งดีครับ..ไว้นั่งสมาธิและได้เรื่องพลังอีกด้วย (คงต้องช่วยกันคิดปรับปรุงอีก ขอความเห็นเพิ่มเติมด้วยครับ..)

    (ไม่แน่ใจว่าโฟมแผ่นหรือโฟมเม็ดใช้ป้องกันกัมมันตภาพรังสีได้แค่ไหน ดูเหมือนจะมีฉนวนอากาศอยู่ ใครรู้บ้างครับ..คุณ kananun ช่วยแนะนำด้วย...และใครมีความรู้เกี่ยวกับฉนวนแผ่นตะกั่ว โลหะแคดเมื่ยม เพื่อการป้องกันรังสีแกมม่า ความเป็นพิษของวัสดุเหล่านี้ด้วยครับ เพื่อความแน่ใจว่าใช้การได้จริงๆ..)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2006
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]

    [​IMG]
    Alpha particles are completely stopped by a sheet of paper, beta particles by an aluminum plate. To absorb gamma quanta, it takes a thick piece of metal, but the absorption is exponential, so a small fraction may still penetrate

    อนุภาคอัลฟา ไม่สามารถทะลุแผ่นกระดาษได้
    อนุภาคเบต้า ไม่สามารถทะลุแผ่นอลูมิเนียมได้
    คลื่นรังสีแกมม่า สามารถทะลุสิ่งกีดขวางได้ทุกประเภท (?)
     
  13. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    เห็นภาพนี้ของคุณ mead แล้วชอบจัง เหมาะจะเป็นห้องทำงานส่วนตัวมาก

    [​IMG]

    แต่ถ้าคิดจะสร้างเอาไ้ว้หลบภัยพิบัติแบบสบายๆ
    ก็น่าจะสร้างให้ลอยน้ำได้ มีล้อกับระบบ Break ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก
    มีลักษณะพรางตาจากสายตาผู้คน มีอาหารแห้งและเมล็ดพืชเก็บสำรองเอาไว้
    ควรเลือกเมล็ดพืชชนิดที่โตเร็วๆเอาไว้ด้วย เช่นพวกถั่วทั้งหลาย ถั่วงอก ถั่วเขียว
    ถ้าเป็นเมล็ดถั่วเหลือง จะสามารถนำมาทำเต้าหู้เป็นแหล่งโปรตีนได้
    ถ้าจะให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ก็ควรมี Generator, รถจักรยาน, Batery สำรองไฟ, หลอดไฟ,
    หนังสือธรรมะ และ คอมพิวเตอร์เก็บไว้ด้วย (ติดมาด้วยเพราะสร้างเอาไว้เป็นห้องทำงานส่วนตัวนี่นา)
    รถจักรยาน กับ Generator สามารถนำมาดัดแปลงเป็นเครื่องปั่นไฟได้
    พวกยารักษาโรคประจำตัว, อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื่องต้น, เชือก, วิทยุแร่,
    อุปกรณ์ทำความร้อน (เอาไว้ให้ความอบอุ่น กับ ทำอาหาร) ถ้ามีเก็บไว้บ้างก็จะดี

    ก็ว่าไปเรื่อยตามประสาคนช่างฝันน่ะครับ
    อยากสร้างเอาไว้ทำงานเงียบๆคนเดียวมากกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2006
  14. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ผนังตะกั่วครับที่ใช้กันรังสี ในระดับเข้มข้น แต่ถ้าไม่โดนตรงๆรังสีไม่เข้มข้นใช้แผ่นอลูมิเนียมหรือแผ่นทองแดงหลายๆชั้น มากั้นก็ได้ครับ พอกล้อมแกล้ม ได้
    ถ้าจะเอาชัวร์ เต็ม100ใช้งบหลายล้านครับ เรามาประยุกต์ให้workที่สุดในงบที่ประหยัด ที่สุดอย่างที่คุณMead ให้ข้อมูลเป็นไอเดียดีกว่าครับ ที่หลบภัยแบบพอเพียงครับ
     
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เอาแบบประหยัดๆและ Workครับ...ที่คุณจันทร์เจ้าเสนอมาก็ดีๆหลายเรื่องนะครับ สำหรับ"เมล็ดพืช"ชนิดที่โตเร็วๆ น่าสนใจมากครับ แต่ถั่วจะปลูกขึ้นรึเปล่า ถ้าไม่มีแสงแดด?(ยังไม่ได้ทดลองครับ!) อาจต้องหาหลอดไฟ UVมาใช้แทนแสงแดด

    เรื่องยานพาหนะอย่างจักรยาน อาจต้องประกอบกับทุ่นลอยน้ำทั้ง 2 ข้าง สามารถปั่นให้เคลื่อนที่ในน้ำได้ด้วยนะครับ..ชักสนุกครับ idea พวกนี้...

    (เรื่องวัสดุป้องกันรังสี ผมลอง mailไปถาม ดร.ชัยวัฒน์ คุปตระกูล อาจได้คำตอบที่เป็นประโยชน์เร็วๆนี้ครับ..)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2006
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ที่ญี่ปุ่นใช้แผงหลอดไฟ led ให้แสงแทนพระอาทิตย์มาปลูกพืช แบบนี้ตามใต้ถุนตึกอาคารสำนักงานครับ หลอดชนิดนี้มีข้อดีคือ อายุการใช้งานนานมาก กินไฟน้อยมาก แค่ระดับมิลลิแอมป์ และแผ่รังสีความร้อนตำครับ พืชอีกชนิดที่แนะนำคือสาหร่ายเกลียวทองครับ ที่พระจอมเกล้า บางมดมีการทำแผงปลูกขนาดเล็กขนาดวางบนดาดฟ้าได้ ไปดูแบบแล้วมาดัดแปลงได้ครับ ข้อดีคือสาหร่ายนี้มีสารอาหารครบ มีนักวิ่งมาราธอนเคยทดลองไม่กินอาหารอื่นเลยกินแต่ไอ้เจ้านี่อย่างเดียวเป็นปีๆ ก็ยังวิ่งลงแข่งได้ และยังมีคุณสมบัติดูดซึมรังสีด้วยครับ ข้อมูลอื่นหาอ่านในหนังสือชื่อความลับของสาหร่ายเกลียวทอง พิมพ์โดยสถาบันวิจัยแห่งชาติครับ
     
  17. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "สาหร่ายเกลียวทองคืออะไร" สาหร่ายเกลียวทอง เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำพวกโพรคาริโอท (prokaryotes) ซึ่งยังไม่มีนิวเคลียสที่แท้จริง
    การจัดหมวดหมู่ทางอนุกรมวิธานมีดังนี้
    Phylum Cyanophyta
    [​IMG]
    Class Cyanophyceae
    [​IMG]
    Order Oscillatoriale
    [​IMG]
    Family Oscillatoriaceae
    [​IMG]
    Genus Spirulina
    สาหร่ายเกลียวทองที่ค้นพบแล้วมีประมาณ 30 ชนิด (species) ชนิดที่มีรายงานการทดลองและใช้ประโยชน์มากที่สุดคือ S. platensis และ S. maxima
     
  18. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="127" width="0%"><tbody><tr><td width="14">
    </td> <td bgcolor="#ffffff" height="127" width="499"> อาหารเสริม : สาหร่ายเกลียวทอง หรือ สไปรูไลน่า GD-1
    นักชีววิทยาคุณเจียมจิตต์ บุญสม เ ป็นผู้ที่ขนานนามสาหร่ายสไปรูไลน่า Spirulina ว่า"สาหร่ายเกลียวทอง" สืบเนื่องมาจากลักษณะของสาหร่ายชนิดนี้เป็นรูปเกลียวขดยาวและใช้ชื่อสาหร่ายเกลียวทองนี้ในหนังสือแปล
    งานวิจัยของญี่ปุ่นเรื่อง "ความลับของสาหร่ายเกลียวทอง ผลทางการรักษาโรค ที่ญี่ปุ่นค้นพบ" ให้กับสำนักงาน
    คณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติิ จนขณะนี้ชื่อของสาหร่ายเกลียวทอง ได้กลายมาเป็นชื่อสามัญของอาหารเสริม ชนิดนี้ คุณเจียมจิตต์ และคุณสมชาย บุญสม ได้จัดตั้งฟาร์มสาหร่ายเกลียวทอง ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือขึ้น เพื่อผลิตสาหร่ายเกลียวทองที่มีคุณภาพ เพื่อสุขภาพคนไทย
    </td></tr></tbody></table>
     
  19. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="505"><tbody><tr><td background="Welcome to gd-1_com_files/faq_image009bg.gif" width="7">
    </td> <td bgcolor="#d8dee5" width="10"> </td> <td align="left" bgcolor="#d8dee5" valign="top" width="462">"ควรรับประทานสาหร่ายเกลียวทอง GD-1 ในปริมาณเท่าไรในครั้งแรก" ในช่วง 2-3 วันแรก ควรเริ่มจาก 2 เม็ดหรือ 2 แคปซูลก่อน ซึ่งท่าน สามารถรับประทานก่อนอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง พร้อมกับน้ำ 1 แก้ว เพื่อบรรเทาความหิว หรือหากท่านมีน้ำหนักตัวปกติก็สามารถทานพร้อมกับมื้ออาหาร ได้ ขั้นต่อมา เมื่อร่างกายของท่าน สามารถปรับตัวเพื่อรับสารอาหารจากสาหร่ายเกลียวทอง GD-1 แล้ว ก็สามารถเพิ่มปริมาณเป็น 3-4 เม็ด หรือแคปซูลได้ โดยรับประทานวันละ 3 เวลา หลังจากนั้น ท่านสามารถตรวจสอบความต้องการของตัวเองได้ว่า ร่างกายต้องการมากน้อยแค่ไหน หรือ รับประทานตามคำแนะนำของแพทย์

    </td> <td bgcolor="#d8dee5" width="12"> </td> <td background="Welcome to gd-1_com_files/faq_image010bg.gif" width="7"> </td> </tr> <tr align="right"> <td colspan="6"> </td> </tr> <tr> <td colspan="6">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td class="en7" colspan="6" height="18"></td> </tr> <tr align="right"> <td colspan="6"> </td> </tr> <tr> <td width="7">
    </td> <td background="Welcome to gd-1_com_files/faq_image009bg.gif" width="7"> </td> <td bgcolor="#cfe3cf" width="10"> </td> <td class="th10" align="left" bgcolor="#cfe3cf" valign="top" width="462">"ควรเลือกรับประทานแบบเม็ด หรือแคปซูล" ถ้าคำนึงถึงเรื่องราคา ชนิดเม็ด จะราคาถูกกว่าแบบแคปซูลเมื่อเปรียบเทียบต่อกรัม แต่หากคำนึงเรื่องการใช้ แบบแคปซูลสามารถดูดซึมได้ดีกว่า ทันทีที่เปลือกแคปซูลละลาย ซึ่งถ้าเป็นแบบเม็ด จะถูกย่อยที่กระเพาะ และสำหรับผู้ที่รับประทานเจหรือมังสวิรัต ก็ให้เลือกแบบเม็ด เนื่องจากเปลือกของแคปซูลทำจากเจลาติน ซึ่งสกัดจากสัตว์
    เลือกรับประทานตามความเหมาะสมของท่านได้ เพราะไม่ว่าท่านจะเลือกรับประทานแบบใด ก็สามารถรับคุณประโยชน์จากสาหร่ายเกลียวทอง GD-1 มากที่สุดเช่นกัน

    </td> <td bgcolor="#cfe3cf" width="12"> </td> <td background="Welcome to gd-1_com_files/faq_image010bg.gif" width="7"> </td> </tr> <tr align="right"> <td colspan="6"> </td> </tr> <tr> <td colspan="6">[​IMG]</td> </tr><tr> <td class="en7" colspan="6" height="18"></td> </tr> <tr align="right"> <td colspan="6"> </td> </tr> <tr> <td width="7"> </td> <td background="Welcome to gd-1_com_files/faq_image009bg.gif" width="7"> </td> <td bgcolor="#d8dee5" width="10"> </td> <td class="th10" align="left" bgcolor="#d8dee5" valign="top" width="462">"ระบบในการเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทอง GD-1 มีระบบอะไรบ้าง" ระบบที่ใช้เพาะเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทอง เพื่อการพาณิชย์นั้น มีเพียงระบบเดียว คือ การเลี้ยงในบ่อกลางแจ้ง โดยให้ได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง หรือที่เรียกว่า ระบบเปิด นั่นเอง ส่วนระบบปิด เป็นระบบที่ใช้เพาะเลี้ยงเชื้อในห้องปฏิบัติการ มีการควบคุมอุณหภูมิ แสง ค่าความเป็นกรด-ด่าง ฯลฯ โดยจะเลี้ยงในหลอดแก้ว ฉะนั้น การปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมจึงน้อยมาก
    สำหรับการเพาะเลี้ยง สาหร่ายเกลียวทอง GD-1 ของบริษัท กรีนไดมอนด์ จำกัด ที่ตั้งอยู่ที่ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการเพาะเลี้ยงทั้ง 2 ระบบ โดยใช้ระบบปิดในหลอดทดลอง และบ่ออนุบาล เมื่อสาหร่ายเจริญเติบโตแข็งแรงแล้ว ก็ย้ายไประบบเปิด คือ เพาะเลี้ยงในบ่อกลางแจ้งเพื่อรับแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่ บริษัทฯ ได้พัฒนาให้หลังคาของบ่อเพาะเลี้ยงสามารถเคลื่อนย้ายปิด-เปิดได้ เพราะหากเปิดไว้ตลอดเวลา เมื่อฝนตก จะทำให้มีสิ่งเจือปนลงไปในบ่อเพาะเลี้ยงได้ นอกจากนี้ การคลุมหลังคาตลอดเวลา ทำให้ความเข้มของแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบน้อยลง ทำให้ความเข้มของแสงอาทิตย์น้อยลง เป็นผลให้สาหร่ายไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้เต็มที่ คุณภาพสาหร่ายที่ได้ก็ลดลงตามไปด้วย

    </td> <td bgcolor="#d8dee5" width="12"> </td> <td background="Welcome to gd-1_com_files/faq_image010bg.gif" width="7"> </td> </tr> <tr align="right"> <td colspan="6"> </td> </tr> <tr> <td colspan="6">[​IMG]</td> </tr><tr> <td class="en7" colspan="6" height="18"></td> </tr> <tr align="right"> <td colspan="6"> </td> </tr> <tr> <td width="7"> </td> <td background="Welcome to gd-1_com_files/faq_image009bg.gif" width="7"> </td> <td bgcolor="#cfe3cf" width="10"> </td> <td class="th10" align="left" bgcolor="#cfe3cf" valign="top" width="462">"กินสาหร่ายแล้วทำไมท้องผูก ทั้งๆ ที่น่าจะขับถ่ายได้ดีขึ้น" อันที่จริงแล้ว การรับประทานสาหร่ายเกลียวทอง GD-1 จะช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น เนื่องจาก ในสาหร่ายเกลียวทอง GD-1 มีคลอโรฟิลล์สูง ซึ่งจะทำให้ลำไส้บีบรัดตัวได้ดีขึ้น และช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียที่ติดค้างอยู่ในลำไส้ได้ดียิ่งขึ้น สังเกตได้จากผู้ที่เพิ่งเริ่มรับประทาน สาหร่ายเกลียวทอง GD-1 จะถ่ายบ่อยครั้งขึ้นในช่วงแรก
    สำหรับบางท่านที่รับประทานสาหร่ายแล้วมีอาการท้องผูก สาเหตุอาจเกิดจากการดื่มน้ำน้อยจนเกินไป เนื่องจากในสาหร่ายเกลียวทอง GD-1 จะทำให้ความเข้มข้นของสารอาหารในกระแสเลือดค่อนข้างสูง ร่างกายจึงดูดซับน้ำจากส่วนต่างๆ ของร่างกายมากขึ้น เพื่อสร้างสมดุลในกระแสเลือด ดังนั้น สำหรับท่านที่เกิดอาการท้องผูก จึงควรดื่มน้ำในปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม

    </td> <td bgcolor="#cfe3cf" width="12"> </td> <td background="Welcome to gd-1_com_files/faq_image010bg.gif" width="7"> </td> </tr> <tr align="right"> <td colspan="6"> </td> </tr> <tr> <td colspan="6">[​IMG]</td> </tr><tr> <td class="en7" colspan="6" height="18"></td> </tr> <tr align="right"> <td colspan="6"> </td> </tr> <tr> <td width="7"> </td> <td background="Welcome to gd-1_com_files/faq_image009bg.gif" width="7"> </td> <td bgcolor="#d8dee5" width="10"> </td> <td align="left" bgcolor="#d8dee5" valign="top" width="462">"ทำไมต้องทานสาหร่ายเกลียวทอง GD-1" ผู้คนมักไม่รู้ว่า อาหารที่รับประทานในแต่ละวันตัว มีสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ จึงเป็นที่มาของอาหารเสริมประเภทต่างๆ แต่ก็มักจะไม่ครบถ้วน หรือไม่เหมาะสมตามที่ร่างกายต้องการ ต่างจากสาหร่ายเกลียวทอง GD-1 ที่เป็นอาหารเสริมมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการครบทั้ง 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม สาหร่ายเกลียวทอง GD-1 จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ต้องการเลือกอาหารเสริมสุขภาพ ที่ครบถ้วนและเหมาะสมต่อร่างกาย

    </td> <td bgcolor="#d8dee5" width="12"> </td> <td background="Welcome to gd-1_com_files/faq_image010bg.gif" width="7"> </td></tr></tbody></table>
     
  20. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    <table border="0" cellspacing="0" width="98%"><tbody><tr><td height="154"><table border="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#ffffff"><td width="55%">[​IMG]</td> <td width="45%"> สาหร่ายเกลียวทองน่าจะมีผลต่อการขจัดพิษของโลหะหนัก จากไต และยังเชื่ออีกว่าถ้ากินสาหร่ายเกลียวทองร่วมกับยารักษาโรคที่หมอจ่ายให้ ก็จะช่วยลดพิษของยาที่มีต่อไตได้ เป็นข้อสันนิษฐานจากผลการทดลองที่พบว่า สาหร่ายเกลียวทองช่วยลดพิษของสารปรอท และยาอันตรายที่มีผลต่อไตที่แพทย์จ่ายให้
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="51">
    [​IMG] สูตรลับความงามด้วยสาหร่ายเกลียวทอง
    นำสาหร่ายชนิดแคปซูล แกะเอาแต่เนื้อ สาหร่ายผสมกับโยเกิรต์เล็กน้อย พอกหน้าใบหน้าคุณจะใส กิ๊ก

    </td> </tr> </tbody></table> [​IMG] ประโยชน์ของสาหร่าย

    แพทย์ชาวญี่ปุ่นและเม็กซิกันให้ความสนใจอย่างลึกซึ้งในการนำสาหร่ายเกลียวทองไปใช้เสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่มนุษย์
    การศึกษาวิจัยส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่า สาหร่ายเกลียวทองเป็นสิ่งที่ใช ้เสริมการรักษาของแพทย์และให้ผลดีโดยเฉพาะ
    ในกลุ่มคนไข้ที่มีภาวะทุพโภชนาการเรื้อรังเป็นสาเหตุของโรค อย่างไรก็ดี
    [​IMG] เราเชื่อว่าสาหร่ายเกลียวทองทำให้อายุยืน
    ทำไมจึงเชื่อ ?
    คำตอบ ที่ต้องเอาตัวเองเป็นเดิมพัน เพราะช่วงที่กินสาหร่ายเกลียวทองมา 16-17 ปี หมอเกือบไม่ได้เงินจากเราทั้งที่เป็นคนขี้โรคมาก่อน สมาชิกที่กินสาหร่ายจำนวนพัน จำำนวนหมื่นก็ยืนยันอย่างนั้น ยิ่งเมื่อได้อ่านหนังสือเรื่อง Food of the future เขียนโดย ศ.ดร. นายแพทย์ สมศักดิ์ วรคามิน ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นมากขึ้นไปอีก สรุปสั้นๆได้ว่าเอ็นไซม์ซี่งมีอยู่ในสาหร่ายเกลียวทองมากกว่า 2,000 ชนิด ทำหน้าที่ร่วมกับโคเอ็นไซม์ ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน เกลือแร่ ทำให้เอ็นไซม์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเอ็นไซม์ที่ชื่อ เอ็นโคนิวคลีเอส ซึ่งปกป้อง ซ่อมแซม DNA ที่ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระไม่ให้ผิดเพี้ยนจนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง เมื่อเซลล์ของ DNA อยู่ในสภาพดี และมีการแ่บ่งตัวเซลล์ใหม่อยู่ตลอดเวลา ความแก่ก็ไม่มา ผิวหนังก็ไม่เหี่ยวย่น โดยเฉาะสาหร่ายเกลียวทองมีตัวโคเอ็นไซม์ที่ชื่อ โฟเลส (โฟลิกแอซิค) หรือวิตามินบี 9 เข้ามาช่วยเร่งการแบ่งตัวให้เร็วขึ้น DNA ก็จะแบ่งตัวได้นานถึง 120 ปี อย่าลืมออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อน และทำอารมณ์ให้สงบด้วย

    นายสมชาย บุญสม
    กรรมการผู้จัดการ
    บ. กรีนไดมอนด์ จก.


    http://www.gd-1.com/
     

แชร์หน้านี้

Loading...