การทดลองจิตเร็วกว่าความเร็วของแสง

ถอนสังโยชน์ 3 ก็เท่ากับ หายตัวไป 1 ต่อ 3 ส่วน

 

เมื่อมีแสง...จึงมีการเห็น

เมื่อมีสสาร...จึงมีการสัมผัส

เมื่อมีความคิด...จึงมีจิต(รับรู้)

เมื่อมีจิต(รับรู้)...จึงมีอุปาทาน มี ตัณหา มี ภพ มี ชาติ...ฯลฯ

นาม(จิต) กับ รูป(แสง) สัมผัสกัน จึงเป็นสิ่งต่างๆ เช่น การเปรียบเทียบเกิดขึ้น...

พี่น้องครับ...จิตก็เป็นแสง...มันจะไปเร็วกว่ากันได้อย่างไรครับ...พี่น้องครับ

 

คำนวนแล้ว 462.87 เมตร ต่อวินาที ครับ
ความเร็วเสียง = 343 เมตร/วินาที

 

จากหนังสือ เพชรพระอุมา เล่มที่ 46 (ตอน มงกุฏไพร) หน้าที่ 7011

แงซาย ได้ถอดจิต สนทนากับ ดาริน

แงซายได้ตอบคำถาม ดาริน ในเรื่องเวลาของการเดินทางไปถึงภูเขานิลกาล ว่าเมื่อไร?

ว่า

"ไม่นาน แต่ก็ไม่เร็วดั่งใจปรารถนาของนายหญิง เพราะว่า ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลนี้ จะเร็วเท่ากับดวงจิตของมนุษย์อีกแล้ว แม้แต่การเดินทางของแสง"

เห็นไหมครับ พนมเทียน ท่านยังว่า จิตเร็วกว่าแสง ก็น่าคิดอยู่เหมือนกันครับ

 

แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าทำอะไรกันอยู่

 

จิตไม่ได้เร็วกว่าแสง เมื่อจิตรวมตัวเข้าสู่สภาวะเดิม จิตจะเคลื่อนลากผ่านชั้นพลังงานและทุกชั้นมิติของสรรพสิ่งที่จิตสร้างขึ้นมา จิตทุกดวงเป็นเนื้อเดียวกันกับจิตดวงใหญ่ในจักรวาล
การเคลื่อนที่ของจิตนั้นไม่ใช่การเคลื่อนที่ แต่เป็นการบังคับจิตให้หยุดนิ่ง แล้วชั้นมิติแห่งกาลเวลาจะไหลผ่านจิตตามแรงที่หยุดนิ่งของจิตเป็นการเคลื่อนที่โดยไม่มีระยะทาง

 

นึกว่าจะมีอะไรให้อ่านมากกว่านี้ เสียความรู้สึกนิดหน่อยที่เนื้อหาไม่มี เป็นเพียงหัวข้อเชิญชวนให้เข้ามาดู

 

;k02จิตของเรานี่ มหัศจรรย์จังเลยค่ะ

 

ถ้าเราเป็นนักทดลองเป็นนักพุทธศาตร์แล้วเราต้องทดลองตามวิถีแห่งพุทธเจ้าดูเลียนแบบโดยเอาตัวเราเป็นห้องทดลอง..เราอาจจะได้พบคำตอบของคำถามก็ได้..เราจะได้เป็นทั้งนักพุทธะ และ นักวิทยาศาตร์(พุทธิทยาศาตร์>มั่วเอง)..คำตอบอยู่ที่ตัวเราทุกคนอยู่แล้ว

 

จิตไม่ใช่ตัว ตนตัวตนไม่ใช่จิต หากวางจิตออกจากตัวตนได้เราจะทำอะไรก็ได้
ข้ามสมมุติก็ได้

 

จิตไม่มีการเปรียบเทียบ เพราะจิตเริ่มมีก่อนเวลามีครั้งแรก
ถ้าเราจะยกตัวอย่าง เช่น นั่งคุย หรือโทรคุยกับแฟน 10 นาทีเร็วจริงๆ แต่ถ้าแบกของ 10นาทีมันเหมือน 10ชั่วโมง ไม่ใช่ว่าเรากะเวลาไม่เป็นแต่เพราะสนามของจิต สนามความคิด ไม่ขึ้นกับเวลา อย่างเราพูดถึง คำว่า ความเร็ว เราใช้วัดระยะทาง ต่อหน่วยเวลา
แต่จิตไม่ได้เป็นฟังก์ชั่นของเวลา จึงไม่สามรถเทียบกันได้ ตรงกันข้าม จิตทำให้เวลายืดออกหรือหดสั้นได้ดังกล่าวครับ อันนี้ที่ค้นคว้าเอาไว้ และรวมๆกันกับแนวคิดของผมนิดๆ
BlogGang.com : : jesdath :

 

จิตเป็นพลังงานเทียบได้ดั่งแสง

 

ตัวเลข หรือ ความเร็ว ก็เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมานี่ครับ

 

โกโบริ ไปรอ อังสุมารินทร์ อยู่ที่ทางช้างเผือก

 

จิตใต้สำนึก เป็นถังขยะใบใหญ่ เอาความเชื่ออะไรใส่ลงไปมันก็เป็นจริงทุกอย่างละ

ดูคนบ้าซิ

 

จิตเร็วกว่าแสง

จิตเร็วกว่าแสงมากครับแต่ไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบหรอกครับป่วยการ เพราะแสงมองเห็นด้วยตาเปล่าแต่จิตไม่ครับถ้าอยากรู้ว่าความเร็วจิตขนาดไหนก็คือความเร็วของความรู้สึกนั่นแหละครับจิตมีชื่ออีกอย่างคือเจตสิกเป็นอนัตตาครับ จับต้องไม่ได้ บังคับไม่ได้ได้แต่ตามรู้ครับหรือเรียกอีกอย่างคือภาวนาครับแปลว่าเจริญฯอะไรเจริญสติครับเพื่อให้เห็นไตรลักษณ์คือความไม่มีอยู่จริงของรูปนามรูปคือกายครับนามคือจิตแก่นของพุทธศาสนาอยู่ตรงนี้ครับนอกเหนือจากนี้(ออกนอกแล้วครับ)

 

ในพระอภิธรรมบอกว่า จิตมีการเกิดแล้วดับเร็วมาก แค่ลัดนิ้วมือ
จิตมีการเกิดดับถึ่ง 1 ล้านล้านดวง

 

ว้าว น่าสนใจมากค่ะ
หรือจะเป็นว่า จิตยิ่งฝึกยิ่งนิ่ง แล้วจะเร็วในการใช้งาน (เมื่อนิ่ง)
แต่ ความคิดนิ่งไม่ได้ ไม่งั้นจะไม่สามารถใช้งานได้
แต่บางกันเหมือนจะนิดเดียว แต่ก็ยิ่งใหญ่
เข้าใจถูก ฤ ปล่าวคะ?

 

ในความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์มันพิสูจน์ได้ไหมครับ ว่าเราถอดจิตไปถึงที่นั้นได้ เราเห็นมันไหมด้วยตาเนื้อ ถึงถ้าเห็นเราสามารถสัมผัสกายภาพของสิ่งที่เห็นได้ไหมครับ แต่ถ้าแสงไปถึงก้อนหินก้อนหนึ่งในห้วงอวกาศเราจะเห็นแสงส่องกระทบก้อนเห็นนั้นเกิดความสว่างเป็นเงาทอดไปยาวไกลในห้วงอวกาศ แสงส่องกระทบก้อนหินนั้นจริงๆแสงสัมผัสผิวของก้อนหินนั้นจริง ผมว่าสองสิ่งนี้ ระหว่างจิตกับแสง การไปถึง ของทั้งสองสิ่งนั้นต่างกัน มันไม่อาจนำมาวัดด้วยมาตรฐานเดียวกันได้ นี่เป็นเพียงความคิดของมนุษย์ที่พยายามจะอยู่เหนือธรรมชาติและจะชนะมันให้ได้ ในความเป็นจริงจิตเราเคลื่อนไหวเร็วกว่าแสงเป็นเพียงแค่ ความคิด ยกตัวอย่างเราคิดว่าเราไปถึงโลกพระจันทร์เราก็ถึงพระจันทร์แล้วแต่เราสัมผัสโลกพระจันทร์ไม่ได้ เราเห็นในความคิดในมโนจิตเท่านั้น รูปทรงของพระจันทร์ที่เป็นมโนภาพก็เกิดจาก ภาพพระจันทร์ในรูปแบบต่างๆที่เราเห็นตั้งแต่เด็กๆ แต่ถ้าบอกให้จิตเราไปถึงกลุ่มดาวแปลกๆที่เราไม่เคยได้เห็น เช่น กลุ่มดาวอัลฟ่าเซนทารี่A-B จิตเราก็อาจไปไม่ถึงหรือได้มโนภาพที่ปรุงแต่งไม่ตรงกับความเป็นจริงเพราะเราไม่คุ้นเคยหรือไม่เคยได้เห็นกลุ้มดาวนี้ ในชีวิตประจำวัน ผมไม่ปฏิเสธว่าจิตของผู้มีอภิญญาสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคตหรือในอดีตได้ แต่ถ้าเทียบความเร็วกับแสงนั้นมันคนละหลักการณ์เดียวกันครับ เรียนมาด้วยจิตคารวะ

 

จิตนี้สุดยอดครับต้องลองฝึกจิตดูจะมีสมาธิมากในการทำกิจกรรมใดๆ