เรื่องเด่น ใครจะเสกวัตถุมงคลได้ศักดิ์สิทธิ์เท่าพระพุทธเจ้า

ใครจะเสกวัตถุมงคลได้ศักดิ์สิทธิ์เท่าพระพุทธเจ้า

"เรื่องการพุทธาภิเษกจำไว้ให้แม่น ๆ ว่า ไม่ใช่อาตมาทำ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็บอกว่าท่านไม่ได้ทำ หลวงปู่ปานท่านก็บอกหลวงปู่ไม่ได้ทำ เมื่อถึงวาระถึงเวลา อาราธนาบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ให้ท่านสงเคราะห์แทน

วัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ได้ทำไปที่เกิดอานุภาพขึ้นมา จนกระทั่งพวกเราอยากได้กันมาก ๆ นั้นเกิดจากบารมีพระท่านสงเคราะห์ อาตมาเองนั่งเฉย ๆ นั่งจนกว่าท่านจะบอกว่าพอ ตัวอย่างที่ผ่านมาก็ครั้งแรกที่ทำ ไม่ได้เจตนาจะทำ หลวงปู่ปานท่านบอกว่า...

"ไอ้หนู..ทำล็อคเก็ตรูปข้าสักห้าพันสิลูก" กราบเรียนว่า "ไม่ค่อยมีตังค์ครับหลวงปู่" ท่านบอกว่า "ไม่เป็นไร..ข้าหาเงินให้เอง" แล้วก็กราบเรียนท่านบอกว่า ถึงอย่างนั้นก็ดีผมพุทธาภิเษกไม่เป็น ท่านบอกว่า #"ไม่เป็นไรตั้งเครื่องบวงสรวงไว้ เดี๋ยวข้าทำให้เอง"

สบายดีไหม ? แหม.. แทบโดดกอดเลยนะ ท่านรับปากมานี่สบายมาก คราวนี้..วันนั้นเป็นวันเสาร์ห้าทางวัดท่าซุงจัดฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง บ่ายสามโมงอาตมายังช่วยงานอยู่ที่วัดท่าซุงอยู่เลย ช่วยฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังช่วยสงเคราะห์ญาติโยมให้

คราวนี้..หลวงปู่ท่านนัดเวลา ๑ ทุ่มตรง พอบ่ายสามเศษ ๆ อาตมาก็ซิ่งจากวัดท่าซุงตรงมาถึงที่นี่ (บ้านอนุสาวรีย์) ๖ โมง ๔๐ นาที สบายใจที่มาทัน ๑ ทุ่ม โผล่พรวดเข้ามาปรากฏว่าของทุกอย่างวางอยู่ทิศใครทิศมัน ไม่มีใครจัด..กลัวผิด..!

เครื่องบวงสรวงนี่จะมีสีประจำทิศของเขาอยู่ จะมีทิศทางที่เฉพาะ ระบุเอาไว้ชัดเลย ถ้าหากว่าผิดโดยเฉพาะไก่ ถ้าหากว่าไก่ไม่อยู่ทิศเหนือนี่เป็นเรื่องแน่ ๆ ท้าวเวสสุวรรณท่านไม่ยอม ก็เลยไม่มีใครกล้าจัด อาตมาก็ต้องวิ่งเหงื่อหยด จัดตั้งจนกระทั่งเข้าที่เสร็จเรียบร้อยดูนาฬิกา ๑ ทุ่ม ๑๐ นาทีจ้ะ เลยเวลาไป ๑๐ นาที ..

ตั้งใจจุดธูปเทียนบูชาพระน้อมจิตกราบพระ หลวงปู่ปานท่านบอกว่า "เสร็จนานแล้วลูก..ไปไหว้พระเถอะ" ..ไม่รู้ว่าแอบทำให้ตอนไหน สบายดีไหม ? ท่านบอกให้ไปไหว้พระเถอะ กราบเรียนว่า "เสร็จแล้วผมก็เลิกได้นะครับ" ท่านบอกว่า "นั่งต่อไป..เดี๋ยวคนเขาไม่เชื่อ"

อาตมากล้ายืนยันว่า เรื่องของวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ทำ ไม่ใช่อาตมาทำเอง เป็นเรื่องของพระ เรื่องของครูบาอาจารย์ท่านสงเคราะห์ให้ ในเมื่อท่านสงเคราะห์ก็อย่าได้ประมาท เพราะว่าเราไม่ได้ทำบุญมาสม่ำเสมอ มีวาระ มีเวลา ที่บุญของเราขาดช่วงลง...

ถ้าถึงวาระ ถึงเวลา อุปฆาตกรรมเข้ามา ของดีแค่ไหนก็คุ้มไม่ได้ สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านยังไม่ได้บวช ท่านถูกยืมตัวจากกองทัพเรือไปช่วยทางตำรวจอยู่พักหนึ่ง มีไอ้เสืออยู่คนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเหนียวมาก ยิงอย่างไรก็ยิงไม่ออก ปรากฏว่าวันนั้นโดนยิงตาย...

หลวงพ่อท่านได้ข่าวท่านก็แปลกใจมาก ท่านจึงรีบไปดู ไปถึงก็ถามว่าทำไมถึงยิงตายได้ ?# ปรากฏว่านายตำรวจที่เป็นมือปราบเจ้าเสือคนนั้นบอกว่า คุณลองลากศพมันออกจากที่สักกศอกหนึ่งแล้วลองยิงดูใหม่ แค่ลากศพพ้นพื้นตรงนั้นศอกเดียวยิงเท่าไหร่ก็ยิงไม่ออก ท่านบอกว่า ที่ตายมันอยู่ตรงนั้น ถ้าไม่ได้ตรงนั้นก็ทำอะไรมันไม่ได้"
.........................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
........................................
#รู้ว่าดีก็ทำ #รู้ว่าชั่วก็ละ #ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว