เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 6 สิงหาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณพวกเราทุกรูป ที่ช่วยกันเปลี่ยนผ้าครองถวายหลวงปู่สายเสร็จเรียบร้อยแล้ว งานอะไรก็ตาม ถ้าเห็นว่าทำได้ ให้ตัดสินใจทำไปเลย อย่าไปกลัวผิดกลัวพลาด ใครทำงานต้องรับผิดชอบ ถ้าเราคิดจะรับชอบอย่างเดียวโดยไม่รับผิด ชาตินี้ก็ไม่ต้องทำอะไรหรอก โบราณเขาถึงได้บอกว่า "คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลย ก็คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย..!"

    สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังอยู่ที่วัดท่าซุง หลายงานต้องตัดสินใจเอง เพราะว่าถ้าเรามัวแต่ไปรอพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านอยู่ งานท่านมากมายมหาศาล แล้วยังเจ็บไข้ได้ป่วยทุกวันเป็นปกติ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะมีพวกเราเอาไว้ทำอะไร ? กระผม/อาตมภาพจึงตัดสินใจทำงานหลายต่อหลายประการไป โดยที่ไม่ได้กลัวเลยว่าจะโดนไล่ออกจากวัด..!

    ตอนนั้นทั้งเนื้อทั้งตัวกระผม/อาตมภาพมีเพียงหนังสือสุทธิเล่มเดียว กับสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารที่ไม่ค่อยจะมีเงินเท่านั้น ตั้งใจว่าถ้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อไล่ออกจากวัดเพราะเราทำผิดระเบียบ ก็จะยอมไปแต่โดยดี แต่อย่างไรเสียก็ยกพระเดชพระคุณหลวงพ่อขึ้นเหนือเศียรเหนือเกล้าไปกับตัวเองด้วย จะไปที่ไหนก็เท่ากับเราอยู่กับท่าน..!

    เรื่องบางอย่างต่อให้เราทำถูก แต่ว่ากระแสมวลชนนั้นไม่ได้ บางทีผู้บริหารก็จำเป็นที่จะต้องตัดสินให้เราเป็นฝ่ายผิดทั้ง ๆ ที่ถูก เพื่อที่จะหยุดกระแสมวลชนเสียก่อน กระผม/อาตมภาพเข้าใจตรงจุดนี้ดี จึงพร้อมที่จะออกจากวัดอยู่ตลอดเวลา..!

    แต่ปรากฏว่าทำงานในลักษณะตัดสินใจเองแบบนั้น งานส่วนใหญ่กลับถูกใจพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่าน ขนาดมีกรรมการสงฆ์ ต้องใช้คำว่า "ไปฟ้อง" พระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า กระผม/อาตมภาพตัดสินใจทำไปเอง โดยก้าวล่วงอำนาจของกรรมการสงฆ์และของหลวงพ่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านพูดคำเดียวว่า "น่าจะมีคนทำอย่างนี้มานานแล้ว..!" เท่านั้นเอง บรรดาคณะกรรมการสงฆ์ที่จ้องจะฟันหัวกระผม/อาตมภาพอยู่ ก็แตกฮือหายวับไปในพริบตา..!

    ดังนั้น..ในเรื่องที่พวกท่านเห็นว่าทำได้ ให้ทำไปเลย ทำแล้วพยายามคิดให้รอบคอบ ให้ความดีความงามตกอยู่กับวัดของเรา อย่าไปรอคำสั่งอย่างเดียว ใครที่รอคำสั่งแล้วค่อยขยับ หรือว่าสั่งแล้วยังไม่ขยับ ชาตินี้เอาดีไม่ได้แน่นอน เนื่องเพราะว่าเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบอะไรเลย แล้วจะรับผิดชอบตัวเองได้อย่างไร ?
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    ตั้งแต่เป็นพระใหม่ อันดับแรกเลย กระผม/อาตมภาพทำตามระเบียบวัด ทำตามพระวินัยสงฆ์ พระวินัยนี่กระผม/อาตมภาพเปิดทวนอยู่ทุกเย็น ไม่ได้ประมาทว่าเราจำได้แล้ว เพราะว่ามีมากต่อมากด้วยกัน อาจจะมีการเผลอสติได้ ดังนั้น..ที่พวกท่านทั้งหลายท่องพระปาฏิโมกข์ภาษาบาลี กระผม/อาตมภาพท่องปาฏิโมกข์ภาษาไทย..! แล้วไม่ใช่แค่ปาฏิโมกข์แค่นั้น กระผม/อาตมภาพท่องนวโกวาททั้งเล่มเลย จำจนไม่มีอะไรจะจำก็จำหน้าปกว่า พิมพ์โดยลิขสิทธิ์โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มละ ๒ บาท ๕๐ สตางค์..!

    คราวนี้ช่วงระยะนี้ก็ยังมีงานสำคัญที่รอพวกเราอยู่ ก็คืองานปฏิบัติธรรมของพระนวกะ อย่าลืมในส่วนที่พวกเราต้องบอกสัตตาหะฯ ก่อนที่จะไป แล้วพระภิกษุของเราที่ได้รับการแต่งตั้งจากทางเจ้าคณะอำเภอ ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะพระวิปัสสนาจารย์ ก็จำเป็นที่จะต้องขอสัตตาหะฯ เพื่อไปทำหน้าที่ด้วย

    เพียงแต่ว่าให้ระมัดระวังว่า การพักอยู่รวมกัน อาจจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ซึ่งแม้ว่าตอนนี้อาการจะไม่น่ากลัว แต่ใครจะรู้ว่าเวรกรรมจะมาถึงเมื่อไร เพราะว่ามีหลายคนที่ดูแล้วร่างกายแข็งแรง พอติดเชื้อไวรัสเข้าไป กลายเป็นคนป่วยออด ๆ แอด ๆ มาจนป่านนี้ ในลักษณะที่เขาเรียกกันว่า Long COVID ดังนั้น..เราต้องระมัดระวังป้องกันตัวของเราเอาไว้ก่อน หน้ากากอนามัยหอบไปเลย จะ ๓ กล่อง ๕ กล่องอย่างไรก็ได้ ถ้าไม่พอก็บอกทางวัด เดี๋ยวก็มีคนเอาไปเพิ่มเติมให้

    ส่วนการเดินทางไปถวายสักการะพระเถระในจังหวัด ทางคณะบุญเพื่อพระนิพพานของทิดโจ้ (ปฏิวัติ สมสะอาด) รับเป็นเจ้าภาพรถปรับอากาศชั้น ๒
    กระผม/อาตมภาพต้องเจริญพรขอบคุณทางคณะบุญเพื่อพระนิพพาน ซึ่งพยายามช่วยเหลือการงานของครูบาอาจารย์มาโดยตลอด

    คราวนี้พวกเราที่ไป อันดับแรกเลยก็คือน้ำดื่ม ทุกที่เขาเลี้ยงเราก็จริง แต่ให้ติดรถไป "เผื่อเหนียว" ด้วย ไม่ใช่ว่าอยากดื่มน้ำในระหว่างกลางทางขึ้นมาแล้วไม่มี ส่วนเรื่องของพวกน้ำหวาน น้ำอัดลม หรือว่าน้ำชา แต่ละสถานที่เขาจะเลี้ยงเราเอง ตอนนี้ต้องรอดูว่า ทางด้านเจ้าคณะอำเภอท่านจะนัดเจอกันที่ไหนก่อน

    จากที่เคยปฏิบัติกันมา มักจะให้ไปเจอกันที่วัดพระแท่นดงรังวรวิหาร เพื่อถวายสักการะพระเดชพระคุณพระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ.๖) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีรูปที่ ๑ ก่อน เพราะว่าสถานที่อยู่ไกลที่สุด
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    อันดับต่อมา ก็น่าจะเป็นวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) หรือว่าวัดใต้ ถวายสักการะพระเดชพระคุณพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

    และพระเดชพระคุณพระโสภณกาญจนาภรณ์ (ทอมสันต์ จนฺทสุวณฺโณ ป.ธ.๔) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีรูปที่ ๓

    แล้วถึงจะไปวัดเทวสังฆาราม (พระอารามหลวง) หรือว่าวัดเหนือ เพื่อถวายสักการะท่านอาจารย์พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี รูปที่ ๒ ซึ่งถ้ากระผม/อาตมภาพไป ก็ต้องไปนั่งค้ำหัวท่านทุกที เพราะว่าอาวุโสกว่า ท่านจะให้นั่งเก้าอี้ พวกเราที่อยู่ข้างล่างก็ถวายสักการะกันไป

    ในส่วนของการเดินทาง ระยะนี้ฝนฟ้าตกเป็นปกติ ถ้าหากว่ากรมอุตุนิยมวิทยาทำนายเมื่อไร ในภาคกลางจังหวัดกาญจนบุรีมักจะมาก่อนทุกครั้ง โดยเฉพาะอำเภอทองผาภูมิของเรา แค่ข้ามสันเขาไปก็เป็นทะเลอันดามันแล้ว ถ้าหากว่าไม่มีเทือกเขาตะนาวศรีกั้นอยู่ เจอมรสุมเข้าตรง ๆ จะหนักกว่านี้มาก ต้องบอกว่าพวกเรายังโชคดีที่มีเทือกเขาตะนาวศรีกั้นอยู่ ทำให้กำลังมรสุมที่เข้ามา อยู่ในระดับที่พอเหมาะพอดี แต่ก็ทำเอาฝนฟ้าตกทั้งวันทั้งคืนเป็นปกติ

    ถ้ากระผม/อาตมภาพจำไม่ผิด ปี ๒๕๓๗ ฝนแล้งจัดมาก แล้วท้าวมหาราช โดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณ ท่านได้รับคำขอร้องก็เมตตาช่วยเหลือ จากภาพที่ท่านทำให้ดูก็คือ เอากระบองกวาดพื้นทะเล น้ำพุ่งขึ้นมาสูงเหมือนอย่างกับตึก ๑๐ ชั้น เป็นกำแพงเมืองจีนไปเลย..! กระผม/อาตมภาพก็คิดว่า "บรรลัยแล้ว..สึนามิ..!" แต่ปรากฏว่าไม่ใช่

    ที่ท่านทำเช่นนั้น เพื่ออาศัยกำแพงน้ำดันความชื้นในทะเลให้ข้ามสันเขามา เมื่อกระทบกับป่าไม้ ก็กลั่นตัวกลายเป็นฝน ส่วนน้ำที่เราเห็นเป็นกำแพงยักษ์นั้นจะค่อย ๆ ลดระดับลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงชายฝั่ง ก็กลายเป็นคลื่นปกติ ของบางอย่างก็คิดไม่ถึง แต่ว่าพวกเรารอดตาย เพราะว่าน้ำกำลังจะหมดเขื่อนพอดี..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า เรื่องของพรหม เรื่องของเทวดา ตลอดจนกระทั่งนางฟ้าทั้งหลาย ท่านต้องการบุญกุศลเป็นปกติ พวกเรามีโอกาส สร้างบุญ สร้างกุศล ทำวัตรสวดมนต์ เจริญพระกรรมฐาน ประกอบกิจอะไรที่เป็นบุญกุศล เราก็อุทิศถวายพวกท่านทั้งหลายเป็นปกติ เมื่อมีการให้ก็ย่อมได้รับการให้ตอบ ในลักษณะของ วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ เมื่อไปขอร้องให้ท่านช่วยเหลือ ถ้าหากว่าไม่เกินวิสัย ท่านก็ช่วยได้

    แบบเดียวกับที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เล่าให้ฟัง ในช่วงที่ออกมหาสมาคมตอนที่พระองค์ท่านยังมีพระวรกายแข็งแรง ว่าท่านไปขอให้ท้าวมหาราชช่วยไปเล่นสงกรานต์ที่สุวรรณภูมิหน่อย เพราะว่าฝนแล้ง ปรากฏว่าท้าวมหาราชพาบริวารเล่นสงกรานต์กันหนักไปหน่อย ก็เลยมีน้ำท่วมเป็นบางที่

    ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงตรัสว่า พระองค์ท่านไปต่อว่าท้าวมหาราชว่า "ทำไมน้ำท่วม ?" ท้าวมหาราชท่านถามว่า "คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ใช่หรือไม่ ?" ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ก็ทรงยอมรับว่า "ใช่" ท้าวมหาราชท่านถึงได้บอกว่า "ในเมื่อคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ คนส่วนน้อยเดือดร้อน ก็แปลว่าคนส่วนน้อยนั้นได้สร้างกรรมเอาไว้ อยู่ในวาระที่ผลกรรมจะมาสนองเขาทั้งหลายเหล่านั้นพอดี"

    เรื่องเหล่านี้มีหลักฐานชัดเจน เพราะว่าพระองค์ท่านตรัสเล่าไว้หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไปขอให้นางมณีเมขลาช่วยหยุดพายุแองเจล่าก็ดี เรื่องขอท้าวมหาราชพาบริวารมาช่วยทำฝนให้กับประเทศไทยก็ตาม

    เราต้องไม่ลืมว่า เราจะทำอะไร ต้องสร้างเหตุให้พอ ผลถึงจะเกิด ในเมื่อท่านทั้งหลายที่บวชมา ตั้งใจว่าจะเอามรรคเอาผล หรืออย่างน้อย ๆ ก็ปฏิบัติตนให้เป็นพระภิกษุที่ดี ให้ญาติโยมเขาไหว้ได้เต็มไม้เต็มมือ ท่านทั้งหลายก็ต้องสร้างเหตุให้เพียงพอ ก็คือในเรื่องของ ศีล สมาธิ ปัญญา

    เมื่อพ้นจากหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบแล้ว เราต้องทุ่มเทให้กับการปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ เพราะว่าเวลา ๓ เดือน พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้ว ๕ วัน ถ้าเผลออีกหน่อยก็ผ่านไปหนึ่งวันพระ เผลออีกหน่อยก็ผ่านไปครึ่งเดือน กระผม/อาตมภาพยังรู้สึกว่า
    ไม่ทันจะทำอะไรเลย แต่ละพรรษาผ่านไปเร็วมาก อาจจะเป็นเพราะไม่รู้สึกว่านาน ก็เลยทำให้แก่ช้ากว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงเขาก็อาจจะเป็นไปได้..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...