เรื่องเด่น แผ่นดินไหวสุลาเวสีก่อ”ปราฏการณ์ทรายเหลว”ซัดตายหลายพัน

หลายหมู่บ้านในสุลาเวสีเผชิญปรากฏการณ์ธรรมชาติหลังแผ่นดินไหว ที่เรียกว่า ทรายเหลวหรือแผ่นดินเหลว ซัดพังราบ คาดตายด้วยเหตุนี้หลายพัน


เวบไซต์ จาการ์ตา โพสต์ ของอินโดนีเซีย รายงานว่า แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว 7.5 ในสุลาเวสีกลางเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทรายเหลว ( (Liquefaction ) ในหมู่บ้านเปโตโบ เขตปาลูใต้ เมืองปาลู เมืองหลวงของสุลาเวสีกลาง ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลราว 10 กิโลเมตร คาดว่ามีผู้เสียชีวิตราว 2,000 คนในเขตนี้ เพราะบ้านจำนวนมากถูกซัดไปกับโคลน




ยูซุฟ ฮัสมิน วัย 45 ปี กล่าวว่า ชาวบ้านพยายามหลบหนีโคลนไหล ที่พวกเขาอ้างว่าม้วนตัวเหมือนกับคลื่น เขากับครอบครัวรอดชีวิต แต่ไม่รู้ว่าญาติพี่น้องคนอื่นเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ภัยพิบัติไม่คาดฝันแบบเดียวกัน ยังเกิดขึ้นที่หมู่บ้านอีกแห่ง ในเขตปาลูตะวันตก เมืองปาลู ด้วย โดยที่หมู่บ้านนี้จมอยู่ใต้โคลน คาดว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นกัน

ทีมค้นหาและกู้ภัยรุดไปยังพื้นที่ประสบภัยเหล่านี้แล้วเมื่อบ่ายวันนี้ พร้อมเครื่องมือหนักสำหรับขุดและเก็บกวาดเศษซากปรักหักพัง







มีคลิปจากโทรศัพท์มือถือแสดงให้เห็นภัยพิบัตินี้ แพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ อาคารหลายแห่งยุบตัวเพราะดินเหลวตีขึ้นมา คลิปนี้มีเสียงระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน โจโน โอเก เขตซิกิ เมื่อบ่ายวันเสาร์ คนอัดคลิปส่งเสียงอุทาน ขณะบ้านเรือนตรงหน้าขยับเขยื้อน

Peristiwa Palu:

Fenomena apakah ini..
Selepas tragedi gempa & tsunami pd 28/9/18, tanah berubah menjadi lumpur dan membuat manusia dan rumah tenggelam ke dalam lumpur..
Palu 29/9/18 pic.twitter.com/LZwXFut67y

— Perols. (@Afirhuls) September 30, 2018
​

อีกคลิปหนึ่งบนทวิตเตอร์ แสดงให้เห็นผู้คนวิ่งไปวิ่งไปอย่างไม่รู้จะหนีไปไหน และบ้านเรือนพังทลาย เพราะคลื่นโคลนในพื้นที่แห่งหนึ่งไม่ทราบแน่ชัดในเมืองปาลู

( คลิปแสดงลักษณะการเกิดปรากฏการณ์ Liquefaction )

นายสุโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวระหว่างแถลงข่าวยืนยันว่า มีภัยพิบัตินี้เกิดขึ้นจริง แผ่นดินเหลว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นเมื่อดินทรายใต้ดินที่มีน้ำแทรกอยู่เต็ม ถูกบีบคั้น เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว จนน้ำทะลักขึ้นมาบนผิวดินตามรอยแตก โดยมีทรายกับโคลนก็ไหลออกมากับน้ำด้วย (อ้างอิง www.geothai.net/chiangrai_earthquake/ )



สำหรับยอดผู้เสียชีวิต ณ วันนี้ อย่างเป็นทางการอยู่ที่ 832 คน ส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ใต้กองซากหักพัง หรือสึนามิซัดถล่ม นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 540 คน และอีกกว่า 1.6 หมื่นคน ไร้ที่อยู่อาศัย

ขอบคุณที่มา
http://www.komchadluek.net/news/foreign/346003

 

แผ่นดินไหวอินโดนีเซีย : ตัวเลขผู้เสียชีวิตเหตุแผ่นดินไหว-สึนามิ ถล่มสุลาเวสี พุ่งสูงกว่า 832 คน

Image copyright Reuters
คำบรรยายภาพ พื้นที่ริมชายหาดเมืองปาลูพังราบเป็นหน้ากลองจากคลื่นยักษ์สึนามิ
สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 832 ราย จากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิที่ซัดเข้าถล่มชายฝั่งบนเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ก.ย.) โดยรองประธานาธิบดียูซุฟ กัลลา ของอินโดนีเซียคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตน่าจะพุ่งแตะหลายพันคน

วันนี้ (30 ก.ย.) นายซูโตโป เปอร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย เปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.5 และเหตุคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มเมืองปาลูและดองกาลา บนเกาะสุลาเวสี

เขาระบุอีกว่าพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอาจมากกว่าที่ประเมินไว้ในระยะแรก และคลื่นสึนามิที่ถล่มชายฝั่งนั้นสูงถึง 6 เมตร ซึ่งเป็นการระบุตัวเลขที่สูงกว่ารายงานก่อนหน้านี้

Image copyright Reuters
คำบรรยายภาพ ภาพมุมสูงเผยให้เห็นเมืองปาลูเสียหายอย่างหนักจากสึนามิ
Image copyright AFP
คำบรรยายภาพ ภาพมุมสูงเผยให้เห็นซากโรงแรมสูง 10 ชั้นในเมืองปาลูพังถล่มลงมาจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 ก.ย.
หน่วยกู้ภัยเร่งค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังที่เมืองปาลู โดยล่าสุดสามารถช่วยคนที่ติดอยู่ใต้ซากโรงแรมแห่งหนึ่งออกมาได้ 24 คน แต่ยังคงมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังออกมาเป็นระยะ ในขณะที่หน่วยกู้ภัยไม่มีเครื่องจักรกลหนักช่วยในการปฏิบัติภารกิจ

เจ้าหน้าที่กาชาดประมาณการว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิราว 1.6 ล้านคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองดองกาลานั้นน่าห่วงเป็นพิเศษ เพราะระบบการสื่อสารถูกตัดขาดทำให้ไม่ทราบชัดถึงความเป็นไปภายในเมืองที่ถูกคลื่นยักษ์สึนามิถล่มจนบัดนี้

การเข้ากู้ภัยในบางพื้นที่ยังประสบปัญหาเพราะดินถล่มทำให้ถนนถูกปิดกั้นหลายสายและมีสะพานขาดด้วย ส่วนเมืองดองกาลานั้นยังไม่สามารถเข้าถึงได้โดยทางบกหรือทางอากาศในขณะนี้ และอาจต้องลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปทางทะเล


สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา เปิดเผยทางหน้าเฟซบุ๊ก ในวันนี้ว่า ได้มีหนังสือถึงทางการอินโดนีเซียขอให้อพยพคนไทย 32 คนออกจากเมืองปาลูทันที เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ไม่ปลอดภัย โดยได้แจ้งรายชื่อคนไทย 32 คน เพื่อขออพยพออกมาโดยเครื่องบินทหาร C-130

ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูตฯ ระบุ มีนักศึกษาและพนักงานบริษัทชาวไทย 15 คน เดินทางถึงท่าอากาศยาน Mutiara Sis Al Jufri เมืองปาลูแล้ว คาดว่าจะสามารถเดินทางออกจากเมืองปาลูได้ในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.)

นายซูโตโป เปอร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย ระบุกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายและตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมด เนื่องจากการสื่อสารต่าง ๆ ถูกตัดขาด ร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากถูกพบตามแนวชายฝั่ง ซึ่งเสียชีวิตจากคลื่นยักษ์สึนามิ แต่จำนวนยังไม่แน่ชัด



อุปกรณ์ของท่านไม่สามารถใช้งานเครื่องเล่นสื่อได้


นาทีสึนามิถล่มเมืองปาลู บนเกาะสุลาเวสี อินโดนิเซีย (วิดีโอมีภาพที่อาจทำให้ไม่สบายใจ)
หลังเกิดแผ่นดินไหวในเวลาราว 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (17.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย) ทางการได้ประกาศเตือนภัยสึนามิ แต่หลังจากยกเลิกการเตือนภัยได้ไม่นาน คลื่นยักษ์ได้ซัดเข้าฝั่งเมืองปาลูซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวขนาดเล็ก และเมืองดองกาลาซึ่งเป็นชุมชนชาวประมงที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง ระดับความสูงของคลื่นยักษ์อยู่ที่ 3 เมตร

เหตุใดจึงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในเหตุการณ์ครั้งนี้?

ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ระบุว่า จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ครั้งนี้เกิดขึ้นนอกชายฝั่งเกาะสุลาเวสีและอยู่ลึกลงไปเพียง 10 กม. และช่วงที่เกิดเหตุมีประชาชนหลายร้อยคนกำลังเตรียมตัวเข้าร่วมงานเทศกาลที่ชายหาดในเมืองปาลู ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นในคืนวันศุกร์

คลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ช่วงเกิดเหตุเผยให้เห็นผู้คนกรีดร้องและหนีตายอย่างตื่นตระหนก ขณะคลื่นสึนามิซัดเข้าใส่อาคารหลายแห่ง ทั้งยังมีภาพมัสยิดแห่งหนึ่งได้รับความเสียหายด้วย

"ขณะเกิดเหตุ ผู้คนต่างยังคงทำกิจกรรมอยู่บนชายหาดและไม่ได้วิ่งหนีโดยทันที พวกเขาจึงกลายเป็นเหยื่อ... ผู้รอดชีวิตบางคนปีนขึ้นต้นไม้ไปสูง 6 เมตร เพื่อเอาชีวิตรอดจากคลื่นยักษ์" โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติฯ ระบุกับรอยเตอร์

อย่างไรก็ตาม ในจำนวนผู้เสียชีวิตที่เปิดเผยมานั้น ไม่แน่ชัดเช่นกันว่าเกิดจากแผ่นดินไหวหรือว่าเฉพาะจากเหตุคลื่นยักษ์


Image copyright EPA
คำบรรยายภาพ คลื่นยักษ์สึนามิพัดสะพานเสียหายอย่างหนัก
เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้มือขุดหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง

นายโมฮัมหมัด เซากี หัวหน้าหน่วยค้นหาและกู้ภัยในเมืองปาลู เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะขาดแคลนเครื่องจักรหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้มือในการขุดค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้อาคารและสิ่งปลูกสร้างที่พังถล่มลงมา

"ตอนนี้เราต้องการเครื่องจักรหนักอย่างมากในการเคลียร์ซากปรักหักพัง ผมมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ประสบภัยแต่มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะให้พวกเขาอาศัยแรงกายเพียงอย่างเดียว" นายเซากี กล่าว

Image copyright AFP
คำบรรยายภาพ การทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เมืองปาลู เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะขาดแคลนเครื่องจักรหนักในการขุดค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
Image copyright AFP/Getty Images
คำบรรยายภาพ ซากความเสียหายที่เมืองปาลู
โรงพยาบาลหลักของเมืองปาลูพังเสียหายจากแผ่นดินไหว ภาพรายงานข่าวทางโทรทัศน์ของอินโดนีเซีย เผยให้เห็นผู้บาดเจ็บจำนวนมากถูกรักษาตัวที่บริเวณลานกลางแจ้ง เนื่องจากเต็นท์พยาบาลชั่วคราวไม่เพียงพอ

หัวหน้าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซีย (BMKG) แถลงว่าคลื่นสึนามิได้สงบลงแล้ว แต่สถานการณ์ในที่เกิดเหตุยังคงวุ่นวาย โดยมีอาคารพังถล่มและเรือใหญ่ถูกซัดเข้ามาเกยฝั่ง

เหตุแผ่นดินไหวยังทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ทำให้การติดต่อประสานงานเพื่อกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก ส่วนท่าอากาศยานเมืองปาลูนั้นถูกสั่งให้ปิดทำการแล้ว ในขณะที่อาฟเตอร์ช็อกยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Image copyright AFP/GETTY IMAGES
คำบรรยายภาพ ผู้บาดเจ็บมีจำนวนมากจนหน่วยพยาบาลชั่วคราวไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ อินโดนีเซียถือเป็นสถานที่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติจากใต้พื้นพิภพอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือ สึนามิ เนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่บนแนววงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุแผ่นดินไหวหลายระลอกบนเกาะลอมบอกของอินโดนีเซียซึ่งคร่าชีวิตผู้คนนับร้อย ครั้งรุนแรงที่สุดเมื่อวันที่ 5 ส.ค. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 460 คน

เหตุสึนามิครั้งใหญ่ของเอเชียเมื่อปี 2004 ซึ่งเกิดจากแผ่นดินไหวใกล้กับเกาะสุมาตรา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 226,000 คนในหลายประเทศแถบมหาสมุทรอินเดีย เฉพาะที่อินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิต 120,000 คน





ขอบคุณที่มา
https://www.bbc.com/thai/international-45690431#