มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

ไม่ใช่ของ "วัดนั้นนะครับ" แต่นี่เป็น "โพชฌงค์ 7" ตามพระไตรปิฏกที่ไม่ใช่ของ "วัดนาป่าพง" ซึ่งของวัดนา เขา "มโนเอาว่าเห็นเกิดดับมากพอ" แต่ของพระไตรคือ

https://th.m.wikisource.org/wiki/เจริญสติปัฏฐาน_๔_บำเพ็ญโพชฌงค์_๗_ให้บริบูรณ์


เจริญสติปัฏฐาน ๔ แล้วอย่างไร ทำให้มากแล้วอย่างไร จึงบำเพ็ญโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์ได้

สมัยใด ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกาย มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌา และโทมนัสในโลกเสียได้อยู่

• ในสมัยนั้น สติย่อมเป็นอันเธอผู้เข้าไปตั้งไว้แล้ว ไม่เผลอเรอ สมัยใด สติเป็นอันภิกษุเข้าไปตั้งไว้แล้วไม่เผลอเรอ
  ในสมัยนั้น สติสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว
  สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่า ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์
  สมัยนั้น สติสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญ และความบริบูรณ์แก่ภิกษุ
  เธอเมื่อเป็นผู้มีสติอย่างนั้นอยู่ ย่อมค้นคว้า ไตร่ตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นได้ด้วยปัญญา
• สมัยใด ภิกษุเป็นผู้มีสติอย่างนั้นอยู่ ย่อมค้นคว้า ไตร่ตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นด้วยปัญญา
  ในสมัยนั้น ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว
  สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่า ย่อมเจริญธรรมวิจยสัมโพชฌงค์
  สมัยนั้น ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ ย่อมถึงความเจริญ และความบริบูรณ์แก่ภิกษุ
  เธอเมื่อค้นคว้า ไตร่ตรอง ถึงความพิจารณาธรรมด้วยปัญญาอยู่ ย่อมเป็นอันปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน
• สมัยใด ภิกษุค้นคว้า ไตร่ตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นด้วยปัญญา ปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน
  ในสมัยนั้น วิริยสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว
  สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญวิริยสัมโพชฌงค์
  สมัยนั้น วิริยสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ
  ปีติปราศจากอามิสย่อมเกิดขึ้น แก่ภิกษุผู้ปรารภความเพียรแล้ว
• สมัยใด ปีติปราศจากอามิสเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้ปรารภความเพียรแล้ว
  ในสมัยนั้น ปีติสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว
  สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญปีติสัมโพชฌงค์
  สมัยนั้น ปีติสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ
  ภิกษุผู้มีใจเกิดปีติ ย่อมมีทั้งกายทั้งจิตระงับได้
• สมัยใด ทั้งกายทั้งจิตของภิกษุผู้มีใจเกิดปีติ ระงับได้
  ในสมัยนั้น ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว
  สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่า ย่อมเจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
  สมัยนั้น ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ
  ภิกษุผู้มีกายระงับแล้ว มีความสุข ย่อมมีจิตตั้งมั่น
• สมัยใด จิตของภิกษุผู้มีกายระงับแล้ว มีความสุขย่อมตั้งมั่น
  ในสมัยนั้น สมาธิสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว
  สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์
  สมัยนั้น สมาธิสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ
  ภิกษุนั้นย่อมเป็นผู้วางเฉยจิตที่ตั้งมั่นแล้ว เช่นนั้น ได้เป็นอย่างดี
• สมัยใด ภิกษุเป็นผู้วางเฉยจิตที่ตั้งมั่นแล้วเช่นนั้นได้ เป็นอย่างดี
  ในสมัยนั้น อุเบกขาสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว
  สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์
  สมัยนั้น อุเบกขาสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญ และความบริบูรณ์แก่ภิกษุ

สมัยใด ภิกษุพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌา และโทมนัสในโลกเสียได้อยู่

...(โดยนัยเดียวกันกับเจ็ดประการดังกล่าวข้างต้น)

สมัยใด ภิกษุพิจารณาเห็นจิตในจิต มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌา และโทมนัสในโลกเสียได้อยู่

...(โดยนัยเดียวกันกับเจ็ดประการดังกล่าวข้างต้น)

สมัยใด ภิกษุพิจารณาเห็นธรรมในธรรม มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌา และโทมนัสในโลกเสียได้อยู่

...(โดยนัยเดียวกันกับเจ็ดประการดังกล่าวข้างต้น)

ซึ่งสำนักวัดนา "หากายในกายไม่เจอแล้วจะทำโพชฌงค์ 7 ได้หรือไม่?" แล้วที่คุณซัลได้ทดลอง "ตรงตามพระไตรปิฏกหรือไม่นะครับ"

 

โชคดีที่ผมยังไม่ได้ทำครับ เพราะผมยังไม่เข้าใจข้อความในพระไตรปิฏกได้ดีนัก

บางครั้งความโง่ก็ช่วยผมได้เหมือนกัน

 

ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกาย มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติ
สิ่งที่ผมไม่ค่อยมั่นใจตอนนี้คือเรื่องสตินี่แหละครับ น่าจะได้ฝึกสติยาวเลย

 

ผมเคยฝึกจากการคิดครับ ใช้ไม่ได้หรอก แต่ผมจะไม่ห้ามท่านว่าไม่ให้ฝึกต่อไป แต่อาจจะบอกให้ท่านลองทำต่อดู (มันจะได้หายคาใจ)
แต่ ถ้าท่านจะฝึกต่อ ผมก็ขอให้ท่านก็สังเกตสิ่งที่ตัวเราทำที่เป็นผลมาจากสิ่งที่เราคิดว่าเรารู้ไปเรื่อย ๆ ครับ
สิ่งที่เรารู้จากการคิด กับสิ่งที่เรารู้จากการปฏิบัติจน เห็นจริง ให้ผลต่างกันนะ

ผลจากการฝึกด้วยการคิด มันเป็นอย่างไรผมไม่อาจบอกได้ เพราะมีแต่ท่านที่รู้ที่เข้าใจ บางอย่างอาจจะใช้ได้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้ไม่ได้ครับ

ขออภัย มีแก้และอยากให้คุณชีวินอ่านครับ

ช่วงที่ผมหลงอยู่ กิเลสที่เราไม่รู้จัก แสดงตัวกันเพียบเลยครับ เจอวิปัสนูกิเลสปลอม ๆ เล่นงาน 555 (คือขนาดเราไม่เห็นจริง เราก็อยากพูดสิ่งที่เรารู้ออกมาน่ะครับ)
ทำอะไรเพี้ยน ๆ มากมาย มานะทิฐิแสดงตัวเยอะกว่าตอนนี้อีกครับ มารู้ตัวทีหลังว่าหลงนี่ กำลังใจตกไปเยอะ

 

ผั๊วะ!

สติปัฏฐาน. เปนทางสายเดียว. ในอริยวินัยนี้

พุทธภูมิ พระปัจเจก. สาวก. เดินทางเดียวกัน

แตกต่างด้วย. อาการของ สัญญขันธ์

พุทธิภูมิ จึงเกิดตาม. ปัจจัยการ. ไม่ใช่ด้วย
การดำริจะเปน

พุทธภูมิ ที่กลัวบรรลุ ย่อมไม่ใช่ฐานะ

พุทธภูมิ มีจิตไม่ตกจากสติปัฏฐาน. จึงเปนฐานะ
(มีแม้นปฏิสนธิ เจริญในครรภมารดา)

การไม่บรรลุ จะเกิดตามปัจจัยการ หากมีเหตุ
ปฏิบัติให้ตาย ก้ไม่บรรลุหลอก. ปฏิบัติจึงชน
นิพพานเปนกิจ(เปนอัตโนมัต ไม่ใช่เออะอะเจตนาชน
เจตนาถอย,ถ้าเจตนาชน เจตนาถอยนั่นคืออาการ. "ติดในภพ"
ซึ่งเปนไปไม่ได้ ที่พุทธภูมิจะมี อาการเหนอย่างนั้น. ...
ยกตัวอย่างสมณโคดมตอนเปนโพธิสัตว์ เผลอเข้าอากาสา
แล้วสอนคณาศิษย์ว่านี่ที่สุดแห่งทุกข์ พอท่านมรณะแล้ว
ไปปรากฏเปนพรหม. ท่านรีบกับมาแจ้ง. ศิษย์เอกสารีบุตร
ว่า. เราสอนผิดให้ละทิ้งเสึยโดยพลัน. ....อ่านอาจจะ งง นะ
มันเปนเรื่อง. ความพร่องของขันธ์5. ที่จะอธิบาย. โพธิวิสัย)

การบรรลุอนุตระสัมมาฯ ถ้ามีปัจจัย
ครบ. ก้เดินเจ็ดก้าว ว่ากันไป

 

ผมคงบ้ามากโขอยู่น่ะครับ ผมเป็นคนที่สุขภาพจิตไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาเท่าไร
แต่ตอนนี้จะว่าจะเลิกกังวลเรื่องพุทธภูมิละ ลองเดินหน้าชนดู เพราะได้ยินครูบาอาจารย์บอกว่ายังไง ๆ พุทธภูมิก็ไม่บรรลุ

 

ขอตัวนอนก่อนละคร้าบ สวัสดี

 

ขอสัก. ผั๊วะ!

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเล สอนไว้

ปฏิปทาโพธิสัตวชื่อว่า "เสียโพธสัตว"

มี โพธสัตว ไหม?......ไม่มี อย่าให้มี เปนสุญญตา

มี โพธสัตว ไหม?.......มีทุกขณะ. สุญญตาตลอด. ( กบ เปนอาหารข้าเจ้า ฮิ)

งง ให้รู้ว่า งง. ( กบ. มัน ฮ้อง )

การรู้ว่า งง เปนสภาวะธรรม. เรียกว่า. จิตในจิต

สติ เปนสิ่งเกิดดับ. ( ฝง โตะ )

สติมีตลอด เปน. อาการทิฏฐิ มันทับ การภาวนา. ( ฝึงเปียะ )

.......

 

..พระอุปัชฌาน์ย่อมเมตตาเณรน้อยขี้สงสัย..รอก่อนท่านZaให้ถึงเวลาอันสมควรแก่...
_พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชอบแล้ว_
..."เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้"...

***เงื่อนไขตามเวลา***

 

ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน คุณเล่าปัง ก็ไม่เคยใช้ภาษาที่อ่านรู้เรื่องสักที ผมนี้กุมขมับเลย

 

เมืองน้ำดำที่ว่าอยู่กาฬสินธุ์ รึ!ฮู้วววววว

 

ครูบาบุญชุ่ม...ลาพุทธภูมิ3ครั้งไม่สำเร็จ...
แต่บอกประชาชนว่า...ปฏิบัติไม่สำเร็จใดๆเลย ไม่รู้ ไม่เห็นอะไรเลย

..ลองพิจารณาด้วยตนเองสิท่านZa..
อย่ายึดติดกับพุทธภูมิอยู่เลย

 

ณ.ปัจจุบันนี้ เราก็สามารถแนะนำพวกท่านถึงความพ้นทุกข์ได้...แต่ด้วยยังไม่ถึงเวลาที่ตถาคตตรัสไว้ หมายถึง ยังไม่บริบูรณ์ด้วยกาล จึงมีมารมาขัดขวาง หากเราแนะนำต่อไปยิ่งจะเป็นการเพิ่มโทษให้แก่เรา

จะเป็นเหตุให้ล่าช้า และ จะทำให้เราปฏิบัติลำบากขึ้น เป็นการเพิ่มอกุศลให้แก่เราในการทำให้แจ้ง

....โปรดเข้าใจ....

 

จะบอกว่า...คำสอนทางศาสนาและในพระไตรปิฎกนั้น มีการผูกคำเข้าด้วยกันและเป็นคำพ้องเสียงซึ่งผูกไว้ใน3ภาษา ภาษาบาลี๑ ภาษาไทย(อิสาน)๑ ภาษาอังกฤษ๑ ถ้าจะแปลให้ถูกจริงๆต้องแยกออกแปลความหมายทีละคำ แล้วจึงนำมารวมกันเป็นประโยค ตัวอย่างเช่นคำว่า...สระอโนดาด

..สระ คือสระน้ำ หรือ บ่อ(บ่=ภาษาอิสาน)

อะ แปลว่า ไม่(บาลี)

โน แปลว่า ไม่(อังกฤษ)

ดาด แปลว่า มาก_หลาย(ไทย_อิสาน)

คำว่า.."อกาลิโก" ก็ทำนองเดียวกัน
ความหมายคือ.."ไม่มีเวลาเป็นเครื่องร้อยรัด" ประมาณนี้แหละ แต่จะแปลเป็นภาษาต่างๆนั้นขึ้นอยู่กับผู้แปล

พระอรหันตสาวกผู้สังคยานายุคแรก ย่อมหยั่งรู้เหตุการล่วงหน้า ว่าภาษาใดจะเป็นภาษาเอกของโลก แต่ยังมีหลักที่มาจากภาษาพระพุทธองค์ใช้เมื่อครั้งพุทธกาลอยู่ คือ ภาษาอิสาน

หากคนอิสานอ่านพระไตรปิฎกแล้วแปลเป็นภาษาตนจะเข้าใจ_เข้าถึงคำสอน ได้เร็วขึ้น

ฝากถึงท่านอณูธาตุ

 

คุณเล่าปัง ท่านเปนคน คลึกครัฟ ครับ คุณ nan_nori

 

ไม่รู้สิครับ ท่าน เล่าปัง ผมรู้สึก 3 แดนโลกธาตุไม่ใช่สิ่งที่ผมปรารถนา ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก เหมือนมีทุกข์ติดตัว อย่างที่พระท่านว่า หายใจเข้าออกก็ทุกข์ เปรียบทุกข์เหมือนเข็มนาฬิกาที่หมุนวนอยู่ใน 3แดนโลกธาตุ ทุกข์น้อย ทุกข์มาก ทุกข์แตกต่างกันไป ผมก็ไม่ทราบว่าผมจะไปไหนดีให้พ้นทุกข์ใน สามแดนโลกธาตุนี้ ไม่อยากเกิดเป็นสิ่งใดเลย

 

ก็อย่างที่ท่านว่าครับ มันเป็น จิตกับเจตสิก

 

= =
ผู้สงบ

ท่านเคยคำนึงถึงคำว่า "ธรรมชาติ" หรือเปล่าครับ
คนเรามี จริต มี "ธรรมชาติ" ไม่เหมือนกันนะ

ธรรมชาติที่ฝืน
มันให้ความรู้สึกอึดอัด..

ถ้าไม่อยากให้คนที่ท่านสอน มีความรู้สึกฝืน
ท่านก็ต้องสลายความรู้สึกฝืนที่เขามีให้ได้ ไม่งั้นมันจะเป็นการ "ยัดเยียด"

และท่านก็ต้องหัดสลายมิจฉาทิษฐิของคนให้เป็น

ท่านเป็นพระยาธรรมหรือไม่ผมไม่ทราบ
แต่ตำแหน่ง ที่เขามอบหมายมา ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้คนยอมรับท่านว่าท่านเป็นพระยาธรรม

พระยาธรรมชนะคนด้วยธรรม

ธรรมะที่มีคนรับฟัง เข้าถึงจิตใจคน คลายความสงสัย สอนให้เห็นความจริงของโลก
ไม่ใช่การอุปโลกน์ แต่งขึ้น สามารถปฏิบัติตามเห็นผลได้กระจ่างแจ้ง ถึงจะทำให้ท่านถูกยอมรับ

พระพุทธเจ้าทำอย่างไร... ท่านทำอย่างไร...


ส่วนผม คือผม

 

กระทู้นี้..มีคนเป็นอาจารย์คอยแนะนำอยู่แล้ว เราจึงไม่อยากยุ่ง

...ถ้าเรารู้ว่ามีอาจารย์คอยแนะนำการปฏิบัติอยู่ก่อนแล้ว เราจะไม่ยุ่งเลยตั้งแต่แรก แต่ด้วยเราไม่รู้ว่าพวกท่านมีอาจารย์ แต่วันนี้เรารู้แล้ว เราจึงหลีกทางให้อาจารย์ของพวกท่าน

อาจารย์พวกท่านอาจจะดุหน่อยนะ..เอะอะ เอะอะ ผั๊ว!!! 5555+