ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯ,แคนาดาสัญญาไม่ลำเอียงคดีลูกสาว'หัวเว่ย' โวยจีนจับตัวพลเมืองโดยพลการ เผยแพร่: 16 ม.ค. 2562 23:30 ปรับปรุง: 17 ม.ค. 2562 03:57 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000581801.jpg

    เอเอฟพี - สหรัฐฯและแคนาดาในวันพุธ(16ม.ค.) ให้สัญญาสำหรับกระบวนการทางกฎหมายที่ไม่ลำเอียงต่อผู้บริหารระดับสูงของบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ "หัวเว่ย" ที่ถูกจับกุมในแวนคูเวอร์ตามคำร้องขอของอเมริกา ซึ่งกระพือเสียงโวยวายจากปักกิ่ง

    ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯและคริสเตีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา พูดคุยกันทางโทรศัพท์หารือเกี่ยวกับการจับกุมดังกล่าวเมื่อวันอังคาร(15ม.ค.) และระหว่างการสนทนากัน ทั้งสองยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่ชาวแคนาดาถูกควบคุมตัวโดยพลการในจีน จากการเปิดเผยของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาในวันพุธ(16ม.ค.)

    ก่อนหน้านี้แคนาดาออกถ้อยแถลงเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม ว่ามีพลเมืองของตัวเองทั้งหมด 13 รายถูกรัฐบาลจีนควบคุมตัวนับตั้งแต่ เมิ่ง หว่านโจว ประธานบริหารทางการเงินของหัวเว่ย และบุตรสาวของผู้ก่อตั้งถูกจับที่เมืองแวนคูเวอร์ในเดือนที่แล้วตามการร้องขอของสหรัฐฯ

    "พวกเขาเน้นย้ำว่าจะสานต่อคำสัญญาที่แคนาดาให้ไว้ว่า กระบวนการทางกฎหมายและคำร้อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของสหรัฐฯเกี่ยวกับ เมิ่ง หว่านโจว จะดำเนินการอย่างยุติธรรม, ปราศจากความลำเอียงและโปร่งใส" กระทรวงการต่างประเทศสหัฐฯระบุในถ้อยแถลง

    เมิ่ง ถูกควบคุมตัวเมื่อเดือนที่แล้วตอนที่เธอรอเปลี่ยนเครื่องในแวนคูเวอร์ ตามคำร้องขอของสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวหาว่าเธอละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของวอชิงตันที่กำหนดเล่นงานอิหร่าน

    อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากนั้น จีนได้ควบคุมตัวชาวแคนาดา 2 คน ได้แก่อดีตนักการทูตและนักธุรกิจ โดยกล่าวหาพวกเขาเป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติ ความเคลื่อนไหวที่ทางออตตาวาและวอชิงตันมองว่าเป็นการแก้แค้น

    ในวันจันทร์(14ม.ค.) ศาลจีนยังได้ตัดสินประหารชีวิตชายชาวแคนาดาคนหนึ่งในข้อหาลักลอบขนยาเสพติด โดยบอกว่าบทลงโทษก่อนหน้านี้นั้นเบาเกินไป หลังจากเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเขาถูกพิพากษาจำคุก 15 ปีและริบทรัพย์ 22,000 ดอลลาร์

    เมิ่ง หว่านโจว ผู้บริหารระดับสูงและบุตรสาวผู้ก่อตั้ง หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ได้รับการประกันตัวในวงเงิน 10 ล้านดอลลาร์แคนาดา(ราว 240 ล้านบาท) ระหว่างที่เธอรอการพิจารณาคำร้องขอส่งตัวเธอในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ

    https://mgronline.com/around/detail/9620000005612
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิหร่านยันจะทดสอบจรวดรอบใหม่ในไม่กี่เดือน หลังล้มหลวส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร(ชมคลิป)
    เผยแพร่: 17 ม.ค. 2562 01:02 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    รอยเตอร์ - อิหร่านจะพร้อมปล่อยดาวเทียวดวงใหม่ขึ้นสู่วงโคจรในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากเกิดความล้มเหลวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จากคำประกาศของประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ในวันพุธ(16ม.ค.) เพิกเฉยต่อคำเตือนของสหรัฐฯและยุโรปที่บอกให้หลีกเลี่ยงความเคลื่อนไหวดังกล่าว

    พวกเจ้าหน้าที่ตะวันตกเตือนเทคโนโลยีขีปนาวุธที่ใช้ในการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรอาจถูกนำไปใช้เป็นจรวดส่งอาวุธนิวเคลียร์

    ความพยายามส่งดาวเทียม "ปายัม" ขึ้นสู่วงโคจรเกิดความล้มเหลวในวันอังคาร(15ม.ค.) หลังจากจรวดที่ปล่อยขึ้นไปไม่สามารถทำความเร็วได้เพียงพอในขั้น 3

    อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนแห่งรัฐอ้างคำสัมภาษณ์ของรูฮานี บอกว่าอิหร่าน "ได้ประสบความสำเร้จครั้งยิ่งใหญ่ในการสร้างดาวเทียมและส่งมันขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งนั่นหมายความว่าเราอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว"

    "ยังคงเหลือปัญหาอยู่เล็กๆน้อยๆ ซึ่งจะมันได้รับการแก้ไขในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และเราจะพร้อมปล่อยรอบใหม่" เขากล่าว

    สหรัฐฯเตือนอิหร่านเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ต่อแผนการยิงจรวด 3 ลูก ที่พวกเขาบอกว่าอาจเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สืบเนื่องจากมันใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ

    562000000580301.jpg

    กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสในวันพุธ(16ม.ค.) ประณามการปล่อยจรวดที่ไม่ประสบความสำเร็จล่าสุด และเรียกร้องอิหร่านหยุดทดสอบขีปนาวุธ ซึ่งปารีสมองว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจถูกใช้สำหรับอาวุธนิวเคลียร์

    "โครงการขีปนาวุธเป็นต้นตอแห่งความกังวลของประชาคมนานาชาติและฝรั่งเศส" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแดนน้ำหอมระบุ "เราเรียกร้องอิหร่านอย่าเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธใหม่ที่ออกแบบมาให้มีศักยภาพบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ และเรียกร้องอิหร่านเคารพต่อพันธสัญญาของพวกเขาภายใต้มติทั้งหมดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชติ"

    อิหร่าน ซึ่งมองว่าโครงการอวกาศของพวกเขาเป็นประเด็นเกี่ยวกับความภาคภูมิใจของชาติ บอกว่าการปล่อยยานขนส่งสู่อากวศและทดสอบขีปนาวุธ ไม่ได้ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและจะเดินหน้าต่อไป

    ภายใต้มติ 2231 ของคณะมนตรีความมั่นคแห่งสหประชาชาติ ที่รับรองข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ได้เรียกร้องอิหร่านยับยั้งจากงานพัฒนาขีปนาวุธใดๆที่มีแสนยานุภาพนำส่งอาวุธนิวเคลียร์เป็นเวลาสูงสุด 8 ปี แต่บางรัฐโต้แย้งว่าภาษาที่ใช้ในมตินั้นไม่ได้บังคับให้อิหร่านต้องปฏิบัติตาม ขณะที่อิหร่านย้ำว่าโครงการขีปนาวุธของพวกเขามีจุดประสงค์ป้องกันตนเองเพียงอย่างเดียวและไม่ได้ออกแบบมาให้บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์

    เวลานี้ข้อตกลงนิวเคลียร์ตกอยู่ในความเสี่ยง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงดังกล่าว โดยอ้างว่ามันไม่ครอบคลุมโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน และกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่

    https://mgronline.com/around/detail/9620000005598
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันทรงตัว ทองขึ้น,หุ้นสหรัฐฯปิดบวกแรงหนุนสถาบันการเงิน เผยแพร่: 17 ม.ค. 2562 05:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000586501.jpg

    มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในกรอบแคบๆวันพุธ(16ม.ค.) หลังสหรัฐฯเผยแพร่รายงานสต๊อกปิโตรเลียมลดลง ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกจากแรงหนุนกลุ่มสถาบันการเงิน ขณะที่ทองคำดีดตัว ท่ามกลางความกังวลปัญหาการเมืองในอังกฤษ

    สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 52.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ปิดที่ 61.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐน(อีไอเอ) เผยแพร่รายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองรายสัปดาห์ในวันพุธ(16ม.ค.) ระบุว่าสต๊อกน้ำมันดิบของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 มกราคม ลดลงถึง 2.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้หลายเท่า

    อย่างไรก็ตามในส่วนของคลังน้ำมันเบนซินสำรอง เพิ่มขึ้น 7.5 ล้านบาร์เรล และสต๊อกน้ำมันกลุ่น เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรล

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(16ม.ค.) ปิดบวก ได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการอันแข็งแกร่งของสถาบันการเงินหลายแห่ง ซึ่งช่วยกลบความกังวลต่อภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลในอเมริกา

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 141.57 จุด (0.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,207.16 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.80 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,616.10 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 10.86 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,034.69 จุด

    แบงค์ออฟอเมริกา ปิดบวก 7.2% และโกลด์แมน แซคส์ ปิดบวก 9.6% หลังรายงานผลประกอบการของทั้งสองสถาบันการเงินออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้

    อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งตอนนี้เข้าสู่วันที่ 25 แล้ว ได้กัดเซาะความกระตือรือร้นของนักลงทุน ขณะที่สำนักวิเคราะห์ อ็อกฟอร์ด อีโคโนมิกส์ คาดหมายว่าการชัตดาวน์ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯสัปดาห์ละ 700 ล้านดอลลาร์

    ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(16ม.ค.) ปิดบวกพอสมควร แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ จากความยุ่งเหยิงทางการเมืองทั้งในอังกฤษและสหรัฐฯ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,293.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    https://mgronline.com/around/detail/9620000005652
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    2Fcnbc.com%2Fresources%2Fimg%2Feditorial%2F2019%2F01%2F16%2F105682825-1547671071132may.1910x1000.jpg
    (Jan 17) Theresa May รอดจากการลงมติไม่ไว้วางใจของรัฐสภา : สมาชิกรัฐสภาสหราชอาณาจักรมีมติ 325 ต่อ 306 เสียง สนับสนุนให้คณะรัฐบาลของ นาง Theresa May ยังดำรงอยู่ในตำแหน่งต่อไป ในการลงมติไม่ไว้วางใจในวันนี้ (16 ม.ค. 2019) ภายหลังทราบผลการลงมติ นาง Theresa May กล่าวว่า ตนพร้อมจะทำหน้าที่ต่อไปเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพท์ที่สามารถตอบโจทย์ของประชามติ Brexit เมื่อปี 2016 โดยตนจะเชิญผู้นำของพรรคการเมืองทุกพรรคเข้าร่วมหารืออีกครั้งเพื่อหาทางออกสำหรับ Brexit พร้อมทั้งระบุว่า ตนจะนำเสนอร่างข้อตกลง Brexit ทางเลือก หรือ Brexit Plan-B แก่สภาในวันจันทร์หน้า (21 ม.ค.)

    ด้าน นาย Jeremy Corbin หัวหน้าพรรค Labour ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน กล่าวภายหลังประสบกับความพ่ายแพ้ในจากลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลของ นาง Theresa May ว่า รัฐบาลของ นาง May หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศไปแล้วหลังผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งกินเวลานานกว่า 6 ชั่วโมงในวันนี้ และตนไม่ปิดโอกาสที่จะยื่นญัตติอภิปรายไว้วางใจรัฐบาลอีกครั้งในอนาคต

    Source: BOTSS

    - Theresa May’s government survives a no-confidence vote after its crushing Brexit defeat: https://www.cnbc.com/2019/01/16/bre...s_aNgYJGa70jwG8BZz5pyKHLA6LUiYduFEeKw0-CrLfyg

    ***********************
    เบร็กซิท : รัฐบาลอังกฤษ รอดญัตติไม่ไว้วางใจ ด้วยคะแนน 325 : 306 เสียง

    รัฐบาลอังกฤษชนะการลงมติไม่ไว้วางใจด้วยคะแนน 325 ต่อ 306 เสียง ทำให้สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ โดยนายกรัฐมนตรีเทรีซา เมย์ เตรียมเดินหน้าหาทางเลือกใหม่มานำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรจันทร์หน้า

    นางเมย์ ได้เชิญหัวหน้าพรรคการเมืองต่าง ๆ หารือกับเธอในคืนนี้

    สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคคอนเซอร์เวทีฟของนางเมย์ และพรรคเดโมแครติก ยูเนียนนิสต์ หรือ ดียูพี ที่ลงมติไม่รับข้อตกลงถอนตัวจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) ที่นางเมย์เสนอต่อรัฐสภา เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) ได้หันกลับมาโหวตไว้วางใจรัฐบาล ทำให้นางเมย์ ยังสามารถทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศต่อไปได้

    เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) ส.ส. ได้ลงมติไม่รับข้อตกลงเบร็กซิทอย่างท่วมท้วน 432 ต่อ 202 เสียง ส่งผลให้ผู้นำฝ่ายค้านยื่นญัตติไม่วางวางใจรัฐบาลในวันนี้ (16 ม.ค.)

    นางเมย์ได้กล่าวต่อบรรดา ส.ส. ว่า เธอจะ "ทำงานต่อไปเพื่อทำตามสัญญาอย่างจริงจัง ในการทำให้ผลการลงประชามติออกจากสหภาพยุโรปเกิดขึ้นให้ได้"

    เธอได้เชิญหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคร่วมหารือกับเธอในช่วงก่อนที่จะถึงวันเบร็กซิท โดยเริ่มต้นจากค่ำคืนนี้ แต่เรียกร้องให้พวกเขาเข้าประชุม "อย่างสร้างสรรค์"นายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวระหว่างการอภิปรายญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล 6 ชั่วโมงว่า รัฐบาล "ผีดิบ" ของนางเมย์ สูญเสียสิทธิ์ในการบริหารประเทศแล้ว

    เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า "เราต้องหาทางออกที่สามารถเจรจากันได้ และให้ได้รับเสียงสนับสนุนที่เพียงพอจากสภาผู้แทนฯ นี้"

    แต่นายคอร์บิน กล่าวว่า ก่อนที่จะมี "การหารือที่เป็นบวก" เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีควรรับปากก่อนว่า จะไม่ให้มีเบร็กซิทที่ไร้ข้อตกลงเกิดขึ้น

    เขากล่าวต่อบรรดา ส.ส. ว่า "รัฐบาลต้องมีความชัดเจนในการหยุดยั้งการออกจากสหภาพยุโรปโดยปราศจากข้อตกลง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดหายนะอย่างใหญ่หลวงและเกิดความโกลาหลต่าง ๆ ตามมา"

    ญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลของนายคอร์บิน ได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านทุกพรรค รวมถึงพรรคสกอตทิชเนชั่นแนล หรือ เอสเอ็นพี และพรรคลิเบอรัลเดโมแครตส์ด้วย

    พรรคของเขาอาจจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลอีกครั้ง แต่ขณะนี้ นายคอร์บินกำลังเผชิญแรงกดดันจาก ส.ส. พรรคเลเบอร์ของเขาเองหลายสิบคน ที่เรียกร้องให้มีการลงประชามติสหภาพยุโรปแทน

    นายเอียน แบล็กฟอร์ด หัวหน้าพรรคเอสเอ็นพี ยินดีรับข้อเสนอเจรจาจากนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โดยระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกพรรคการเมือง "ในการตระหนักต่อความรับผิดชอบที่พวกเรามี" หลังจากข้อตกลงเดิมของนางเมย์ไม่ผ่านการลงมติรับรอง

    เขาให้คำมั่นว่า พรรคของเขาจะ "ทำงานอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับรัฐบาล"

    แต่เขากล่าวว่า เรื่องการขยายเวลากระบวนการแยกตัวออกจากอียู ตามมาตรา 50 ซึ่งมีกำหนดวันที่ 29 มี.ค. นี้, การลงประชามติครั้งใหม่ และการหลีกเลี่ยงเบร็กซิทที่ไร้ข้อตกลง "จะต้องมีการหารือร่วมกันด้วย"

    กลับมาวันจันทร์
    ในถ้อยแถลงหลังการลงมติ นางเมย์ ได้เน้นย้ำคำสัญญาที่จะกลับมายังสภาผู้แทนฯ แห่งนี้ในวันจันทร์ เพื่อให้ ส.ส. ได้ลงมติรับหรือไม่รับแผนการของเธออีกครั้งหนึ่งด้วย
    "สภาผู้แทนฯ ได้ไว้วางใจต่อรัฐบาลนี้แล้ว" เธอกล่าว

    "ฉันพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสมาชิกทุกคนของสภาผู้แทนฯ แห่งนี้ เพื่อทำให้เบร็กซิทเกิดขึ้น และสร้างความมั่นใจว่า สภาผู้แทนฯ แห่งนี้จะเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนชาวอังกฤษ"

    Source: BBC Thai
    https://www.bbc.com/thai/international-46897701
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    c01.nyt.com%2Fimages%2F2019%2F01%2F16%2Fworld%2F16venezuela-1-print%2F16venezuela2-facebookJumbo.jpg
    (Jan 16) เวเนซุเอลา' เข้าขั้นโคม่า โลกแห่คว่ำบาตร 'อำนาจสมัย 2' - ชะตากรรมของชาวเวเนซุเอลา กว่า 31 ล้านคน กำลังตกที่นั่งลำบาก ภายใต้อำนาจการบริหารสมัยที่ 2 ของประธานาธิบดี "นิโคลัส มาดูโร" ขณะที่นานาชาตินำโดยสหรัฐอเมริกาพยายามกดดันด้วยการคว่ำบาตรทางการค้า และตัดสัมพันธ์ทางการทูตจนกว่าผู้นำจะคืนอำนาจประชาธิปไตยให้กับรัฐสภา ก่อนที่ประเทศจะกลายเป็นรัฐล่มสลายอย่างสมบูรณ์

    เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในสมัยที่ 2 ที่จะอยู่ในอำนาจไปถึงปี 2025 เจแปนไทมส์รายงานว่า สหรัฐอเมริกาและผู้นำ 17 ประเทศในละตินอเมริกา รวมถึงแคนาดา แถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า ไม่ยอมรับการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี มาดูโร ในสมัยที่ 2 โดยระบุว่า การเลือกตั้ง "ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" เพราะยึดอำนาจเบ็ดเสร็จจากรัฐสภาโดยไม่ให้อำนาจคัดค้านผู้นำประเทศได้

    ขณะเดียวกัน เพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคกับเวเนซุเอลา ได้แก่ อาร์เจนตินา และปารากวัย ประกาศตัดความสัมพันธ์กับเวเนซุเอลาทุกทาง ทั้งทางการทูตและการค้าจนกว่ามีการเลือกตั้งที่ชอบธรรมด้วยกฎหมายขึ้นอีกครั้งตามคำเรียกร้อง ของสหรัฐ

    "เปรู" หนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบ จากวิกฤตเงินเฟ้อของเวเนฯ เพราะเป็น 1 ใน 3 ประเทศปลายทางหลักที่ชาวเวเนฯ เดินทางอพยพเข้าประเทศ ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศแถลงการณ์ว่า รัฐบาลเปรูได้สั่งห้ามนายนิโคลัส มาดูโร พร้อมครอบครัวตลอดจน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลการากัส ราว 100 คนเดินทางเข้าประเทศ ทั้งยังประกาศห้ามผู้ประกอบการในเปรูทำธุรกิจหรือธุรกรรมต่าง ๆ กับคนสัญชาติเวเนซุเอลาที่อยู่ในบัญชีดำด้วย

    และล่าสุดรัฐบาลเปรูประกาศ เพิ่มเติมเรียกตัวนักการทูตชาวเปรูที่ทำงานอยู่ในเวเนซุเอลาเดินทางกลับประเทศทันที เพื่อร่วมต่อต้านอำนาจของนายมาดูโร และกดดันให้ยกเลิกการบริหารประเทศแบบเผด็จการ

    นายฟรานซิสโก โรดริเกซ อดีต เจ้าหน้าที่ของเวเนซุเอลา ซึ่งปัจจุบัน เป็นหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ Torino Capital ในนิวยอร์กกล่าวว่า สิ่งที่ทุกคนต้องการได้ยินจากคำแถลงของประธานาธิบดีมาดูโรในระหว่างพิธีสาบานตนก็คือ แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ชัดเจน โดยเฉพาะวิกฤตเงินเฟ้อที่ยังพุ่งทะยานขึ้นทุก ๆ ปี แต่คำกล่าวจากปากผู้นำกลับไม่มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจ หรือคำมั่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน กล่าวเพียงแค่จะนำความรุ่งเรืองมาสู่เวเนซุเอลาเช่นเดิม สะท้อนได้ว่า เศรษฐกิจของเวเนซุเอลาในปีนี้จะยังคงถดถอยเช่นเดิม หรืออาจจะรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่หลายประเทศต่างพากัน คว่ำบาตรการค้าอย่างไม่มีกำหนด

    ก่อนหน้านี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินว่า เงินเฟ้อของเวเนซุเอลาจะแตะระดับสูงถึง 10 ล้านเปอร์เซ็นต์ในปี 2019 แต่สถานการณ์ที่ย่ำแย่ขึ้นทำให้นักเศรษฐศาสตร์บางคนประเมินว่า วิกฤตเงินเฟ้อของเวเนซุเอลาอาจจะรุนแรงเกินคาดพุ่งสู่ระดับ 23 ล้านเปอร์เซ็นต์

    ศาสตราจารย์เดวิด สมิลเดอผู้เชี่ยวชาญด้านเวเนซุเอลาของมหาวิทยาลัยทูเลนในรัฐลุยเซียนา คาดการณ์ว่า ประชาชนชาวเวเนซุเอลาจะแห่อพยพออกนอกประเทศมากขึ้น จากปีที่ผ่านมา 2.3 ล้านคน ในปีนี้ อาจจะมากถึง 5 ล้านคน เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากการตัดความ สัมพันธ์ของเพื่อนบ้าน และสหรัฐ ที่เปรียบเสมือนเป็นเสบียงหลัก ของเวเนฯในการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค

    ปัจจุบันชาวเวเนซุเอลาเกินกว่า 50% ยังมีรายได้อยู่ในเกณฑ์ความยากจน และทำงานเพื่อแลกกับเงินเดือนขั้นต่ำ เพียงวันละ 5 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประชาชนหลายล้านชีวิตต้องอพยพแม้ว่าจะผิดกฎหมาย

    ทั้งนี้ คาดการณ์ของนักวิเคราะห์จำนวนมากเห็นตรงกันว่า ชะตากรรมในอนาคตของ "เวเนซุเอลา" คงไม่พ้น การเป็นประเทศล่มสลายหากผู้กุม อำนาจสูงสุดของประเทศยังไม่โปร่งใส และเพิกเฉยต่อคำเรียกร้องจากนานา ชาติ ทั้งเลือกใช้วิธีการจัดการฝ่ายค้าน ด้วยการสั่งจำคุกและห้ามยุ่งกับการเมือง ทั้งประเมินกันว่าจากนี้จะเห็นเวเนซุเอลากลายเป็นประเทศสังคมนิยมแบบสุดโต่งไม่ต่างจากการปกครองของเกาหลีเหนือ

    Source: ประชาขาติธุรกิจ

    - Venezuela Opposition Declares Maduro Illegitimate, and Urges Defections
    https://www.nytimes.com/2019/01/15/...YpU7IfFNnnsFAfh82H7QpjnFRsD9Rf8B6unY-C87bzv84
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    c.com%2Fresources%2Fimg%2Feditorial%2F2018%2F11%2F28%2F105597884-1543433555204rtx15nfr.1910x1000.jpg
    (Jan 16) ห้างเซียร์สส่อเค้ารอดพ้นล้มละลาย หลังประธานบริษัทชนะประมูลซื้อกิจการ: แหล่งข่าวระบุว่า นายเอ็ดดี้ แลมเพิร์ท ประธานบริษัทเซียร์ส โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ และเป็นเจ้าของห้างเซียร์ส และเคมาร์ท สามารถชนะการประมูลซื้อกิจการเซียร์ส เพื่อกอบกู้สถานะทางการเงินของบริษัทให้พ้นจากภาวะล้มละลาย

    ทั้งนี้ นายแลมเพิร์ทเสนอวงเงิน 5.2 พันล้านดอลลาร์ในการประมูลกิจการเซียร์ส สูงกว่าวงเงินเดิมที่ระดับ 5 พันล้านดอลลาร์ โดยนายแลมเพิร์ทเสนอเพิ่มเงินสด และเพิ่มวงเงินการซื้อหนี้สินของเซียร์สในครั้งนี้ผ่านทางกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ESL Investments ของเขา

    การชนะการประมูลของนายแลมเพิร์ทดังกล่าว จะช่วยให้ห้างเซียร์ส ซึ่งมีอายุ 126 ปี และมีสาขา 425 แห่งในสหรัฐ ยังคงเปิดดำเนินกิจการต่อไปได้ และช่วยให้พนักงานจำนวน 45,000 ตำแหน่งรอดพ้นจากการตกงาน

    อย่างไรก็ดี อนาคตของเซียร์สก็ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากข้อตกลงซื้อกิจการดังกล่าว จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากศาลล้มละลายของสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดพิจารณาในสัปดาห์นี้

    นอกจากนี้ เจ้าหนี้กลุ่มหนึ่งของเซียร์สก็ได้แสดงท่าทีคัดค้านข้อตกลงดังกล่าว
    ท้งนี้ เซียร์สได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามกฎหมายล้มละลายในวันที่ 15 ต.ค.ปีที่แล้ว
    ข่าวการล้มละลายของเซียร์สมีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ประกาศปิดสาขาจำนวนหลายร้อยแห่งในสหรัฐ หลังประสบปัญหายอดขายดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง
    ทั้งนี้ บริษัทเซียร์ส โรบัค แอนด์ โค มีการก่อตั้งขึ้นในปี 1893 และครั้งหนึ่งเคยเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ แต่บริษัทก็ต้องพ่ายแพ้ต่อธุรกิจออนไลน์ หลังเผชิญคู่แข่งสำคัญคือบริษัทอเมซอน

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

    - Sears reaches deal with Chairman Eddie Lampert to save company and roughly 400 stores:
    https://www.cnbc.com/2019/01/15/sea...IKaox3Z8Mebcmnv98xL_B7qrruvrWp8BT5SHsdLxo-6w0
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    c.com%2Fresources%2Fimg%2Feditorial%2F2018%2F10%2F01%2F105480592-1538400870551rts2374p.1910x1000.jpg
    (Jan 16) แบงก์ชาติจีนอัดเงินครั้งใหญ่กว่า 8 หมื่นล้านดอลล์ หวังกระตุ้นศก.,ผ่อนคลายสภาพคล่องก่อนตรุษจีน: ธนาคารกลางจีนได้ทำการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินของประเทศในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ โดยหวังผ่อนคลายภาวะขาดแคลนสภาพคล่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

    "สภาพคล่องโดยรวมในระบบธนาคารกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว" แถลงการณ์จากธนาคารกลางระบุ
    ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้ทำการอัดฉีดเม็ดเงินดังกล่าวผ่านการดำเนินการข้อตกลง reverse repo ซึ่งเป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต

    ธนาคารกลางยังเปิดเผยว่า การอัดฉีดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีเงินทุนอย่างเพียงพอในระบบการเงิน ซึ่งกำลังประสบภาวะตึงตัวขณะที่ถึงช่วงการจ่ายภาษีในกลางเดือนนี้ และท่ามกลางความต้องการเงินสดก่อนหน้าเทศกาลตรุษจีนในช่วงต้นเดือนหน้า

    ถึงแม้ว่าธนาคารกลางจีนมักทำการอัดฉีดเม็ดเงินในระยะนี้ของปี ก่อนถึงช่วงตรุษจีน แต่การอัดฉีดสภาพคล่องในวันนี้ถือเป็นจำนวนที่มากกว่าปกติ แม้ว่าธนาคารกลางเพิ่งประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งทำให้มีการระบายเงินสดจำนวน 1.16 แสนล้านหยวนสำหรับการปล่อยสินเชื่อใหม่ในภาคธนาคาร

    การอัดฉีดสภาพคล่องครั้งใหญ่ในวันนี้ มีขึ้น หลังจากที่มีรายงานว่า จีนเตรียมใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการปรับลดภาษี เพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจที่กำลังส่งสัญญาณชะลอตัวลงในขณะนี้

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

    - China just injected a record amount of money to stimulate its economy :
    https://www.cnbc.com/2019/01/16/chi...tH90nGnyR2p1D3sAzDEVfNvHe8JxkgOUbVuvR2kdQsr0M
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    c.com%2Fresources%2Fimg%2Feditorial%2F2018%2F12%2F02%2F105604355-1543788087465rts28g04.1910x1000.jpg
    (Jan 16) จีนจ่อหั่นภาษีอีก - จีนเตรียมหั่นภาษีครั้ง ใหญ่ หวังพยุงเอสเอ็มอี-ภาคการผลิต ลั่นออกมาตรการกระตุ้นอีก

    จูเหอซิน รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ซื่อหงไค ผู้ช่วยรัฐมนตรีคลัง และเหลียนเว่ยเลี่ยง รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (เอ็นดีอาร์ซี) แถลงร่วมกันว่า รัฐบาลจีนจะขยายแผนปรับลดภาษี โดยเน้นที่ธุรกิจขนาดเล็กและภาคการผลิต พร้อมระบุว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกในปีนี้เพื่อช่วยรักษาระดับการขยายตัว

    ทั้งนี้ รองผู้ว่าการพีบีโอซีย้ำว่า จีนจะยังใช้นโยบายการเงินแบบระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการเสริมสภาพคล่องให้เพียงพอต่อเศรษฐกิจ โดยล่าสุด พีบีโอซี เปิดเผยว่า ยอดการปล่อยกู้ใหม่ของจีนในปี 2018 ยังปรับตัวขึ้น 2.64 ล้านล้านหยวน (ราว 12.46 ล้านล้านบาท) ไปอยู่ที่ 16.17 ล้านล้านหยวน (ราว 76.34 ล้านล้านบาท) เช่นเดียวกับการปล่อยกู้ให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ที่เพิ่มขึ้น 17.1% เมื่อเทียบรายปี ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย.ปีที่แล้ว

    ด้านเอ็นดีอาร์ซี เปิดเผยว่า จะเตรียมออกมาตรการสนับสนุนตลาดรถยนต์ หลังสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (ซีเอเอเอ็ม) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในจีนร่วงลงครั้งแรกในรอบ 28 ปีเมื่อปีที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ เจพี มอร์แกน คาดการณ์ว่า มาตรการขยายขอบเขตการปรับลดภาษีของจีน จะคิดเป็นสัดส่วน 1.2% ของจีดีพี หรือ 2 ล้านล้านหยวน (ราว 9.4 ล้านล้านบาท) ซึ่งมีแนวโน้มช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอีก 0.46%

    Source: Posttoday

    - China signals more stimulus as economic slowdown deepens
    https://www.cnbc.com/2019/01/15/chi...v4sYnZMPjqJO0Dxrb1A-bg_RKF1FldKw0U-dH8dbpfkwQ
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    ttps%3A%2F%2Fstatic01.nyt.com%2Fimages%2F2019%2F01%2F16%2Fus%2F16dc-faa%2F16dc-faa-facebookJumbo.jpg
    (Jan 16) ภาวะ 'ชัตดาวน์สหรัฐ' ป่วนอุตสาหกรรมการบิน : องค์การบริหารการบิน แห่งสหรัฐ (เอฟเอเอ) ตัดสินใจเลื่อน การอนุมัติเครื่องบินโบอิง แม็กซ์ ของบริษัท โบอิง รวมทั้งเลื่อนอนุมัติเส้นทางบินใหม่ๆ เช่น เส้นทางบินสู่รัฐฮาวายของสายการบิน เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ เป็นการชั่วคราว เนื่องจาก ผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ ซึ่งสถานการณ์ ดังกล่าวส่งผลให้การดำเนินธุรกิจต้องล่าช้า ออกไปด้วยเช่นกัน

    สายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ เปิดเผยว่า แผนการที่จะเปิดให้บริการ เส้นทางการบินสู่ฮาวายในช่วงต้นปีนี้ ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากเอฟเอเอ ซึ่งเป็นองค์กรที่กำกับดูแลการอนุญาตเส้นทาง การบิน ได้หยุดการดำเนินงานชั่วคราว โดย เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ จะยังไม่มีการกำหนดการ ใดๆ เกี่ยวกับเที่ยวบินไปยังฮาวาย จนกว่า จะได้รับอนุญาตตามความจำเป็น

    นอกจากนี้ สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส เปิดเผยว่า สายการบินได้รับ การส่งมอบเครื่องบินรุ่นโบอิง แม็กซ์ 8 จากบริษัทโบอิงจำนวน 2 ลำ แต่เครื่องบิน ยังคงอยู่ที่เมืองทุลซา รัฐโอกลาโฮมา เพื่อรอการอนุมัติจากเอฟเอเอ

    ภาวะที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ ต้องปิดการดำเนินงานชั่วคราวเนื่องจาก ขาดงบประมาณ (ชัตดาวน์) ดำเนิน ล่วงเข้าสู่วันที่ 24 แล้วหากนับถึงวานนี้ (15 ม.ค.) เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และแกนนำพรรคเดโมแครต ในสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถตกลง กันได้ในประเด็นการจัดสรรงบประมาณ สร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน กว่า 5.7 พันล้านดอลลาร์

    ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ปฏิเสธ ที่จะทำตามคำแนะนำของนายลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ที่เรียกร้องให้เปิดทำการหน่วยงาน ของรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้มีการ เจรจาเรื่องงบประมาณสร้างกำแพงกั้น ชายแดนเม็กซิโก พร้อมทั้งยืนยันว่า ยังไม่มีความต้องการจะประกาศภาวะ ฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งการประกาศภาวะ ฉุกเฉิน จะทำให้ปธน.ทรัมป์ มีอำนาจ ออกกฎหมายพิเศษโดยไม่ต้องขอการ อนุมัติการสร้างกำแพงจากสภาคองเกรส โดยใช้งบประมาณที่มีการจัดสรรไว้แล้ว สำหรับกองทัพ

    สถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐได้ยืดเยื้อ มาจนเข้าสู่วันที่ 24 ถือเป็นการทำสถิติ ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังจาก ที่สหรัฐต้องเผชิญกับภาวะชัตดาวน์ในสมัย อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เป็นเวลา 21 วัน

    ผลกระทบจากภาวะชัตดาวน์ เริ่ม ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพนักงานของ หน่วยงานรัฐราว 800,000 คน ไม่ได้รับเช็ค จ้างการทำงานของพวกเขา โดยเจ้าหน้าที่ รายหนึ่ง จากกระทรวงความมั่นคงแห่ง มาตุภูมิสหรัฐ ซึ่งออกมาร่วมเดินขบวน ประท้วงไปยังทำเนียบขาวเพื่อเรียกร้อง ให้รัฐบาลยุติภาวะชัตดาวน์ ร่วมกับพนักงาน รัฐรายอื่นๆอีกหลายร้อยคน เปิดเผยว่า "สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มีคนจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้าง และหลายครอบครัวก็กำลังเผชิญความ ยากลำบาก ผมอยากจะบอกว่าเจ้าหน้าที่ ในหน่วยงานรัฐทุกคนพร้อมที่จะทำงาน และพวกเขาก็ไม่ควรต้องถูกดึงเข้ามาอยู่ ท่ามกลางความขัดแย้งเช่นนี้"

    นายคริสโตเฟอร์ กาลด์เยรี ผู้ช่วย ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยเซนต์แอนเซลม์ เปิดเผยว่า มีการบริการของรัฐหลายส่วน ที่ได้รับผลกระทบ และหากสถานการณ์ ชัตดาวน์ยังยืดเยื้อยาวนานออกไปเรื่อยๆ เราจะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นกันมากขึ้น

    ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ ประกาศผ่านทาง ทวิตเตอร์ว่า "มีวิกฤติการณ์ด้านมนุษยธรรม ที่ใหญ่หลวงเกิดขึ้นบริเวณชายแดนสหรัฐ- เม็กซิโก กำแพงหรือแผงเหล็กกั้นชายแดน ระหว่างทั้ง 2 ประเทศนั้นจำเป็นต่อการรักษา ความปลอดภัยตามแนวชายแดน และจะช่วย ป้องกันอาชญากรรม, มิจฉาชีพ, การค้ามนุษย์ รวมทั้งยาเสพติด ซึ่งหากไม่มีกำแพงเหล่านั้น ประเทศของเราก็จะไม่มีความปลอดภัย"

    ด้านนางแนนซี เพโลซี แกนนำพรรค เดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และ นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา สหรัฐ ให้มุมมองกรณีสร้างกำแพงที่ปธน. ทรัมป์ เรียกร้องมาว่า มีค่าใช้จ่ายมากเกินไป ไม่สามารถแก้ปัญหาดังที่ปธน.ทรัมป์กล่าวอ้างมาได้จริง และขัดต่อหลักศีลธรรม ทั้งยังระบุว่าข้อเสนอดังกล่าวของปธน. ทรัมป์ เป็นภัยคุกคามทางการเมือง พร้อมทั้ง เรียกร้องให้เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีอย่าง โดรนและเซ็นเซอร์ ในการเสริมสร้าง ความปลอดภัยตามแนวชายแดนแทนการ สร้างกำแพงตามที่ปธน.ทรัมป์ ต้องการ

    Source: กรุงเทพธุรกิจ

    - F.A.A. Recalls Workers to Address Air Safety Concerns
    https://www.nytimes.com/2019/01/15/...QCbroPnRvLJo5PUJB5lIxatBHpE-OPkoLZsjiyYJ_FosY
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    biznews.com%2Fimage%2Fmedia%2Fimage%2Fnews%2F2019%2F01%2F16%2F824365%2F750x422_824365_1547634541.jpg
    (Jan 16) 'เอิร์ธ' พ่นพิษ 'กิตติพันธ์' ขอพักงานซีไอเอ็มบี : “กิตติพันธ์” ขอพักงานซีอีโอซีไอเอ็มบีไทยถึง 31 มี.ค.62 เปิดทางเคลียร์ข้อกล่าวหาปล่อยสินเชื่อ เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ทำให้ธนาคารกรุงไทยเสียหาย

    นายเศรษฐจักร ลียากาศ เลขานุการบริษัท ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIBT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 16 ม.ค.2562 อนุมัติการขอลาพักเป็นการชั่วคราวจากการทำหน้าที่ในบทบาทของกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ
    ทั้งนี้ นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ ได้ยื่นขอลาพักเป็นการชั่วคราวจากการทำหน้าที่ในบทบาทของกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รวมถึงตำแหน่งในคณะกรรมการธนาคารและคณะกรรมการชุดย่อยต่างๆของธนาคารจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2562 เพื่อจะได้ดำเนินการตามกระบวนการต่างๆในการปกป้องชื่อเสียงและมาตรฐานทางวิชาชีพของการเป็นนายธนาคารตลอดจนเป็นการรักษาผลประโยชน์และชื่อเสียงของธนาคาร

    นายเศรษฐจักร กล่าวว่า การขอลาพักเป็นการชั่วคราวของนายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ จะเริ่มมีผลภายหลังจากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้มาดำรงตำแหน่ง รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตามที่คณะกรรมการธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้มีการเสนอชื่อต่อหน่วยงานกำกับดูแล ได้รับการอนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    สำหรับนายกิตติพันธ์ เป็นอดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ถูกธนาคารกรุงไทย กล่าวหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อให้บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนี้เสีย มูลหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยเสียหายราว 1.2 หมื่นล้านบาท

    นายเศรษฐจักร กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบการลาออกจากกกรมการของ ดาโต๊ะ ลี ค็อก ควอน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562 เป็นต้นไป และ ดาตุก์ โจเซฟ โดมินิค ซิลวา ลาออกจากการดำรงตำแหน่งกรรมการของธนาคาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2562 เป็นต้นไป

    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/824365
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    &url=https%3A%2F%2Fbrandinside.asia%2Fwp-content%2Fuploads%2F2019%2F01%2Fshutterstock_1268217451.jpg
    (Jan 16) อากาศแย่ ไม่ได้ส่งผลแค่สุขภาพ ผลวิจัยเผย อากาศแย่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานด้วย : อากาศแย่ (อย่าง PM 2.5) ไม่ได้ส่งผลแค่สุขภาพ ผลวิจัยเผยว่า อากาศแย่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานด้วย

    อากาศแย่ สุขภาพแย่ งานการก็แย่ด้วย!
    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า อากาศที่แย่หรือมลพิษนั้น ย่อมส่งผลต่อสุขภาพของผู้คนอยู่แล้ว

    แต่มีผลการศึกษาของนักวิจัยกลุ่มหนึ่งจากมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ ได้ข้อสรุปที่ไปไกลกว่านั้น เพราะอากาศที่แย่ไม่ได้ส่งผลเสียเพียงแค่สุขภาพเท่านั้น แต่ส่งผลถึงประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดต่ำลงด้วย

    งานวิจัยชิ้นนี้นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Liu Haoming จากมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ ซึ่งได้ใช้เวลาร่วม 1 ปี ในการเข้าไปศึกษาการทำงานของพนักงานในโรงงานทอผ้าจีน 2 แห่ง ได้แก่ ในมณฑลเหอหนานและมณฑลเจียงซู ซึ่งมี PM 2.5 ในระดับที่ค่อนข้างรุนแรง โดยหนึ่งในโรงงานทอผ้าที่ทีมวิจัยเข้าไปศึกษามีฝุ่นละอองขนาดเล็กระดับ PM 2.5 ในอากาศถึง 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ (สูงกว่าค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกกว่า 3 เท่า เพราะกำหนดว่าหาก PM 2.5 เกิน 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ ให้จัดอยู่ในเกณฑ์อันตรายแล้ว)

    ผลการวิจัยได้ข้อสรุปดังนี้

    1. หากพนักงานได้รับ PM 2.5 ในปริมาณที่เกินกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย (หากยึดตามหน่วยงานคุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ค่าเฉลี่ยของ PM 2.5 ในอากาศ 12 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ถือว่า “ปลอดภัย”) จะไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานอย่างเห็นได้ชัด

    2. แต่หากพนักงานได้รับ PM 2.5 ในปริมาณ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ (ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่หน่วยงานคุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกากำหนดไว้) เป็นเวลาติดต่อกันถึง 25 วัน จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง 1%

    หัวหน้าทีมวิจัยชุดนี้จากสิงคโปร์ บอกว่า ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องสุขภาพเท่านั้น หากแต่อากาศที่แย่ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงาน แต่จากการสัมภาษณ์หัวหน้างานมานั้น ส่วนใหญ่แล้วมักไม่ค่อยตระหนักถึงเรื่องนี้

    ทีมวิจัยยังเสนอว่า บริษัทในแต่ละแห่งควรจะจริงจังกับเรื่องนี้ เพราะมลพิษในอากาศส่งผลต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน เช่น สร้างพื้นที่ให้พนักงาน/แรงงานได้ทำงานในพื้นที่ที่มีอากาศสะอาด ไม่เป็นพิษ

    สำหรับผู้เขียนมองว่า ต้องไม่ใช่แค่ภาคเอกชนเท่านั้น เพราะภาครัฐก็ควรจะจริงจังและเร่งจัดการกับปัญหาเรื่องอากาศที่แย่อย่าง PM 2.5 โดยเร่งด่วน เพราะถึงที่สุดแล้ว สุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานในตลาด ย่อมส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศด้วยนั่นเอง

    โดย Thongchai Cholsiripong

    Source: Brandinside.asia
    https://brandinside.asia/bad-air-affect-work-productivity/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ImpactoVisión Noticias

    ลมกระโชกแรงในอียิปต์์ กำลังแรงด้วยพายุเฮอริเคนว้าว
    2019/01/16
    Kike90 ..
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    8757.jpg

    แผ่นดินไหวขนาด 4.9
    จุดศูนย์กลาง : ประเทศพม่า (Myanmar)
    วันที่ - เวลา (ประเทศไทย) : 17 มกราคม 2562 04:39 น.
    วันที่ - เวลา (UTC) : 16 มกราคม 2562 21:39 Z.
    ละติจูด, ลองจิจูด : 24.74, 96.7
    ลึกจากผิวดิน : 10 กิโลเมตร
    รายงานแผ่นดินไหวในประเทศและใกล้เคียง

    https://www.tmd.go.th/earthquake.ph...YdAahPBgFa5p_MIHSmWIUClauIFxbrPGoFki4GgcYzfi4
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คัดข่าว


    เลี้ยงฟาสต์ฟู้ดในทำเนียบขาว???
    .
    เนื่องจากการ Shutdown ที่โดนัลด์ทรัมป์ไม่อาจจะตกลงเรื่องงบประมาณกับสภาได้ ทำให้ไม่มีพ่อครัวอยู่ในทำเนียบขาวเพื่อทำอาหารเลี้ยงบรรดานักฟุตบอลที่ชนะเลิศ
    ตามธรรมเนียมแล้วทีมฟุตบอลที่ชนะเลิศระดับประเทศจะได้รับการเลี้ยงฉลองตำแหน่งในทำเนียบขาวแต่ปีนี้เนื่องจากเหตุการณ์ Shutdown ที่ยืดยาวมาเป็นเวลานานโดนัลด์ทรัมป์แก้ปัญหาในการสั่งอาหารฟาสต์ฟู้ดมาเลี้ยงนักฟุตบอลหลังนั้นแทน
    หลายฝ่ายวิจารณ์เขาอย่างหนัก เนื่องจากปกติอาหารเลี้ยงแบบนี้จะเป็นอาหารหรู ซึ่งตัวโดนัลด์ทรัมป์เองสามารถสั่งจากโรงแรมบีบีมาก็ได้ แต่เลือกจะสั่ง Fast Food แทน เหมือนเอาเกียรติของนักฟุตบอลระดับประเทศ และธรรมเนียมของชาติ มาเล่นการเมือง
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    True Polar Shift? การเคลื่อนที่ของขั้วแม่เหล็กอาจชี้ไปที่แกนโลกที่ไม่เสถียร

    สนามแม่เหล็กป้องกันของโลกทำหน้าที่ผิดปกติโดยโยนขั้วเหนือแม่เหล็กออก แต่สาเหตุอาจจะแย่กว่านั้นอีก
    Jamie Seidel, AP 15, 20191: 02PM

    ผู้นำระดับโลกได้รับคำเตือนว่าอารยธรรมอาจล่มสลาย

    น้ำแข็งละลายของ Arctic อาจมีผลกระทบที่ลึก (รุนแรง) กว่าที่คาดไว้ เราเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ และคาดไม่ถึงในขั้วเหนือแม่เหล็ก และนี่อาจเป็นอาการของการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ลึกเข้าไปในแกนกลางของโลก แต่มันก็สามารถทำให้โลกทั้งใบไม่สมดุลได้หรือไม่?

    เช่นเดียวกับทุกสิ่งอื่น ๆ เกี่ยวกับชีวมณฑลที่เป็นดาวเคราะห์ของเรา สนามแม่เหล็กโลกเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่สมดุลและเชื่อมประสานกันอย่างละเอียด

    และจากผลการศึกษาหลายชุด แสดงให้เห็นว่าปริมาณน้ำแข็งที่หายไปจากผืนดินในกรีนแลนด์ จำนวน ตือ 267 กิกะตัน ในปี พศ.2560 ในปี พศ.2539 จำนวนคือ 97 กิกะตัน เพื่อที่จะนำมาใช้ในมุมมองหนึ่งกิกะไบต์เป็นก้อนน้ำแข็ง กว้าง 1 กม. สูง 1 กมและยาว 1 กม

    การเปลี่ยนแปลงนี้วัดโดยดาวเทียม บางรูปถ่ายที่ละลาย ได้ใช้เลเซอร์เพื่อวัดความสูงของน้ำแข็ง ความรู้สึกบางอย่างลดลงนาทีในแรงโน้มถ่วงที่เกิดจากการสูญเสียมวล

    ที่เกี่ยวข้อง: สิ่งแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับ 'โล่' (สนามแม่เหล็ก) ของโลก

    กระแสน้ำในมหาสมุทรกำลังเปลี่ยนไป ช่องทางการจัดส่งใหม่เปิดให้บริการทางเหนือของแคนาดา ความเค็มของทะเลโดยรอบกำลังลดลง

    แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีมากขึ้น

    กรีนแลนด์ไม่หนักอย่างที่เคยเป็นมา

    ซึ่งหมายความว่าแรงกดที่ใช้กับหลอดเลือดดำของหินหนืดลึกลงไปใต้พื้นผิวโลกลดลง

    และมวลเหล็กหลอมเหลวหมุนวนกำลังหมุน

    ได้เร็วขึ้น

    ในทิศทางใหม่

    สิ่งนี้สามารถอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติอย่างมากในตำแหน่งของทิศเหนือแม่เหล็ก

    แต่มันอาจทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือนโดยไม่คาดคิด


    1e364012b8e5c41a58d7e9cc65c98a4a?width=650.jpg
    ภาพที่ 1 สนามแม่เหล็กของโลกนั้นอยู่ในแนวเดียวกับการหมุนของแกนดาวเคราะห์เนื่องจากมันถูกสร้างขึ้นโดยการหมุนของเหล็กหลอมเหลวที่อยู่ใต้พื้นผิว รูปภาพผ่านทางองค์การนาซ่า

    จุดสีน้ำเงินจาง ๆ นี้ที่เคลื่อนที่ผ่านอวกาศถูกล็อคในลูปการตอบกลับภายใน

    เกิดอะไรขึ้นกับแง่มุมหนึ่งของโลกเล็ก ๆ แห่งนี้ที่ส่งผลกระทบต่ออีกแง่มุมหนึ่ง

    การศึกษาในปี พศ.2561 ในวารสาร Science Geophysical Research Letters ตรวจสอบลายเซ็นฟอสซิลที่พบลึกลงไปในตะกอนทะเลรอบ ๆ เกาะฮาวาย

    มันแสดงให้เห็นว่าสนามแม่เหล็กของโลกไม่ใช่สิ่งเดียวที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

    พื้นผิวโลกนั้น ก็สามารถบอกได้เช่นเดียวกัน
    [​IMG]
    ภาพที่ 2 ในขณะที่การหมุนของโลกยังคงอยู่ในมุมเดียวกัน มันอยู่ตรงกับดวงอาทิตย์เหมือนลูกบอล - แน่นอนว่า ส่วนใดของโลกที่หมุนศูนย์กลางขึ้นอยู่กับแรงเหวี่ยงจากศูนย์กลางที่กระจาย การกระจายน้ำหนักของมัน -While the spin of the Earth remains at the same angle it is against the Sun, like a ball - exactly which part of the globe that spin centres on depends on centrifigal force balancing out its weight distribution.Source:Supplied

    “ จุดร้อนของฮาวายถูกกำหนดเมื่อเทียบกับแกนหมุน (spin axis) จากประมาณ 48 ล้านปีที่แล้ว ถึงประมาณ 12 ล้านปีก่อน แต่ถูกแก้ไขที่ละติจูดไกลออกไปทางเหนือกว่าที่เราพบในวันนี้”

    Daniel Woodworth นักศึกษาปริญญาตรีกล่าว มหาวิทยาลัยไรซ์ “ โดยการเปรียบเทียบจุดร้อนของฮาวายกับส่วนอื่น ๆ ของโลกเราจะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนั้นสะท้อนในส่วนที่เหลือของโลก และซ้อนทับกับการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก นั่นบอกเราว่าโลกทั้งโลกเคลื่อนที่ไปเมื่อเทียบกับแกนหมุนซึ่งเราตีความว่าเป็นขั้วโลกที่แท้จริง”

    โดยพื้นฐานแล้วพื้นผิวโลกนั้นถูกเหวี่ยงออกไป

    และนั่นอาจเกิดจากหินหนืดที่ปกคลุมใต้เปลือกโลก

    โดยทั่วไปทุกอย่างจะค่อนข้างคงที่โดยผลสมดุลของแรงเหวี่ยงการหมุนของโลก แต่ไม่เสมอไป.

    กระแสแมกมาสามารถเปลี่ยน ความสอดคล้องของมันในบางสถานที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

    “ ลองนึกภาพว่าคุณมีน้ำเชื่อมเย็นฉ่ำจริงๆและคุณกำลังวางมันบนแพนเค้กร้อนๆ” กอร์ดอน, the W.M. Keck Professor of Rice University’s Earth, Environmental and Planetary Science กล่าว “ ขณะที่คุณเทมันลง คุณจะมีกองเล็ก ๆ อยู่ตรงกลางซึ่งมันจะไม่แผ่ออกทันที เนื่องจากความหนืดของน้ำเชื่อมที่เย็น เราคิดว่าความผิดปกติที่มีความหนาแน่นสูงในชั้นแมนเทิลนั้นเหมือนกองเล็ก ๆ เพียงชั่วคราวเท่านั้นความหนืดที่สูงขึ้นในชั้นแมนเทิลล่าง เช่นเดียวกับน้ำเชื่อมในที่สุดมันก็จะเบี้ยว แต่มันใช้เวลานานมากในการทำเช่นนั้น”

    หากหินหนืดเหล่านี้มีขนาดใหญ่พอพวกมันสามารถปลดปล่อยการหมุนของดาวเคราะห์ ในขณะที่มุมของโลกที่สัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ตำแหน่งของทวีปจะเป็นเช่นนั้น

    โดยพื้นฐานแล้วแรงเหวี่ยงจากศูนย์กลางจะดึง 'หยด' ของแมกมาใกล้กับเส้นศูนย์สูตร จากมุมมองของทวีปเส้นศูนย์สูตรจะเปลี่ยน
    --
    จากผลการศึกษากล่าวว่าครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นประมาณ 3.2 ล้านปีที่ผ่านมา มันย้ายกรีนแลนด์และบางส่วนของยุโรปและอเมริกาเหนือขึ้นไปทางเหนือ

    “ นั่นอาจเรียกสิ่งที่เราเรียกว่ายุคน้ำแข็ง” ศาสตราจารย์กอร์ดอนกล่าว

    7b2d2dafc8c1ec662183c6ffa8771310?width=650.jpg
    ภาพที่ 3 แขกผู้เข้าพักสำรวจภายในแมกมาแชมเบอร์ของภูเขาไฟ Thrihnukagigur, ไอซ์แลนด์ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่อยู่กับร่องกับขั้วแม่เหล็กเหนือแนะนำสมดุลของแกนโลกที่กำลังขยับแหล่งที่มา: จัดจำหน่าย


    หม้อความดันทางธรณีวิทยา

    น้อยกว่า 100 ปีที่ผ่านมาความคิดที่ว่าทวีปของโลกสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ถือว่าน่าหัวเราะ แต่การค้นพบแผ่นเปลือกโลก ได้เปลี่ยนความคิดนั้นไปในชั่วข้ามคืน

    เปลือกนอกของโลกเป็นระบบของแผ่นแข็งที่ลอยอยู่บนเสื้อคลุมที่มีหินความร้อนแรงสูงใต้เบื้องล่าง วัฏจักรเหล่านี้อยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกับทวีปที่มีอยู่ผ่านกองกำลังแปรสัณฐานที่แสดงผ่านภูเขาไฟและแผ่นดินไหว มันอาจเป็นเพียงไม่กี่เซนติเมตรในแต่ละปี แต่มันก็เพียงพอแล้วสำหรับเครือข่าย GPS ที่จะต้องรีเซ็ตเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการนำทาง

    มันง่ายที่จะลืมแรงผลักดันทั้งหมดนี้เพราะอยู่ไกลไกลสายตา

    การลดลงและการไหลของโลหะหลอมเหลวของเสื้อคลุมและแกนกลางของโลก

    ในขณะที่โลกของเราหมุนรอบ แกนเหล็กเหลวนี้จะถูกปั่น

    และนั่นเป็นสิ่งที่ดี

    ปฏิกิริยาต่อเนื่องของธาตุเหล็กบนเหล็กจะสร้างกระแสไฟฟ้าที่ให้พลังงานแก่สนามแม่เหล็ก ซึ่งเป็นเกราะป้องกันพื้นผิวโลก ‘ตีกลับนี้เป็นรังสีที่เลวร้ายที่สุดของดวงอาทิตย์และรังสีคอสมิกที่ทรงพลัง

    ในทำนองเดียวกันมีปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องระหว่างแกนหลอมเหลวและเปลือกแข็ง

    แมกมาสามารถรวมตัวกันเปลี่ยนและเย็นตัวเมื่อเปลือกโลกเปลี่ยนแปลง

    มันสามารถส่งผลให้พื้นที่มีความหนาแน่นมากขึ้นหรือน้อยลงในวัสดุแม่เหล็ก

    และมันสามารถส่งผลต่อการไหลเวียนของแมกมาหลอมเหลวรอบ ๆ

    การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสามารถอธิบายถึงความลึกลับเช่นความผิดปกติของสนามแม่เหล็ก ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ที่อ้างว่ามีดาวเทียมหลายดวงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    นอกจากนี้ยังเปลี่ยน 'สมดุล' ของสนามแม่เหล็กของโลกทำให้ตำแหน่งของขั้วเหนือและขั้วใต้เป็น 'เดิน'

    พวกมันสามารถ "พลิก"

    “ กล่าวอีกนัยหนึ่งถ้าคุณมีชีวิตอยู่ประมาณ 800,000 ปีก่อนและหันหน้าไปทางทิศเหนือด้วยเข็มทิศแม่เหล็กในมือเข็มจะชี้ไปที่“ ทิศใต้” คำวิจารณ์ของนาซ่าอ่าน

    แต่ความหมายตอนนี้คือความสมดุลของเปลือกโลกนั้นอาจไม่แน่นอน หากแมกมาด้านล่างเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนแปลงในรูปแบบที่ไม่คาดคิด

    79e624e8de407389ba62e518a6db3a17?width=650.jpg
    ภาพที่ 4 ไฟล์นี้ภาพของนาซาแสดงภูเขาน้ำแข็งที่ลอยอยู่ใน McMurdo Sound ของทวีปแอนตาร์กติกา - ภาวะโลกร้อนกำลังละลายน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาเร็วกว่าที่เคย - ประมาณหกเท่ามากกว่า 40 ปีมาแล้ว รูปภาพ: NASA


    ANTARCTIC WILDCARD (แผ่นป้ายลายดอกไม้)

    เช่นเดียวกับแผ่นเปลือกโลกปฏิกิริยาตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักกรีนแลนด์ ดังนั้นพวกมันจะได้รับผลกระทบจากแอนตาร์กติกาเช่นกัน และน้ำแข็งกำลังละลายในทวีปแอนตาร์กติกาเร็วกว่าที่เคย - ประมาณหกเท่าต่อปีตอนนี้กว่า 40 ปีที่แล้ว

    ขณะที่น้ำแข็งนี้ตั้งอยู่บนพื้นดินการไหลบ่าจะนำไปสู่ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นทั่วโลก

    แล้วการละลายของแอนตาร์กติกได้ยกระดับน้ำทะเลทั่วโลกมากกว่า 1.4 เซนติเมตร ระหว่างปี 2522-2560 ซึ่งเป็นรายงานในวารสารวิทยาศาสตร์ฉบับที่ตีพิมพ์ในสัปดาห์นี้ของวารสาร National Academy of Sciences (PNAS)

    ที่เกี่ยวข้อง: มีบางสิ่งที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นลึกใต้มหาสมุทรแอตแลนติก

    การวิจัยที่เพิ่มขึ้น 1.8 เมตร ในปี พศ.2643 ตามที่นักวิทยาศาสตร์บางคนคาดการณ์ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด จะมีผลกับเมืองชายฝั่งหลายแห่งซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนนับล้านทั่วโลกได้ทำการวิจัยก่อนหน้านี้

    มันจะช่วยลดน้ำหนักของน้ำแข็งที่นั่งอยู่บนทวีปแอนตาร์กติกาอย่างมากและกระจายน้ำหนักนั้นบนพื้นมหาสมุทร - และแมกมาที่อยู่ด้านล่าง

    สำหรับการศึกษาในปัจจุบันนักวิจัยได้ทำการประเมินมวลน้ำแข็งที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยมีมาในแอนตาร์กติกใน 18 ภูมิภาค ข้อมูลมาจากภาพถ่ายทางอากาศความละเอียดสูงที่ถ่ายโดยเครื่องบินนาซ่าพร้อมกับเรดาร์ดาวเทียมจากหน่วยงานอวกาศหลายแห่ง

    นักวิจัยค้นพบว่าในปี 2522 ถึง 2533 แอนตาร์กติกาเสียมวลน้ำแข็งเฉลี่ยปีละ 40 พันล้านตัน ในช่วงปี 2552-2560 การสูญเสียน้ำแข็งเพิ่มขึ้นมากกว่าหกเท่าเป็น 252 พันล้านตันต่อปี

    สำรวจเพิ่มเติม: เหตุใดเราจึงหมกมุ่นอยู่กับการเปิดเผย

    นักวิจัยพบว่าพื้นที่ที่เคยถูกพิจารณาว่า“ มั่นคงและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง” ในภาคตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกาก็กำลังเสียน้ำแข็งจำนวนมากเช่นกัน

    ปริมาณน้ำแข็งทั้งหมดในแอนตาร์กติกถ้าละลายทั้งหมดจะเพียงพอที่จะยกระดับน้ำทะเล 57 เมตร ..

    https://www.news.com.au/technology/...7ERtct8kSotnI7sLuoXoep8YjqXsGr1foT6FmlpWF2a_I
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1 ก.พ.นี้ ทุกแบงก์ไม่รับฝาก "เช็คแก้ไขข้อความ" แนะให้ผู้สั่งจ่ายเปลี่ยนเช็คใหม่
    เผยแพร่: 17 ม.ค. 2562 02:54 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000585301.jpg
    พบทุกธนาคารเตรียมพร้อม ไม่รับขึ้นเงินเช็คที่แก้ไขข้อความตั้งแต่ 1 ก.พ. 62 เป็นต้นไป แถมหากนำไปขึ้นเงินที่ธนาคารเจ้าของเช็ค มีสิทธิปฏิเสธการจ่ายเงินได้ แนะให้ผู้สั่งจ่ายเปลี่ยนเช็คใหม่ ส่วนตั๋วแลกเงินให้ลูกค้าฝากเรียกเก็บล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ

    จากกรณีที่มีข่าวการทุจริตจากการใช้เช็ค เกิดความเสียหายต่อลูกค้าและธนาคาร โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่นายอามิตร จาวลา อายุ 33 ปี ผู้จัดการทั่วไป ร้านอุปกรณ์เสริมสวย และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม “วิน ซาลอนเน่” ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ ถูกอดีตพนักงานบัญชีปลอมแปลงเช็คไปขึ้นเงินธนาคารชั้นนำ 4 แห่ง รวม 63 ใบ มูลค่าความเสียหายกว่า 8 ล้านบาท กระทั่งบริษัทคู่ค้าได้โทรศัพท์เพื่อทวงถามเงินค่าสินค้า และตรวจสอบพบว่า เช็คของตนสั่งจ่ายไปแล้ว และได้ตัดเงินจากบัญชีเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะพบว่าอดีตพนักงานบัญชีแก้ไขข้อมูลเช็ค โดยเปลี่ยนชื่อผู้รับเงินปลายทางเป็นชื่อสามี ลูกชาย รวมทั้งชื่อของอดีตพนักงานผู้นั้นเอง ก่อนนำฝากเข้าบัญชีต่างๆ ที่เตรียมไว้ เพื่อรับเงินจากธนาคาร 4 แห่ง และยังพบว่ามีพนักงานธนาคารบางคนเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดความสงสัยว่า เช็คเหล่านั้นถูกปล่อยผ่านไปได้อย่างไร และธนาคารเหล่านั้นเคยมีมาตรการป้องกัน กรณีเช็คที่มีการแก้ไขข้อความ ซึ่งส่อว่าทุจริตจากการใช้เช็คหรือไม่

    รายงานข่าวแจ้งว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้เคยสั่งการให้ธนาคารต่างๆ ออกประกาศสำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการเช็ค มาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ระบุว่า "ด้วยปัจจุบันสถิติการทุจริตจากการใช้เช็คในประเทศไทยมีอยู่พอสมควร อันเป็นผลให้เกิดความเสียหายต่อลูกค้าและธนาคาร เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว ธนาคารจึงใคร่ขอความอนุเคราะห์ให้ผู้สั่งจ่ายเช็คโปรดสั่งจ่ายเช็คด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงการแก้ไขข้อความ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2562 เป็นต้นไป หากลูกค้าผู้ทรงเช็คได้รับเช็คที่มีการแก้ไขข้อความ ให้นำฝากเฉพาะที่ธนาคารเจ้าของเช็คเท่านั้น

    โดยข้อแนะนำในการใช้เช็ค ผู้สั่งจ่ายเช็ค ให้ระมัดระวังในการเขียนเช็ค โดยไม่แก้ไขข้อความ/ตัวเลขบนหน้าเช็ค เพื่อป้องกันการทุจริตจากการปลอมแปลงข้อมูล รวมทั้ง เก็บรักษาเช็คให้อยู่ในที่ปลอดภัยและต้องแจ้งธนาคารทันทีเมื่อทราบว่าเช็คหาย ส่วนลูกค้าผู้ทรงเช็ค ตรวจสอบทุกครั้งที่มีการรับเช็ค โดยไม่รับเช็คที่มีการแก้ไขข้อความ/ตัวเลข, หากได้รับเช็คที่มีการแก้ไขข้อความ/ตัวเลข ให้นำไปให้ผู้สั่งจ่ายเปลี่ยนเช็คใหม่ หรือ ให้นำไปขึ้นเงินที่ธนาคารเจ้าของเช็คเท่านั้น และไม่ควรพับเช็คหรือทำให้เช็คชำรุด เพราะจะทำให้เช็คไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการเรียกเก็บได้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเช็คคืน โปรดติดต่อสาขาของธนาคารเจ้าของเช็ค"

    562000000585302.jpg


    นอกจากนี้ ในใบคำขอซื้อเช็ค นับจากนี้จะระบุข้อความว่า "การสั่งจ่ายเช็คต้องไม่มีการแก้ไข หากมีการแก้ไขธนาคารผู้จ่ายมีสิทธิปฏิเสธการจ่ายเงินได้" อีกด้วย

    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สมาคมธนาคารไทย ได้หารือกรณีการยกเลิกการแลกเปลี่ยน "เช็คกลุ่มพิเศษ" โดยเฉพาะเช็คที่มีการแก้ไขข้อความ เช็คตราประทับ เช็คมูลค่าสูง รวมทั้งตั๋วแลกเงิน เช็คชำรุดที่ไม่สามารถกราดภาพได้ และเช็คสงสัยจะปลอม สำหรับการเรียกเก็บเงินตามเช็คระหว่างธนาคารผ่านระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็คและระบบการจัดเก็บภาพเช็ค (Imaged Cheque Clearing and Archive System หรือ ICAS) ของธนาคารแห่งประเทศไทย มานานกว่า 1 ปี ก่อนจะได้ข้อยุติเมื่อเดือน ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา ตามการพัฒนาระบบ ICAS ระยะที่ 3 หลังจากระยะที่ 2 ได้ยกเลิกระบบการหักบัญชีเช็คภายในจังหวัด เปลี่ยนสถานะสำนักหักบัญชีเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนเช็คกลุ่มพิเศษไปในช่วงที่ผ่านมา โดยธนาคารสมาชิกระบบ ICAS 36 แห่ง เห็นพ้องให้มีผลในวันที่ 1 ก.พ. 2562 เนื่องจากอาจมีผลให้ลูกค้าบางส่วนได้รับความสะดวกน้อยลงในการใช้บริการฝากเช็คเพื่อเรียกเก็บ

    สำหรับเหตุผลในการยกเลิกการแลกเปลี่ยนเช็คกลุ่มพิเศษนั้น เนื่องจากนับตั้งแต่เริ่มใช้ระบบ ICAS โดยเรียกเก็บเงินตามเช็คระหว่างธนาคารด้วยภาพเช็ค ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2555 ที่ผ่านมา ก่อนจะใช้ระบบดังกล่าวทุกจังหวัดทั่วประเทศมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2556 เพื่อลดค่าขนส่งเช็คทั้งระบบ และระยะเวลาเรียกเก็บเงินตามเช็ค 1 วันทั่วประเทศ พบว่ายังไม่สามารถใช้ระบบได้เต็มศักยภาพ 100% เนื่องจากยังมีเช็คบางส่วนที่ธนาคารผู้ส่งเรียกเก็บ ต้องนำส่งเช็คต้นฉบับให้ธนาคารเจ้าของเช็ค โดยเฉพาะเช็คที่มีการแก้ไขข้อความ มีมากกว่า 4% ของปริมาณเช็คเรียกเก็บทั้งระบบ ซึ่งพบว่าการดำเนินการแลกเปลี่ยนเช็คกลุ่มพิเศษนั้น มีต้นทุนประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี วิธีการนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเกี่ยวกับระยะเวลาในการเปิดรับฝากเช็คเพื่อเรียกเก็บจากลูกค้าของสาขาในส่วนภูมิภาคได้นานขึ้น รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัย และป้องกันความเสียหายของผู้สั่งจ่ายเช็คจากการปลอมแปลงเช็คที่มีการแก้ไขข้อความ

    562000000585303.jpg

    ภาพ : ธนาคารไทยพาณิชย์

    โดยแนวทางปฏิบัติสำหรับเช็คที่มีการแก้ไขข้อความ ให้ยกเลิกการรับฝากเช็คเพื่อส่งเรียกเก็บระหว่างธนาคาร ทำให้จากเดิมธนาคารอนุมัติตัดจ่ายจากเช็คต้นฉบับและจัดเก็บตัวเช็คเอาไว้ ต่อไปจะไม่สามารถนำฝากเพื่อเรียกเก็บระหว่างธนาคารได้ โดยธนาคารจะแนะนำลูกค้าให้ติดต่อผู้สั่งจ่ายเปลี่ยนเช็คใหม่ หรือขอให้เบิกถอน หรือนำฝากกับธนาคารเจ้าของเช็ค สำหรับเช็คแก้ไขข้อความที่ธนาคารรับฝากจากลูกค้าล่วงหน้า ก่อนวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยออกประกาศ มีผลในวันที่ 1 ก.พ. 2562 สามารถนำส่งเช็คดังกล่าวเรียกเก็บระหว่างธนาคารได้ โดยนำส่งรายละเอียดเช็คทั้งหมดที่รับฝากไว้ล่วงหน้าแต่ละฉบับให้ธนาคารเจ้าของเช็ค 1 วัน ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ โดยการพิจารณาอนุมัติตัดจ่ายขึ้นอยู่กับธนาคารผู้จ่ายเงิน

    สำหรับเช็คมูลค่าสูง มูลค่าตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป จะมีแนวทางปฏิบัติใหม่ ด้วยการจัดเก็บภาพเช็คเข้าระบบ ICAS และต้องนำส่งตัวเช็คต้นฉบับให้ธนาคารเจ้าของเช็คที่กรุงเทพมหานคร ทุก 15 วัน โดยธนาคารจะอนุมัติตัดจ่ายจากภาพเช็ค ส่วนเช็คมีตราประทับ ยังคงจัดเก็บภาพเช็คเข้าระบบ ICAS และจัดเก็บตัวเช็คที่ผ่านการเรียกเก็บ โดยธนาคารจะอนุมัติตัดจ่ายจากภาพเช็คต่อไป สำหรับเช็คหรือตราสารทางการเงินที่ผู้ออกไม่มีถิ่นฐานในราชอาณาจักรไทย ไม่ให้ส่งเรียกเก็บเงินผ่านระบบ ICAS โดยให้แต่ละธนาคารเรียกเก็บตามช่องทางที่ธนาคารกำหนดไว้ เช่น ฝ่ายบริการโอนเงินต่างประเทศ หรือ ฝ่ายปริวรรตเงินตราต่างประเทศของแต่ละธนาคาร

    ส่วนตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange หรือ B/E) และตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Notes หรือ P/N) จะจัดเก็บภาพใบแทนเข้าระบบ ICAS และนำส่งตั๋วต้นฉบับ โดยธนาคารจะอนุมัติตัดจ่ายจากตั๋วต้นฉบับ ทำให้ลูกค้าที่นำฝากตั๋วที่ครบกำหนดการเรียกเก็บ ที่สาขาในส่วนภูมิภาค จะได้รับเงินล่าช้า โดยนับจากนี้ธนาคารจะให้ลูกค้านำตั๋วมาฝากเรียกเก็บล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ ก่อนวันที่ตั๋วครบกำหนด เพื่อให้แต่ละสาขาส่งต้นฉบับให้สำนักงานใหญ่ ก่อนนำส่งให้ธนาคารเจ้าของตั๋วแลกเงิน และตั๋วสัญญาใช้เงินอนุมัติตัดจ่ายต่อไป

    https://mgronline.com/onlinesection...YLXoZBxdbNl10u9bPA1-KuzXTMYvuUQ4xD_TQWCVY_5Uw
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    4 ธนาคารดังถีบหัวส่ง “ลูกค้าชั้นดี” โวยปล่อยให้ถูกปลอมเช็ค ขึ้นเงิน 63 ใบ-สูญกว่า 8 ล้าน
    เผยแพร่: 16 ม.ค. 2562 03:50 ปรับปรุง: 16 ม.ค. 2562 07:21 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000543701.jpg

    ผู้จัดการทั่วไป ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสวยชื่อดังในตัวเมืองเชียงใหม่ โพสต์โซเชียลร้องขอความเป็นธรรม ถูกอดีตพนักงานบัญชีปลอมแปลงเช็คไปขึ้นเงินธนาคารชั้นนำ 4 แห่ง รวม 63 ใบ เสียหายกว่า 8 ล้าน ติดตามเรื่องนี้กว่า 3 เดือน กลับเงียบหาย ทั้งที่เป็นลูกค้าชั้นดี ลูกค้าวีไอพี ถูกปะเหลาะขายผลิตภัณฑ์มาตลอด พอมีปัญหากลับบ่ายเบี่ยง โยนกันไปมา เชื่อถือไม่ได้ แถมคดีล่าช้าไม่คืบหน้า แบงก์ชาติยังเมิน

    เมื่อวันที่ 16 ม.ค. เฟซบุ๊กส่วนตัว “อามิตร จาวลา” ของ นายอามิตร จาวลา ผู้จัดการทั่วไป ร้านอุปกรณ์เสริมสวย และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม “วิน ซาลอนเน่” ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ โพสต์ข้อความร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกอดีตพนักงานบัญชีกระทำการทุจริตเช็คของห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่เปิดไว้กับธนาคารชื่อดัง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารสีน้ำเงิน 36 ฉบับ เป็นเงิน 6.5 ล้านบาท, ธนาคารสีฟ้า 18 ฉบับ เป็นเงิน 9.9 แสนบาท, ธนาคารสีเขียว 8 ฉบับ เป็นเงิน 2.4 แสนบาท และ ธนาคารสีม่วง 1 ฉบับ เป็นเงิน 1.8 แสนบาท รวม 63 ฉบับ มูลค่าความเสียหายกว่า 8 ล้านบาท และพบว่า 1 ใน 4 ธนาคาร มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องให้การสนับสนุน และรับเงินโอนจากเช็คที่อดีตพนักงานบัญชีรายนี้ปลอมแปลงอีกด้วย

    นายอามิตร โพสต์ข้อความระบุว่า ตนทราบเรื่องเช็คของบริษัทถูกอดีตพนักงานบัญชีกระทำการทุจริต มาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทคู่ค้าได้โทรศัพท์เพื่อทวงถามว่า ยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้าจากบริษัทฯ แต่เช็คของตนสั่งจ่ายไปแล้ว และได้ตัดเงินจากบัญชีเรียบร้อยแล้ว กระทั่งตรวจสอบพบว่า อดีตพนักงานบัญชีของบริษัทฯ ได้แก้ไขข้อมูลเช็คของทาง หจก.วาย เค ซี เทรดดิ้ง ทั้งเช็คที่ตนสั่งจ่ายให้คู่ค้า และเช็คที่คู่ค้าสั่งจ่ายให้ตน โดยเช็คทุกใบที่ถูกแก้นั้น ถูกเปลี่ยนชื่อผู้รับเงินปลายทางเป็นชื่อสามี ลูกชาย รวมทั้งชื่อของอดีตพนักงานบัญชีรายนั้นด้วย โดยพบว่าแต่ละเดือนในบริษัทฯ มีการทำธุรกรรมผ่านเช็คนับร้อยใบ อดีตพนักงานบัญชีรายนี้ฉวยโอกาสหยิบเช็คครั้งละ 2-3 ใบ และนำไปแก้ไข ก่อนนำฝากเข้าบัญชีต่างๆ ที่เตรียมไว้ เพื่อรับเงินจากธนาคาร 4 แห่ง

    โดยลายเซ็นที่กำกับการแก้ไข ชื่อและวันที่ ภายในเช็คนั้น ไม่เหมือนลายเซ็นสั่งจ่ายที่ตนเซ็นอยู่ภายในเช็คใบเดียวกัน เช็คบางใบก็ปลอมทั้งฉบับ แก้ทุกอย่าง ขีดฆ่าเต็มทั้งใบก็มี ลายเซ็นก็ไม่เหมือน แต่ทางธนาคารกลับปล่อยให้เช็คเหล่านั้นผ่าน สามารถขึ้นเงิน ตัดเงินออกจากบัญชีได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งมีใบหนึ่งเขียนเป็นเงินสดแล้วเบิกหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารก็มี ใช้วิธีขีดฆ่าชื่อคนอื่นในเอกสารของธนาคาร แล้วเขียนชื่อตัวเองลงไปแทน พร้อมกับปลอมลายเซ็น เช็คบางใบมีถึง 3 ลายเซ็นที่หน้าตาไม่เหมือนกันเลย บางใบยังแก้ไขเร่งวันที่เช็คให้เร็วขึ้นอีก นอกจากนี้ ยังพบว่าหนึ่งในธนาคารที่ปลอมเช็ค มีพนักงานธนาคารบางคนเกี่ยวข้อง โดยมีข้อความสนทนากับอดีตพนักงานบัญชี ว่าเห็นถึงความผิดปกติของเช็ค แต่กลับปล่อยให้เช็คนั้นผ่านไปได้ โดยไม่ได้เอะใจ โทร.สอบถามกับตน ทั้งที่เป็นลูกค้าชั้นดีของธนาคารมาตลอด และมีเบอร์ส่วนตัวหมดทุกคน

    นายอามิตร กล่าวว่า ตนได้ติดตามเรื่องนี้กับธนาคารทั้ง 4 แห่งมาร่วม 3 เดือน ทุกวันนี้ยังไม่มีคำตอบใดๆ และไม่มีท่าทีที่จะคืนเงินแม้แต่น้อย ทั้งที่เคยบอกว่าเป็นลูกค้าวีไอพี ลูกค้าชั้นดี เสนอขายผลิตภัณฑ์ทั้งประกันชีวิต บัตรเครดิต กองทุน สินเชื่อ เครื่องรูดบัตร ติดตามทุกกันไม่ขาด แต่วันที่เกิดปัญหาขึ้นกลับไม่เหลียวแล ตนติดต่อทุกคน สอบถามทุกเบอร์ทุกช่องทาง กลับไม่มีใครว่างพบ บ่ายเบี่ยงให้โทร.หาคนอื่น บอกจะโทร. กลับเมื่อได้คำตอบ แต่จนถึงวันนี้กลับไม่เคยมีใครอัพเดตอะไรเลย บางครั้งไม่รับโทรศัพท์ ต้องโทร. คุยกับคอลเซ็นเตอร์ เล่าเรื่องเดิม ฝากเรื่องเดิม ได้รับคำตอบว่า หากมีอะไรอัพเดต เราจะติดต่อกลับไป จึงฝากบอกกับสังคมว่า อย่าได้หลงเชื่อกับคำโฆษณา และคำสัญญาใดๆ แม้แต่ถ้อยคำที่เจ้าหน้าที่ธนาคารระดับสูง เคยบอกตลอดมาว่าพึ่งได้นั้นไม่จริง

    “เรื่องนี้ได้กินเวลาในชีวิตของผมไปจนหมดสิ้น ทำให้ผมท้อทั้งกายทั้งใจ กินนอนไม่ได้ แถมผมยังเครียดจนต้องไปโรงพยาบาลให้หมอรักษาความเครียดของผม กระทบทั้งธุรกิจ ทั้งครอบครัวของผม สุขภาพกายและใจย่ำแย่มาก เหนื่อยมากในการตามหาหลักฐาน ร้องทุกข์แจ้งความวิ่งเข้าออกโรงพักเป็นว่าเล่น ทั้งโทร. หาธนาคาร ติดต่อนัดหมายกับผู้มีส่วนรับผิดชอบด้วยตนเองก็ถูกผลัดเลื่อนไปมา บ่ายเบี่ยงไปมา ทั้งส่งจดหมายติดตามเอง ให้ให้ทนายติดตาม จนไปถึงร้องต่อธนาคารแห่งประเทศไทยให้ช่วยติดตามธนาคาร เกิน 3 เดือนแล้ว ที่ถูกเพิกเฉย อย่างกับเราไม่มีตัวตน ผมจึงถือโอกาสนี้เรียกร้องให้ธนาคารแสดงความรับผิดชอบอย่างมืออาชีพ และเป็นสถานที่ที่ทุกคนไว้วางใจในการฝากทรัพย์สิน เงินที่ทำงานหามาทั้งชีวิต ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีที่เป็นไปอย่างล่าช้า ธนาคารบางแห่งก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ผมจึงตัดสินใจแชร์เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ เนื่องจากความผิดปกติขนาดนี้แต่ทางธนาคารยังปล่อยผ่าน แล้วต่อไปเราจะไว้ใจธนาคารให้ดูแลเงินของเราได้อย่างไร” นายอามิตร กล่าว


    562000000543702.jpg


    562000000543703.jpg


    562000000543704.jpg


    562000000543705.jpg


    562000000543706.jpg


    562000000543707.jpg


    562000000543708.jpg


    562000000543709.jpg


    562000000543710.jpg

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000005247
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เปิดใจ! หนุ่มนักธุรกิจเครื่องสำอางดังเชียงใหม่ทวงความรับผิดชอบ 4 แบงก์ โดนปลอมเช็คสูญ 8 ล้าน เผยแพร่: 16 ม.ค. 2562 17:06 ปรับปรุง: 16 ม.ค. 2562 17:23 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
    562000000566201.jpg

    ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หนุ่มนักธุรกิจร้านเครื่องสำอางดังเชียงใหม่เปิดใจหลังโพสต์ทวงถามความรับผิดชอบ 4 ธนาคารดัง กรณีถูกอดีต พนง.บัญชีปลอมเช็ค 63 ใบเป็นเงินกว่า 8 ล้าน สั่งจ่ายเข้าบัญชีตัวเองและครอบครัว รวมทั้ง จนท.ธนาคาร
    562000000566202.jpg


    จากกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่และวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางหลังจากที่วานนี้ (15 ม.ค. 62) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อามิตร จาวลา” โพสต์ภาพถ่ายเช็คของธนาคารที่ถูกปลอมแปลงลายเซ็นและเปลี่ยนแปลงรายละเอียดผู้รับเงิน พร้อมบอกเล่าเรื่องราวและร้องขอความเป็นธรรมว่า ช่วงปลายเดือนกันยายน 2561 ตรวจสอบพบว่าถูกอดีตพนักงานบัญชีของร้านทุจริตด้วยการปลอมแปลงลายเซ็นและเปลี่ยนแปลงรายละเอียดผู้รับเงินในเช็คของร้านที่เปิดไว้ธนาคารชื่อดัง 4 แห่ง รวมจำนวน 63 ใบ เป็นจำนวนเงินที่ได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้นกว่า 8 ล้านบาท โดยทุกใบถูกเปลี่ยนชื่อผู้รับเงินเป็นสามี และลูกชายของอดีตพนักงานบัญชีคนดังกล่าว รวมทั้งอดีตพนักงานบัญชีคนนั้นด้วย

    ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้ติดตามทวงถามความรับผิดชอบจากธนาคารชื่อดังทั้ง 4 แห่ง อย่างต่อเนื่อง เพราะเช็คทุกใบที่ถูกปลอมแปลงลายเซ็นและเปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับเงินมีความผิดปกติอย่างชัดเจน แต่ทางธนาคารกลับไม่สังเกตพบหรือตรวจสอบเลย อย่างไรก็ตาม จนถึงล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และไม่มีการแสดงท่าทีรับผิดชอบด้วย จึงมีการโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียเพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่าง

    562000000566203.jpg


    จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว คือ นายอามิตร จาวลา อายุ 33 ปี นักธุรกิจเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องสำอางชื่อดังของเชียงใหม่ ที่เปิดเผยว่าตรวจสอบพบครั้งแรกว่าอดีตพนักงานบัญชีของร้านทุจริตเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 61 เนื่องจากถูกคู่ค้าโทรศัพท์ทวงถามว่ายังไม่ได้รับเงินค่าสินค้า ทั้งที่เช็คของทางร้านได้สั่งจ่ายไปแล้วและเงินถูกตัดบัญชีแล้ว จึงตรวจสอบจนพบว่าอดีตพนักงานบัญชีทำการทุจริตด้วยการปลอมแปลงลายเซ็น และแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับเงินในเช็ค

    เช็คทั้งหมด 63 ใบ รวมเป็นเงินกว่า 8 ล้านบาท ทุกใบถูกเปลี่ยนชื่อผู้รับเงินเป็นชื่อสามี ลูกชาย รวมทั้งชื่อของอดีตพนักงานบัญชีรายนั้นด้วย โดยพบว่าแต่ละเดือนในร้านมีการทำธุรกรรมผ่านเช็คนับร้อยใบ อดีตพนักงานบัญชีรายนี้ฉวยโอกาสหยิบเช็คครั้งละ 2-3 ใบ และนำไปแก้ไข ก่อนนำฝากเข้าบัญชีต่างๆ ที่เตรียมไว้เพื่อรับเงินจากธนาคาร 4 แห่ง อีกทั้งยังพบด้วยว่ามีเจ้าหน้าที่ของธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องให้การสนับสนุน และรับเงินโอนจากเช็คที่อดีตพนักงานบัญชีรายนี้ปลอมแปลงอีกด้วย

    562000000566204.jpg


    หลังจากที่ตรวจสอบพบได้มีการแจ้งความดำเนินคดี พร้อมทั้งติดต่อไปยังธนาคารเพื่อทวงถามความรับผิดชอบ เนื่องจากจำนวนเงินที่ได้รับความเสียหายรวมแล้วมากกว่า 8 ล้านบาท และที่สำคัญก็คือเช็คทั้งหมดที่มีการปลอมแปลงลายเซ็นและเปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับเงินนั้นทุกใบมีความผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างเช่น เช็คบางใบมีถึง 3 ลายเซ็นที่หน้าตาไม่เหมือนกันเลย มีการแก้ไขชื่อผู้รับเงินจากนิติบุคคลเป็นบุคคลธรรมดาหรือเปลี่ยนวันที่ โดยที่บางใบมีการเร่งวันที่ให้เร็วขึ้นด้วย เป็นต้น แต่เหตุใดทางธนาคารกลับไม่มีการตรวจสอบหรือสังเกตพบเลย รวมทั้งหากมีข้อสงสัยใดๆ ทำไมจึงไม่สอบถามกลับมาที่ตนเอง

    562000000566205.jpg


    อย่างไรก็ตาม จากการติดตามทวงถามกับทั้ง 4 ธนาคารชื่อดังตลอดช่วงเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมากลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ และมีท่าทีที่ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีอย่างที่ควรจะเป็นด้วย เช่น ขอหลักฐานประกอบสำนวนก็ยังให้ไม่ครบ เป็นต้น ทั้งๆ ที่ธุรกิจของครอบครัวตนเองเป็นลูกค้าของธนาคารมานานหลายสิบปี

    562000000566206.jpg


    นายอามิตรบอกด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนตกอยู่ในความเครียดอย่างมากจนนอนไม่หลับและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตปกติ ทำให้ต้องพบแพทย์และกินยาคลายเครียด นอกจากนี้ กรณีที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบต่อการขาดสภาพคล่องในการทำธุรกิจของตนเองด้วย อย่างไรก็ตาม ยังถือว่าโชคดีและต้องขอบคุณที่ทางบริษัทคู่ค้าต่างๆ เข้าใจกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นและให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการขยายระยะเวลาการชำระค่าสินค้าออกไปก่อน รวมทั้งยังให้สั่งสินค้าได้เช่นเดิม

    เรื่องราวที่ตนนำมาโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียนั้น เหตุผลเพราะต้องการจะให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างและเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้คนเพื่อให้ระมัดระวังรอบคอบและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก รวมทั้งต้องการร้องขอความเป็นธรรมและทวงถามความรับผิดชอบจากธนาคารชื่อดังทั้ง 4 แห่งด้วย

    562000000566207.jpg


    562000000566208.jpg

    https://mgronline.com/local/detail/9620000005454
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Sayan Rujiramora
    YouTube -- SilverBullion TV
    Bill Holter : Not A Chance Next Financial Crisis Can Be Avoided
    Jan 13, 2019

    4:45.....เมื่อปี 1966 Alan Greenspan เขียนบทความว่าทองคำคือ money ที่แท้จริง ... นั่นเท่ากับว่าภายหลังเมื่อเขาเป็นประธาน Fed เขาย่อมรู้ดีว่ากำลังพิมพ์สิ่งที่เรียกว่า money ปลอมที่ด้อยค่าไปเรื่อยๆ

    5:20...SBTV ...จากปัญหาการเงินขณะนี้ คุณคิดว่า Fed สามารถจะทำอะไรที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้หรือเปล่า

    Bill Holter....ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว ...Fed เหลือเครื่องมืออย่างเดียวคือ พิมพ์ พิมพ์ และพิมพ์มากขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อเลื่อนเวลาออกไปเท่านั้น

    5:40...SBTV ....วิกฤติที่กำลังจะมามันร้ายแรงแค่ไหนและมันจะกระทบมาตรฐานการครองชีพของผู้คนในสหรัฐอย่างไร

    Bill ....มันคือการรวมกันของฟองสบู่เครดิตที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ กับสถานการณ์ที่รุนแรงกว่าเมื่อปี 2008-09 หลายเท่า......ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการครองชีพ..มันไม่ใช่แค่ในสหรัฐ แต่มันจะเป็นเรื่องระดับโลกเลย เหตุผลคือ ธนาคารกลางทั่วโลกถือครองดอลล่าร์อยู่ประมาณ 60% ในรีเสิร์ฟทุนสำรองประเทศของตน

    ถ้าเกิด credit breakdown สิ่งที่จะตามมาคือ distribution (การกระจายทรัพยากร) breakdown ...นั่นคือเมื่อคุณเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต คุณจะเห็นแต่ชั้นวางของที่ว่างเปล่า ไม่มีสินค้าจากแหล่งผลิตส่งเข้ามา ซัพพลายเชนส์ขาดตอนไปแล้วจากเครดิตเชนส์ที่ล่มสลายไป ...นี่คือสิ่งที่กระทบ เพราะความมั่งคั่งทาง financial มันเหือดแห้งไปแล้ว ...คนที่อยู่ในเมืองใหญ่จะรู้สึกได้อย่างชัดเจน

    7:00...SBTV ..แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับเงินยูโร หรือเงินสกุลอื่นๆ เพราะผู้คนเกือบทั่วโลกคิดว่านี่เป็นปัญหาของเงินดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับพวกเขาเลย

    Bill.....no way... เรื่องนี้จะเกิดไปทั่วโลก อย่างที่บอกไปแล้ว แบ้งค์ชาติทั่วโลกถือดอลล่าร์เป็นรีเสิร์ฟรวมกันแล้วประมาณ 60% ของรีเสิร์ฟ ...ถ้าเกิดวิกฤติดอลล่าร์ ก็จะเกิดวิกฤติกับธนาคารกลางที่ถือดอลล่าร์เหล่านั้นทั้งหมด

    เมือต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ZeroHedge มีบทความว่า Federal Reserve มีมูลค่าที่ติดลบไปแล้ว ดังนั้นมันไม่มีอะไรมาแบ้คค่าดอลล่าร์อีก และนั่นก็เป็นเหตุให้ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมันยิ่งไปลดค่าของทรัพย์สินพันธบัตรใน balance sheet ที่บอกว่ามี $4 ล้านล้านเข้าไปอีก ...($4 ล้านล้านคือมูลค่าบอนด์ที่ต้องรอให้ mature เสียก่อน) ...Fed ยังไม่ยอมรับว่าตัวมันมีมูลค่าติดลบอยู่ ซึ่งถ้าขายทรัพย์สินออกไปทั้งหมด..ก็จะกลับมาถือดอลล่าร์ที่ไม่มีค่าเลยอยู่ดี

    ทองคำและซิลเวอร์นั่นแหละที่เป็น real money ...มันไม่มีภาระ (liability) ไม่ต้องให้รัฐบาลไหนมารับรอง มันเป็นสิ่งที่ผู้คนใช้แรงงานแลกมาจริงๆ ไม่ใช่เสกกลางอากาศเหมือน ...fiat money ซึ่งเป็นเงินที่รัฐบาลสัญญาว่าจะเปลี่ยนคืนให้ในอนาคต แต่ทำไม่ได้และมูลค่าก็ลดไปเรื่อยๆ

    9:35..SBTV ....คุณคิดว่าจะมีการยึดทองคำจากประชาชนแบบที่เห็นเมื่อปี 1933 หรือเปล่า

    Bill.....คิดว่าคงเป็นอย่างนั้น เหรียญทองคำของกษาปณ์สหรัฐ และรวมถึงเหรียญทองคำจากทุกแหล่ง ไม่ว่าทั้ง Maple Leafs หรือ Sovereigns หรือ Kangaroos คุณต้องนำไปเก็บที่อื่นนอกประเทศซึ่งไม่ง่ายเลย

    10:43...SBTV... จากการที่เข้ามาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน (uncharted waters) ทั่วโลกอยู่กับระบบเงินเฟียตมายาวนาน คุณคิดว่าระบบการเงินต่อไปจะเป็นอย่างไร

    Bill.....เราคิดว่ามันจะต้องมีการรีเซ็ทเกิดขึ้นสองครั้ง ครั้งแรกคือการพยายามที่จะทดแทนดอลล่าร์โดยใช้ SDR แต่มันจะไม่เวิร์คเพราะ SDR ก็ไปอิงอยู่กับตะกร้าเงินเฟียตอยู่ดี ...เราคิดว่าครั้งที่สองนั่นแหละที่ทองคำจะถูกนำเข้ามาในระบบการเงิน โดยจะให้สกุลเงินต่างๆมาอิงกับมันในอัตราส่วนที่ต่างกัน เงินหยวนนี่แหละที่จะแข็งแกร่งที่สุด เพราะจีนมีการสะสมทองคำมากกว่า 20,000 ตันในช่วง 8-10 ปีมานี้

    เมิ่อตอนที่ ปธน.นิกสันปิดประตูการอิงดอลล่าร์กับทองคำเมื่อปี 1971 ...เหมาเจ๋อตุงออกมาบอกว่า ....."เราจะเริ่มได้เห็นการล่มสลายของระบบการเงินโลกตะวันตกแล้ว" ...พวกจีนเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ดี เพราะพวกเขาเคยมีการล่มสลายของระบบเงินเฟียตมาแล้วในประวัติศาสตร์นับพันปีถึงประมาณ 20 ระบบ พวกเขารู้ดีว่า fiat currency มีมูลค่าแท้จริง (intrinsic value) ...คือศูนย์

    13:55...SBTV... ทำไมรัฐบาลถึงจะต้องยอมรับมาตรฐานทองคำถ้ามันต้องทำให้มีวินัยทางการเงินมากขึ้น

    Bill.....เพราะพวกเขาถูกบีบให้ต้องยอมรับ เพราะตอนนี้โลกมาถึงจุดที่ ประชาชนรู้กันทั่วว่าเงินเฟียตไม่มีอะไรหนุนหลังเลย มันไม่ปลอดภัยเลยที่จะสะสมความมั่งคั่งของตนในเงินเฟียต เพราะเงินเฟียตเป็นเพียงคำสัญญาของรัฐบาลซึ่งไม่อาจปฏิบัติตามได้ พวกเขาสร้างหนี้ไว้เยอะจนไม่อาจใช้คืนได้

    15:23...SBTV...ซิลเวอร์จะกลับมาเป็น money ได้อีกหรือไม่

    Bill....เราเห็นว่าซิลเวอร์จะ outperform ทองคำ ..ซิลเวอร์คือทองคำที่ได้รับ steroids นั่นเอง ....เพราะด้วยอัตราที่ห่างจากทองคำถึง 85:1 มันมากเกินไป ..อัตราส่วนทั้งสองอย่างนี้อยู่ที่ประมาณ 10 เท่าเท่านั้น ...ในรัฐธรรมนูญสหรัฐมีการกำหนดให้ค่าระหว่างซิลเวอร์กับทองคำอยู่ที่ 15:1 เท่านั้น ...มันจะมาเป็น money ด้วยแน่นอน มันคือทองคำสำหรับคนระดับล่างๆลงมา....

    26:10...SBTV...เมื่อถึงเวลาที่จะ collapse ...เรื่องของอาหารจะอยู่ในชื่อของรายการ checklist ที่เป็นปัญหาหรือไม่

    Bill....นั่นอยู่ในอันดับต้นๆเลย ...การดำรงชีพวันต่อวันโดยไม่มีร้านค้าหรือสโตร์ที่จะพึงพาได้ เรื่องของน้ำมันรถเพื่อการเดินทางก็เป็นอีกปัจจัย ...เพราะระบบเครดิตที่พังทลาย ซัพพลายของสิ่งจำเป็นการดำรงชีวิตก็จะหายไปด้วยจากเส้นทางการจำหน่าย chains of distribution ทั้งหมด.......

    เตรียมพร้อมเอาไว้ อยู่ห่างจากเมืองใหญ่ไว้ถ้าเป็นไปได้ เมืองใหญ่ที่ต้องพึ่งพาทุกอย่างจากเส้นทาง supply chains ที่ต้องพึ่งพาระบบเครดิตอีกทอดหนึ่ง...

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บุกรังรักเจ้าคณะตำบลทำตัวล่องหน ฝ่ายหญิงอ้างไม่รู้เป็นพระ
    หมวดข่าว:ในประเทศ
    วันที่ 17 ม.ค. 62 เวลา 08:59:58 น.
    3.JPG
    สะกดรอยเจ้าอาวาสชอบล่องหนเป็นนินจา เจอนอนกกสีกาคารังรัก ฝ่ายหญิงอ้างไม่รู้เลยว่าเป็นพระ

    ชาวบ้านตำบลกองทูล อ.หนองไผ่ ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมพระชั้นผู้ใหญ่ เป็นถึงเจ้าอาวาส และเจ้าคณะตำบล แต่กลับชอบทำตัวล่องหนเป็นนินจาในยามค่ำคืน ที่จึงพากันสะกดรอยตาม จากอำเภอหนองไผ่ ถึงอำเภอวิเชียรบุรี รวมระยะทาง 40 กิโลเมตร

    สุดท้ายพบแอบมาโผล่ที่ห้องเช่า กำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่กับสาวคนหนึ่งในห้องดังกล่าว ในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืดคอกลมสีเทา โดยหลักฐานก็คือเบียร์ 2 ขวด แก้ว 2 ใบ ทราบชื่อต่อมาคือพระครูกมล พัชราไสย อายุ 48 ปี เจ้าคณะตำบลกองทูล ท่าแดงเขต 3 เจ้าอาวาสวัดหนองบัวทอง ต.กองทูล อ.หนองไผ่ หรือ นายจำเนียร ถาวรทรัพย์ ชาวจังหวัดสระแก้ว ซึ่งบวชมาได้กว่า 20 พรรษา จนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน

    โดยชาวบ้านบุกไปพบจนด้วยหลักฐานทั้งถอดจีวรเป็นชุดฆาราวาส ทั้งนั่งดื่มเบียร์ และอ้างว่าสึกไปแล้วตั้งแต่เช้า ตอนนี้ ไม่ได้เป็นพระแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจค้นภายในห้องพัก รวมทั้งภายในรถยนต์ เพื่อหาชุดจีวร แต่ก็ไม่พบ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำการถอดชุดจีวร

    ก่อนจะมาพบกับฝ่ายหญิง โดยฝ่ายหญิงเองก็ได้ขอร้องไม่ให้สื่อมวลชน ทำการบันทึกภาพ พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่า ตนเองรู้จักกับนายจำเนียร มาได้ราว 2 เดือนเศษ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าที่คบหากันอยู่เป็นพระ เพราะทุกครั้งที่นายจำเนียร เดินทางมาหาก็จะขับรถยนต์เก๋งมาหา โดยจะแต่งกายในชุดปกติ คือนุ่งกางเกงขายาว หรือนุ่งกางเกงขาสั้น และนานๆ ถึงจะแวะเวียนมาหา

    เคยถามว่านายจำเนียรทำอาชีพอะไร ก็จะได้รับคำตอบว่าทำงานรับจ้างบ้าง รับเหมาก่อสร้างบ้าง เลยไม่ได้เอะใจอะไร โดยฝ่ายหญิงยืนยันว่าคบกันโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นพระมาก่อนจริง ๆ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเชียรบุรี จึงเชิญ นายจำเนียร ไปทำการลงบันทึกประจำวัน เพื่อเป็นหลักฐาน ขณะที่ชาวบ้านที่ศรัทธาในตัวพระก็เดินทางมาดูด้วยตา หลายคนถึงกับพูดคำว่าเสียใจ เพราะตอนที่อยู่ภายในวัด ก็ปฏิบัติทำตัวดี ต่อหน้าชาวบ้านมาโดยตลอด


    http://news.ch3thailand.com/local/8...duwWe9MKb2tFSDjFLyIyhPzQKy3Twvubp21bLkJ58aySs
     

แชร์หน้านี้

Loading...