เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 7 มกราคม 2025.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,601
    ค่าพลัง:
    +26,453
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,601
    ค่าพลัง:
    +26,453
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพและคณะเริ่มทริป "ท่องแดนยมโลก" เพื่อที่จะเดินทางไปยังเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เหตุที่เรียกว่ารายการ "ท่องแดนยมโลก" ก็เพราะว่าเหมือนกับไปหาที่ตายชัด ๆ..! แล้วยมโลกก็เป็นธาตุหยินคือธาตุแห่งความเย็นตามความเชื่อของจีน การที่เราไปยังสถานที่ซึ่งเย็นจัดสุด ๆ แห่งหนึ่งของโลก ก็เลยถือว่าเป็นการไปเที่ยวสถานที่แห่งความตายนั่นเอง

    เมื่อออกเดินทางมาจากวัดอุทยาน ตรงไปยังสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ กระผม/อาตมภาพรู้สึกหนาวมากเป็นพิเศษ ทั้ง ๆ ที่อากาศแค่ ๒๐ องศาเซลเซียส จึงได้ฉันยาแก้ไข้ไปก่อน เมื่อไปถึงสนามบิน ปรากฏว่าลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) เจ้าของเติมเต็มทราเวล มารอรับลูกทัวร์อยู่ ซึ่งพวกเราก็มาถึงหลายคนแล้ว อย่างเช่นว่าป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) คุณหนึ่ง (นายบัญชา เซ็นภักดี) คุณแบงค์ (นางศรินธร เซ็นภักดี) เป็นต้น เมื่อรวมกระผม/อาตมภาพกับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.,ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยานเข้าไป ก็เท่ากับว่าพวกเรามาแล้ว ๑ ใน ๔ ของจำนวน ๒๐ คนแล้ว

    ลูกกิฟท์ทำงานด้านของการจัดการกับลูกทัวร์ได้คล่องตัวมาก นำเอาแท็กมาติดกระเป๋าให้ มอบเอกสารในการเดินทาง โดยเฉพาะ Border Pass ที่ช่วยกรอกข้อมูลต่าง ๆ ลงไปให้กับลูกทัวร์ทุกคนที่ทยอยกันเข้ามา โดยที่พวกเราจะต้องกรอกอยู่แค่ ๒ แห่ง แห่งแรกก็คือหมายเลขโทรศัพท์ของตนเอง แห่งที่สองก็คือภายใน ๒ ปีที่ผ่านมา เคยเดินทางไปยังประเทศใดบ้าง ? แล้วนำเอาข้าวกล่อง ซึ่งเป็นผัดกะเพราและซาละเปาพร้อมกับขนมมาถวายให้เป็นอาหารเช้า

    กระผม/อาตมภาพฉันเสร็จ ปรากฏว่ากระเป๋าหาย..! หันมาอีกทีลูกกิฟท์กำลังเอาไปชั่ง เพื่อที่จะขอให้เขาออกตั๋วให้ เมื่อเดินตามเข้าไป ถึงได้เห็นว่ากระเป๋าของตนเองนั้นหนักสุด ๆ อยู่ที่ประมาณ ๘ กิโลกรัมเศษเท่านั้น ส่วนใบที่ถือขึ้นเครื่องก็ตามกำหนดของเขาก็คือ ๗ กิโลกรัม และ ๗ กิโลกรัมนี้เป็นเครื่องกันหนาวเกือบทั้งหมด..! เสร็จแล้วกระผม/อาตมภาพก็ตรงไปยังทางเข้าเพื่อตรวจการออกจากเมือง ซึ่งเป็นทางด่วนสำหรับพระและบุคคลสำคัญที่เรียกว่า Fast Track โดยมีตากล้องเอ๋ (นายสุรชาติ บุญเจริญ) ช่วยหิ้วกระเป๋าหนัก ๗ กิโลกรัมตามไปให้

    แต่ว่าเจ้าหน้าที่แนะนำให้ผ่านเครื่องอัตโนมัติไปเลย กระผม/อาตมภาพเองก็ยังคิดว่าจะรอดหรือไม่ ? เพราะว่าเท่าที่ผ่านมา การสแกนพาสปอร์ตไม่เคยผ่านสักครั้งเดียว แต่ปรากฏว่าครั้งนี้ เครื่องอัตโนมัติของสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิทำงานดีมาก ขึ้นข้อมูลและใบหน้าของกระผม/อาตมภาพมาให้ พร้อมกับบอกให้มองกล้อง

    เมื่อหันไปมอง เครื่องอัตโนมัติยังบอกให้ถอดแว่นเสียก่อน..! แล้วก็ปล่อยผ่านมาโดยที่ไม่ได้ประทับตราในพาสปอร์ตเลย ไปยืนรอพรรคพวกอยู่พักใหญ่ กว่าที่จะมากันครบถ้วนและถ่ายรูปหมู่รวมกัน หลังจากนั้นตากล้องเอ๋และเพื่อนก็พากระผม/อาตมภาพไปนั่งรอที่ประตูขึ้นเครื่อง G1 ซึ่งยังไม่เปิด แล้วตนเองกับคนอื่นก็พากันไปหาอาหารเช้ารับประทานกัน
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,601
    ค่าพลัง:
    +26,453
    กระผม/อาตมภาพที่เดินหาตู้น้ำร้อน เพื่อที่จะกดน้ำร้อนไว้ดื่ม เนื่องจากว่าตอนผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ เจ้าหน้าที่ได้เททิ้งจนหมดกระบอกไปแล้ว ปรากฏว่าเดินวนเสียแทบจะรอบสนามบิน ตู้กดน้ำร้อนมาอยู่ตรงหน้าประตูขึ้นเครื่อง G1 ที่กระผม/อาตมภาพนั่งอยู่ไม่ห่างนี่เอง..!

    ครั้นเมื่อถึงเวลา ๐๖.๕๕ น. ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็เปิดประตูให้ลงไปด้านล่าง เพื่อนั่งรอขึ้นเครื่องได้ เมื่อเห็นเครื่องเข้ามาเทียบจอดตามเวลา กระผม/อาตมภาพก็ยังโล่งใจว่า วันนี้
    ทุกอย่างจะต้องสะดวกแน่นอน จึงน้อมจิตน้อมใจแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ซึ่งดูแลรักษาตลอดเส้นทางในการเดินทางวันหนึ่งคืนหนึ่งนี้ โดยเฉพาะที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง

    แล้วก็เห็น "อาม่า" ท่านหนึ่ง อยู่ในชุดกันหนาว ผมสั้นเลยหูมาเล็กน้อย แต่ผมดำมาก และยังเป็นบุคคลประเภทฟันไม่เข้า ก็คือฟันหน้ายื่นออกมาเล็กน้อย จะบอกว่าสวยก็ไม่ได้ จะบอกว่าขี้เหร่ก็ไม่เชิง ลักษณะเหมือนคุณยายแก่ ๆ ตามบ้านนอก เพียงแต่ว่าแปลกตรงที่ผมดำสนิทมากเท่านั้น แล้วเสื้อกันหนาวแขนยาวที่ใส่อยู่ ก็คล้าย ๆ เสื้อขนสัตว์ซึ่งชาวบ้านทั่วไปเขาใส่กันหนาวนั่นเอง

    เมื่อน้อมใจถามถึงว่า "ท่านเป็นใคร ? มาจากไหน ?" ท่านบอกว่า "จำต้าเหนียงได้หรือไม่ ?" คำว่า "ต้าเหนียง" ภาษาจีนก็คือ "แม่ใหญ่" ก็เลยถามว่า "กระผม/อาตมภาพเคยเกิดที่เมืองฮาร์บินหรือ ?" ท่านบอกว่า "เคยเกิดกับต้าเหนียงนี่แหละ ลูกกลับมาเยี่ยมบ้านก็ดีแล้ว ทุกคนคิดถึง" กระผม/อาตมภาพจึงตั้งใจฝากคณะทั้งหมดเอาไว้กับ "แม่ใหญ่" ให้ช่วยดูแลความปลอดภัยให้ด้วย อะไรที่พอจะสงเคราะห์กันได้ก็ให้สงเคราะห์
    "ต้าเหนียง" ท่านก็รับปาก

    เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง กระผม/อาตมภาพส่งรูปสุดท้ายเข้ากลุ่มไลน์แล้วก็จัดการปิดโทรศัพท์ ขึ้นไปอยู่บนเครื่องเสร็จสรรพเรียบร้อย รอจนได้เวลาเครื่องก็ออก กระผม/อาตมภาพนั่งภาวนายาว ๆ ไปเลย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าต้องสร้างส่วนที่เป็นบุญเป็นกุศลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อุทิศให้กับ
    "ต้าเหนียง" และบริวาร ตลอดจนกระทั่งญาติพี่น้องทั้งหมด เพื่อขอให้ท่านอำนวยความสะดวกให้ในขณะอยู่ที่เมืองฮาร์บิน
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,601
    ค่าพลัง:
    +26,453
    จนกระทั่ง พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.,ดร. ถามว่า "หลวงพ่อจะฉันอะไรไหมครับ ?" เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่นำอาหารกลางวันมา ก็เลยบอกว่า "ขอชาร้อนถ้วยเดียว" ฉันเสร็จก็ภาวนาต่อ จนกระทั่งใกล้เวลาเครื่องจะลงก็ไปเข้าห้องน้ำ เจ้าหน้าที่สาวสวยบอกว่าต้องเร็วสุด ๆ เลยนะ (be quick) เพราะว่าเครื่องจะลงแล้ว กระผม/อาตมภาพบอกว่าเร็วแน่นอน เพราะว่าปัสสาวะอย่างเดียว ออกมานั่งรอได้ครู่หนึ่ง เครื่องบินก็ลงสู่สนามบินนานาชาติไป๋หยุน เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ของประเทศจีน

    พวกเราเองเดินผ่านเครื่องตรวจคนอัตโนมัติ ซึ่งนับจำนวนคนอย่างเดียว แล้วก็มาผ่าน ตม. ซึ่งเป็น "คุณละเอียด" กระผม/อาตมภาพตามหลังชาวต่างชาติอยู่ ๓ ราย เป็นอันว่ารอแล้วรออีก รอจนกว่าเขาจะตรวจสอบจนมั่นใจว่า ชาวต่างชาติเหล่านั้นไม่มีปัญหา แล้วจึงปล่อยให้ผ่านไป จากนั้นตนเองก็ยังต้องมาช้าต่อไป เพราะว่าชื่อของกระผม/อาตมภาพยาวมาก บรรดา "คุณละเอียด" ก็นับแล้วนับอีก เคาะแล้วเคาะอีกไล่ทีละตัวอักษร ๘ รอบ ๑๐ รอบ ตามความพอใจ กว่าที่จะประทับตราแล้วหลุดออกมานั่งรอคณะของตนเองได้

    ออกมานั่งรอได้สักพัก พวกเราก็มากันครบถ้วน ไปเดินหาว่ามีร้านอาหารอะไรที่พอจะกินกันได้บ้าง โดยทิ้งให้กระผม/อาตมภาพเป็น "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" อีกไม่นานก็เดินหน้าเหี่ยวกลับมา บอกว่าด้านนี้ไม่น่าจะมีอะไรขายนอกจากสินค้าปลอดภาษี ว่าแล้วพวกเราก็มาสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าจะเดินทางไปเมืองฮาร์บิน ซึ่งต้องออกเสียงว่า "ฮาร์เอ่อปิ้น" เจ้าหน้าที่ถึงจะเข้าใจ สามารถที่จะเข้าเลยได้หรือไม่ ? เจ้าหน้าที่บอกว่าเข้าได้เลย โดยเอาตั๋วไปสแกนอัตโนมัติเข้าไป ถึงเวลาก็แยกเป็น ๒ สายซ้ายขวา เพื่อผ่านเครื่องเอ๊กซเรย์

    ปรากฏว่ากระผม/อาตมภาพนั้น ขนาดเตรียมพร้อมด้วยการนำเอาพาวเวอร์แบงค์ ตลอดจนกระทั่งสายไฟต่าง ๆ ออกมาจนหมดแล้วก็ตาม ก็ยังต้องถอดรองเท้า ถอดจีวรใส่ถาดเพื่อให้เขาตรวจสอบ แล้วก็ไปยืนบนแท่นให้เจ้าหน้าที่ลูบ ๆ คลำ ๆ ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ ๓ - ๔ รอบ กว่าพ่อเจ้าประคุณจะพอใจ แล้วค่อยปล่อยให้ออกมาแต่งตัวใหม่พร้อมกับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ., ดร.

    เมื่อเดินผ่านออกมาทางด้านนอก ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ยืนตรวจบัตรอีกต่างหาก ว่าพาสปอร์ตกับตั๋วนั้นตรงกันหรือไม่ ? เห็นแล้วก็รู้สึกว่าเขาเข้มงวดกวดขันดี แต่ถ้าคนแห่มาพร้อม ๆ กันสัก ๓๐๐ - ๔๐๐ คน ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเสียเวลาเนิ่นนานไปสักเท่าไร ?
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,601
    ค่าพลัง:
    +26,453
    เมื่อเข้ามายังด้านใน ปรากฏว่าเครื่องที่กระผม/อาตมภาพจะขึ้น เพื่อเดินทางไปยังสนามบินเมืองฮาร์บินนั้น ยังไม่ออกเกท (ประตู) ให้ เนื่องเพราะว่าจะเริ่มเรียกขึ้นเครื่องเวลา ๑๖.๒๕ น. ของทางประเทศจีน กระผม/อาตมภาพเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงเศษ ถ้าหากว่าขึ้นเครื่อง กว่าจะไปถึงเมืองฮาร์บิน ก็ราว ๆ ๒ ทุ่มกว่า บันทึกเสียงตอนนั้นอาจจะไม่สะดวก จึงมานั่งบันทึกเสียงตรงนี้เลย

    อีกประการหนึ่งก็คือการเดินทางครั้งนี้เป็นการใช้ eSIM แทนที่จะเป็นการซื้อ SIM2Fly หรือว่าเปิดโรมมิ่งจากเมืองไทย เพราะว่าเข็ดจากครั้งล่าสุดที่ไปประเทศศรีลังกา โรมมิ่งที่เปิดไว้ส่งรูปเพียงรูปเดียวใช้เวลา ๑๒ นาที..! ไอ้ตัวเล็ก (นางสาวพัชรีภรณ์ หยกอุบล) ประธานคณะกรรมการบริหารชมรมรักษ์ธรรมรักษ์ไทย และเจ้าหน้าที่ประจำเว็บไซต์วัดท่าขนุน จึงได้แนะนำให้เปิดเป็น eSIM ดีกว่า บอกว่าจะใช้งานสะดวกกว่ามาก

    เมื่อกระผม/อาตมภาพมาถึง ปรากฏว่าเครื่องไม่สามารถที่จะใช้งานได้ จนกระทั่งผู้รู้เขามาบอกว่า จะต้องปิดซิมแรกของตนเอง แล้วทำการอัพเดทเครื่องใหม่ก่อน เมื่อทำเช่นนั้น จึงสามารถที่จะใช้งานได้ตามที่ตนเองต้องการ ก็ขอเจริญพรขอบคุณ "ไอ้ตัวเล็ก" มา ณ ที่นี้ด้วย

    ตอนนี้รอบข้างไม่มีใคร นอกจากกระเป๋ากองพะเนินเทินทึก แล้วสักพักหนึ่งก็จะมีเสียงประกาศของเจ้าหน้าที่สนามบินมาเป็นระยะ ๆ อาจจะมีการรบกวนในบันทึกบ้างบ้างก็ต้องขออภัย

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...