เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 12 พฤศจิกายน 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,863
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,573
    ค่าพลัง:
    +26,418
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,863
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,573
    ค่าพลัง:
    +26,418
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เมื่อกระผม/อาตมภาพคืนเดินกลับจากจังหวัดมหาสารคาม มาถึงวัดอุทยาน จังหวัดนนทบุรีก็เกือบ ๔ ทุ่ม ยังโชคดีที่ว่าฝนทางด้านนี้ตกหนักไปแล้ว เมื่อกลับมาถึงจึงเหลือแต่น้ำที่ยังท่วมวัดอยู่ไม่มากนัก ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าหากว่าต้องนั่งรถฝ่าฝนในยามค่ำคืน ก็จะมีอันตรายมากกว่าปกติหลายเท่า..!

    แต่ว่าตอนเช้าตื่นขึ้นมา
    กระผม/อาตมภาพรู้สึกเหมือนกับร่างกายจะหลุดเป็นชิ้น ๆ แสดงว่าอากาศเปลี่ยนแรงมาก น่าจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ไม่ทราบว่าท่านอื่นจะเป็นอย่างไร แต่กระผม/อาตมภาพนั้น เนื่องจากว่ามีเชื้อมาลาเรียเรื้อรังอยู่ในร่างกาย จึงเป็นคนที่ไวต่อสภาพอากาศมากเป็นพิเศษ อากาศเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยก็ไข้จับแล้ว แต่ถ้าหากว่ามีสภาพเหมือนกับจะหลุดเป็นชิ้น ๆ กระดูกในตัวมีกี่ข้อ ก็รู้สึกได้หมด ถ้าลักษณะแบบนี้ อากาศจะเปลี่ยนแรงมากภายในวันหนึ่งหรือว่าสองวัน จึงต้องรีบฉันยาไว้ก่อน

    หลังจากฉันภัตตาหารเช้าแล้วก็นอนพัก ภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าแอพพลิเคชั่นเสบียงบุญที่กดบันทึกเอาไว้หลุดอีกแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเป็นช่วงที่มีคนใช้งานมากก็มักจะหลุดอยู่เสมอ

    หลังจากนั้นแล้วก็พยายามฝืนสภาพร่างกายของตนเอง มาติดตามงานต่าง ๆ ซึ่งได้ทอดทิ้งไปเกือบ ๒ วัน ปรากฏว่าคุณแม่ประเทือง พึ่งกุล โยมแม่ของท่านอาจารย์พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ได้เสียชีวิตลง และคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิพร้อมใจจะเป็นเจ้าภาพ สวดพระอภิธรรมอุทิศส่วนกุศลให้ในคืนวันที่ ๑๓ นี้

    แต่ว่าวันที่ ๑๓ กระผม/อาตมภาพนั้นติดงานตรวจข้อสอบนักธรรมชั้นตรี หลังจากนั้นยังต้องไปร่วมงานฉลองถนนซอยเข้าวัดกระจัง ซึ่งกระผม/อาตมภาพเป็นประธานในการขยายถนนซอย ที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านหวงพื้นที่กันนักหนา ไม่ยอมให้ขยับขยายอะไรเลยแม้แต่ตารางนิ้วเดียว แต่พอเกิดไฟไหม้ใหญ่ เสียหายมากในชุมชุนด้านใน โดยที่รถดับเพลิงไม่สามารถที่จะไปช่วยได้

    พระครูพรพรหม เจ้าอาวาสวัดกระจัง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ แต่ว่าตอนนี้ทำตัวเป็นลูกศิษย์ไปเสียแล้ว ท่านได้มาขอให้กระผม/อาตมภาพเป็นประธานในการดำเนินการขยายถนนซอย เพื่อที่จะให้รถสามารถที่จะเข้าออกหลีกกันได้สะดวก กระผม/อาตมภาพสอบถามแล้วว่าชาวบ้านทุกคนเต็มใจที่จะให้ขยายถนน จึงได้ยอมรับเป็นเจ้าภาพ และเป็นประธานในการขยายถนนครั้งนี้
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,863
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,573
    ค่าพลัง:
    +26,418
    เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านพระครูสิทธิวัฒนคุณ หรือพระครูพรพรหม เจ้าอาวาสวัดกระจัง ที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตตลิ่งชัน ท่านก็นิมนต์ให้กระผม/อาตมภาพไปร่วมฉลองในวันที่ ๑๓ นี้ ยังดีที่ว่าเป็นการฉลองในช่วงเย็น เมื่อตรวจข้อสอบเสร็จแล้ว จึงสามารถที่จะปลีกตัวไปได้ แต่ว่างานสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศล อุทิศให้คุณแม่ประเทือง พึ่งกุล ก็ไม่สามารถที่จะไปร่วมงานได้ทัน จึงได้แต่แจ้งทางด้านท่านอาจารย์พระมหาวิสูตรไปว่า จะไปร่วมงานฌาปนกิจศพในวันที่ ๑๔ ทีเดียว

    หลังจากฉันเพลวันนี้แล้ว กระผม/อาตมภาพก็วิ่งตรงไปยังวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เพื่อกราบสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ประจำปี ๒๕๖๖ นี้ เนื่องจากว่ารับปากครูบาอาจารย์ คือ หลวงปู่มหาอำพัน - ท่านเจ้าคุณพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน อาภรโณ บุญ-หลง) วัดเทพศิรินทราวาส ที่ท่านแนะนำว่า หลังจากออกพรรษาแล้ว ให้ไปกราบสักการะพระสำคัญหรือว่าสถานที่สำคัญในประเทศไทยของเราหลายแห่ง กระผม/อาตมภาพก็รับปาก และกระทำตามนั้นมาโดยตลอด

    เมื่อกราบสักการะเสร็จแล้ว
    กระผม/อาตมภาพได้ตรงไปยังวัดไผ่ล้อม เลขที่ ๒ ถนนเทศา ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เพื่อร่วมการสวดมาติกาและพิจารณาผ้าไตรบังสุกุล เนื่องในโอกาสบำเพ็ญกุศลครบ ๑๑๑ ปี ชาตกาล พระมงคลสิทธิการ (หลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข) อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อดีตพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งกายสังขารของท่านยังคงอยู่เป็นที่พึ่งของลูกศิษย์ลูกหามาจนถึงปัจจุบันนี้ หลวงพ่อพูลนั้นท่านเป็นตัวอย่างของพระเถระเกจิอาจารย์ที่เป็นผู้เรียบง่าย ถ่อมตน และไม่ได้ดิ้นรนเพื่อหวังที่จะให้มีชื่อเสียงเกียรติคุณใด ๆ

    ในสมัยก่อนนั้นจังหวัดนครปฐมมีพระเกจิอาจารย์มากมายเป็นอย่างยิ่ง รุ่นแรก ๆ อย่างหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ หลวงปู่ทา วัดพะเนียงแตก เป็นต้น

    รุ่นต่อมาก็มีหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง หลวงพ่อเต๋ วัดสามงาม หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา เป็นต้น

    รุ่นถัดมาอีก ก็มีหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,863
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,573
    ค่าพลัง:
    +26,418
    หลวงพ่อพูลท่านก็อยู่แบบสุขสงบ เป็นที่พึ่งแก่ญาติโยมภายในวงแคบ จนกระทั่งท่านเจริญอายุกาลผ่านวัยมาถึง ๙๐ ปี บรรดาพระเกจิอาจารย์รุ่นปู่ รุ่นพ่อ รุ่นพี่ก็หมดไปแล้ว คราวนี้หลวงพ่อพูลก็โผล่เด่นเหมือนพระอาทิตย์ยามเที่ยง ชื่อเสียงเกียรติคุณในช่วงนั้นต้องบอกว่าดังคับประเทศไทยจริง ๆ จึงกลายเป็นอมตะเถราจารย์รูปหนึ่งของจังหวัดนครปฐมสืบมา จนกระทั่งมรณภาพ

    พวกกระผม/อาตมภาพยังคุยกันขำ ๆ ว่า อันดับแรกเลย ถ้าหลวงพ่อพูลอายุไม่ยืนขนาดถึง ๙๐ กว่าปี ก็คงจะไม่มีโอกาสดังเหมือนกับพระเกจิอาจารย์รูปอื่น ๆ และถ้าท่านไม่อายุยืนจนถึง ๙๐ กว่าปี ก็คงไม่ได้เป็นท่านเจ้าคุณพระมงคลสิทธิการ น่าจะได้เป็นแค่พระครูปุริมานุรักษ์ ซึ่งเป็น ๑ ในพระครูผู้พิทักษ์พระปฐมเจดีย์ทั้ง ๔ ทิศ ประกอบไปด้วยพระครูปุริมานุรักษ์ พระครูทักษิณานุกิจ พระครูปัจฉิมทิศบริหาร และพระครูอุตตรการบดี ซึ่งทั้ง ๔ รูปนี้ ตั้งแต่อดีตมา ก็ล้วนแล้วแต่เป็นพระมหาเถระผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งสิ้น

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จึงเป็นตัวอย่างที่ดี ที่กระผม/อาตมภาพบอกกล่าวกับลูกศิษย์ ตลอดจนพระเกจิอาจารย์รุ่นหลัง ๆ ว่า "คุณไม่ต้องรีบดังหรอก รีบดังมากก็เหนื่อยมาก ดูอย่างหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมสิ ท่านเองมาดังแค่ไม่กี่ปีแล้วมรณภาพ ไม่เหนื่อยมาก แต่ดังเป็นอมตะเลย"

    แล้วก็ไม่ต้องไปแสวงหาความดัง เนื่องเพราะว่าแต่ละคน แต่ละท่านมีวาสนาบารมีที่สั่งสมกันมาเอง เปรียบเสมือนกับผลไม้ เมื่อถึงฤดูกาลอันเหมาะสมก็จะสุกให้เป็นที่ปรากฏต่อชนทั้งหลายเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปเร่งปุ๋ยเร่งยา จนกระทั่งบางทีก็มีสำนวนบอกกล่าวกันว่า "บ่มแก๊สมา" ก็คือซื้อสื่อทุกประเภท เพื่อที่จะสร้างความโด่งดังให้ตนเอง แต่ความสามารถแท้จริงมีเพียงน้อยนิด ไม่ทนต่อการพิสูจน์..!

    เมื่อถึงเวลา ก็จะต้องล้มหายตายจากไป ถ้าหากว่าไปแบบดี ๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไปแบบเสียหาย ด้วยเรื่องของเงินทองบ้าง เรื่องของผู้หญิงบ้าง ก็จะกลายเป็นรอยด่างติดตัวไปตลอดชีวิต เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีโทษหนักต่อไปในโลกหน้าอีกด้วย..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,863
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,573
    ค่าพลัง:
    +26,418
    หลวงพ่อพูลจึงเป็นพระเถระที่กระผม/อาตมภาพยกไว้เป็นหนึ่งในดวงใจ เอาเป็นตัวอย่างในการเทศนาสั่งสอนลูกศิษย์ที่เป็นพระภิกษุสามเณรอยู่เสมอ เนื่องเพราะว่าเด็กรุ่นหลังมักที่อยากจะดังมาก เมื่อดังแล้วก็จัดการกับตนเองไม่ถูก บริหารความดังไม่เป็น ก็เลยทำให้เกิดความเสียหายขึ้นมาได้ในระยะเวลาอันไม่นาน

    ขอให้เราท่านทั้งหลายโปรดเข้าใจว่า พระภิกษุสามเณรของเรานั้น อยู่ในสายตาชาวบ้านเสมอ ถ้าหากว่าเราเพียรพยายามกระทำใน ศีล สมาธิ ปัญญา ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนเอาไว้ และพยายามรักษาวัตรปฏิบัติในการสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต เจริญพระกรรมฐานให้สม่ำเสมอ คุณงามความดีของท่านจะค่อย ๆ ปรากฏต่อสายตาของชาวบ้านเอง แล้วจะเป็นความดีที่ดีทนทาน เพราะว่าดีอย่างแท้จริง

    แต่ถ้าหากว่าไปเร่งรัดโหมโฆษณา นั่นก็จะเป็นแค่เรื่องของการใช้สื่อโซเชียล ทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงปรากฏขึ้นมา แต่ว่าถ้ากำลังใจไม่ดี ถึงเวลารับโลกธรรมเข้าไปแล้ว จัดการไม่ถูก ก็อาจจะกลายเป็นสร้างความเสียหายใหญ่ให้กับพระพุทธศาสนาได้

    ทุกท่านจึงควรที่จะตระหนักว่า ถ้าเราไม่สามารถสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาได้ ก็อย่าให้พระพุทธศาสนานี้ต้องพังพินาศลงไปด้วยน้ำมือของเราเลย..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...