เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 26 สิงหาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กว่าจะเดินทางไปถึงวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน กระผม/อาตมภาพก็แทบจะหลุดเป็นชิ้น ๆ เนื่องเพราะว่าถนนสายเถิน-ลี้นั้น กระผม/อาตมภาพเคยพูดแบบขำ ๆ ว่าคนสร้างทางน่าจะจับงูมาทำเป็นอาหาร ในเมื่อกินเหลือแล้วปล่อยงูไป งูเลื้อยไปทางไหนก็ตัดถนนตามไปทางนั้น จึงกลายเป็นเส้นทางที่มีโค้งหลายร้อยโค้ง กว่าที่จะผ่านไปได้ก็แทบล้มประดาตาย..!

    ยังดีที่ว่าสมัยนี้นั้น เขาขยายทางขึ้นมากว้างมากแล้ว รถสามารถที่จะหลีกกันได้ถนัด ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ถนนยังแคบอยู่ แล้วมีรถบรรทุกแร่วิ่งเป็นจำนวนมาก ลักษณะอย่างนั้นจะอันตรายที่สุด เนื่องเพราะว่ารถบรรทุกกินเลนมาแม้แต่เพียงนิดเดียว เราก็จะไม่มีทางหลบไปไหนได้เลย..!

    เมื่อพ้นจากถนนหลายร้อยโค้งแล้ว กระผม/อาตมภาพก็แวะกราบสังขารหลวงปู่ครูบาอภิชัยขาวปี ที่วัดพระพุทธบาทผาหนาม แล้วก็ไปสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้านข้างวัดมาฉันเพล เมื่อทางเจ้าของร้านถามว่า "มาจากไหน ?" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "มาจากวัดท่าขนุน จังหวัดกาญจนบุรี" ทางด้านนั้นก็ยังถามต่อว่า"อยู่ใกล้วัดบ้านห้วยน้ำขาวหรือไม่ ?"

    เมื่อทราบว่าห่างกันประมาณ ๒๐๐ กิโลเมตรก็ถึงกับตกใจ บอกว่าอำเภอลี้กับบ้านโฮ่งก็ห่างกันแค่ ๖๐ กิโลเมตรเท่านั้น กระผม/อาตมภาพก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้บรรดาคุณย่าคุณยายได้เข้าใจ เนื่องเพราะว่ากาญจนบุรีของเรานั้นใหญ่จนเกินไป จึงไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบได้ เพราะว่าถ้าขืนเปรียบเทียบไป ก็คงเหมือนเต่าเล่าเรื่องบนบกให้กับปลาฟัง..!

    เมื่อมาถึงยังที่พัก คือศาลาพระราชพรหมยาน ซึ่งเป็นที่พักของกระผม/อาตมภาพในเกือบทุกครั้ง รู้สึกว่าสะดวกใจกว่าที่พักใหม่ในสวนลำไยเป็นอันมาก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไม่เคยชินกับอะไรที่เป็นของใหม่ หรือว่าหรูหรามาก อะไรที่เป็นของธรรมดา ๆ เสื่อผืนหมอนใบจะเหมาะเจาะที่สุด

    เมื่อเข้าที่พักได้ก็นอนสลบไสลไปหลายชั่วโมง พอตื่นขึ้นมา ไปเดินดูงานทางด้านนอก ปรากฏว่าเจอญาติโยมทั้งหลายกำลังจะถวายน้ำสรงแก่ตุ๊พ่อสิงห์ ท่านเห็นเข้าก็ดีอกดีใจ นิมนต์ไปบริเวณคุ้มสรงน้ำ แล้วก็ถวายพานดอกไม้สักการะ พร้อมกับปัจจัยส่วนตัวมาอีก ๑๐,๐๐๐ บาท

    ส่งไมโครโฟนให้กระผม/อาตมภาพ ว่าพูดอะไรกับพระภิกษุสามเณรและญาติโยมสักหน่อย ก็พูดได้แต่เพียงว่า "ไม่มีแรงที่จะพูด" ซึ่งญาติโยมบางคนก็ไม่เข้าใจ เพราะเห็นว่ายังเดินอยู่ดี ๆ แต่คำว่า "ยังเดินอยู่ดี ๆ" นี้ ญาติโยมจะต้องเข้าใจสักนิดหนึ่งว่า บางทีการเดินมากกว่านี้อีก ๑ ก้าว ก็จะหมดเรี่ยวแรงในการประคองสังขาร ถึงขนาดล้มให้ขายหน้าชาวบ้านเขาแล้ว..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    ในส่วนนี้ญาติโยมส่วนหนึ่งก็ไม่เข้าใจ บางทีอยู่เชียงใหม่ อยู่ลำปาง อยู่พะเยา ก็มีการบ่นว่า "หลวงพ่อมาไม่ถึงเราหรอก" "ครูบาอาจารย์มาไม่ถึงเราหรอก ท่านมาแค่นั้นแหละ" ซึ่งตรงนี้ ถ้าหากว่าท่านเจ็บไข้ได้ป่วย และสังขารเฒ่าชะแรแก่ชราขนาดกระผม/อาตมภาพแล้ว ก็จะเข้าใจเองว่า การนั่งรถต่อแม้แต่อีกกิโลเมตรเดียว อาจจะถึงแก่สิ้นชีวิตก็เป็นได้..! เรื่องพวกนี้ต้องได้พบกับตัวเอง ถึงจะเข้าใจซาบซึ้ง ไม่เช่นนั้นแล้วก็ยังคงจะต่อว่าครูบาอาจารย์ ว่า "ทำไมถึงสงเคราะห์เฉพาะหมู่ศิษย์ที่นั่น..? ไม่มาสงเคราะห์ที่นี่บ้าง" เหล่านี้เป็นต้น

    เมื่อได้รับการถ่ายรูปหมู่ร่วมกันเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวกลับที่พัก ระหว่างทางก็เดินมองข้าวของต่าง ๆ มาด้วย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าความเคยชิน เนื่องจากว่าเวลาเห็นร้านค้า โดยเฉพาะที่ตั้งจำหน่ายวัตถุมงคล ก็อดไม่ได้ที่จะแวะเข้าไปดู โดยเฉพาะวันก่อน ในงานอบรมพระนวกะคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ กระผม/อาตมภาพก็ไปได้ของดีมา ก็คือตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราช และตะกรุดมหาระงับพิสดาร ของหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราชมาอย่างละดอก

    จะว่าไปแล้ว ในเรื่องของมหาระงับนั้น เหมาะที่จะเอาไว้แก้ไขในเรื่องร้ายต่าง ๆ ส่วนตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราช ท่านบอกว่าสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้ทุกด้าน โดยเฉพาะที่กระผม/อาตมภาพได้มานั้น เป็น "ตะกรุดประจำตระกูล" แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินรวดเดียวหลายหมื่นบาท จนกระทั่งแทบไม่มีเงินติดกระเป๋า แต่เมื่อเห็นของดีขนาดนี้ก็ต้องเก็บขึ้นมาก่อน เพราะไม่แน่ใจว่า ถ้ามีคนรู้จักของแล้ว เราจะสามารถหาซื้อบูชาได้อีกหรือไม่ ?

    สำหรับตะกรุดมหาระงับนั้น ความจริงมีคาถาทั้งแบบปกติ และคาถามหาระงับพิสดาร แต่ว่าคนรุ่นหลัง ๆ พอจดบันทึกต่อ ๆ กันมา ก็มีการผิดการเพี้ยนบ้าง จึงขออนุญาตบอกเอาไว้ครบถ้วน ณ ที่นี้ว่า

    คาถาตะกรุดมหาระงับพิสดาร คือ "โอมมหาระงับ หลับสิ้นทั้งบ้าน โอมชิดมหาชิด โอมปิดมหาปิด สิทธิสวาหับ" ขอยืนยันว่า "สวาหับ" ระยะหลังมีหลายท่านเขียนว่า "สวาหะ"

    แล้วก็ต่อด้วยคาถา นะปิดตา โมปิดใจ พุทปิดปาก ธาปิดหู ยะหลับนิ่งอยู่

    อิติปาระมิตาติงสา ระงับอินทรา

    อิติสัพพัญญู มาคะตา ระงับพรัหมา

    อิติโพธิ มะนุปปัตโต ระงับมนุสสา

    อิติปิโส จะเตนะโม ระงับทิสา

    อิระชาคะตะราสา

    ภะสัมสัมวิสะเทภะ

    คะพุทปันทูทัมวะคะ

    วาโธโนอะมะมะวา

    อะวิชสุนุตสานุสติ


    ซึ่งตรงจุดนี้นั้น มีส่วนที่ขาดหายไปก็คือ

    ติหังจะโตโรถินัง

    ปิสัมระโลปุสัตพุท

    โสมาณะกะริถาโธ


    ซึ่งถ้าหากว่าเราจะเพิ่มเข้าไปก็น่าจะได้อยู่

    แล้วก็ไปต่อด้วย "พุทธัง ศัตรูร้าย นะจังงังถอย อย่าละนะสัง พระพุทธังปิด พระธัมมังปิด พระสังฆังปิด พระพุทธเจ้าแผลงฤทธิ์ ปิดทวารทั้งเก้า" ซึ่งตรงจุดนี้หลายต่อหลายคนฟังผิด แล้วก็ไปเขียนว่า "ปิดสังวาลย์ชั้นเก้า" โดยที่ไม่มีความเข้าใจในตัวพระคาถาว่าไปอย่างไรมาอย่างไร จึงอาจจะทำให้มีการผิดเพี้ยนกันไปเรื่อย
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    แม้ว่าความผิดของพระคาถานั้นไม่ใช่สาระ เนื่องจากว่าถ้าเราภาวนาด้วยความเคารพ เมื่อจิตเป็นสมาธิ ตั้งใจจะให้เป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าได้พระคาถาที่ถูกต้องไป ก็ย่อมจะดีกว่า

    จึงเป็นเรื่องที่ท่านใดได้พระคาถาเก่าที่บอกต่อสืบกันมา แล้วเกิดจากการขาด หรือว่าเกิดในส่วนที่ผิดเพี้ยนไปตามเสียงที่ตนเองได้ยิน โดยที่ไม่เข้าใจว่าพระคาถาที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร ก็ให้ทำการแก้ไขกัน ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าไปเจอเด็กรุ่นหลังขี้สงสัย จะเกิดความไม่มั่นคงในกำลังใจ อาจจะทำคาถาแล้วไม่ได้ผลก็เป็นได้

    ในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น โดยโบราณมาก็คือทำให้เรายึดถือในพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ คือระลึกถึงพระพุทธเจ้า ระลึกถึงพระธรรม ระลึกถึงพระสงฆ์เป็นหลัก อะไรที่ห่างไกลออกจากพระรัตนตรัย พวกเราทั้งหลายก็ควรที่จะห่าง ๆ เอาไว้ เพราะว่าโอกาสที่จะพาเราหลงทางเตลิดเปิดเปิงไปก็มีมาก

    สำหรับวันนี้ กระผม/อาตมภาพยังคงพักอยู่ที่ศาลาพระราชพรหมยาน วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ พรุ่งนี้เมื่อเสร็จจากพิธีการสืบชะตาของตุ๊พ่อสิงห์แล้ว ก็จะรีบเดินทางกลับ ต้องออกไปยังจังหวัดตราด เพื่อตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบทางด้านนั้น คาดว่าคงจะต้องฉันยาแทนข้าว เพราะไม่เช่นนั้นสภาพสังขารก็จะกรำงานไม่ไหว..!

    เนื่องจากว่านั่งรถลงจากลำพูนไปก็ประมาณ ๘ ชั่วโมง กว่าจะที่วิ่งจากนนทบุรีไปจนถึงจังหวัดตราด ก็ไม่หนีอีก ๕ - ๖ ชั่วโมง ตัวกระผม/อาตมภาพยังพอไหว สงสารแต่โชเฟอร์เท่านั้นแหละ ว่าจะต้องอาศัยอะไรในการค้ำจุนตนเองบ้าง ไม่ว่าจะเป็นกาแฟหรือยาอม ยาดม ยาหม่อง อะไรก็ตาม ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงไม่สามารถที่จะนำกระผม/อาตมภาพไปถึงจุดหมายปลายทางได้ตามเวลาที่สมควร

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...