เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 29 พฤษภาคม 2025 at 19:47.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,975
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,759
    ค่าพลัง:
    +26,627
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,975
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,759
    ค่าพลัง:
    +26,627
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ พวกเราก็ยังคงต้องจัดเตรียมสถานที่ โดยเฉพาะในส่วนของวัตถุมงคล วันนี้ก็เพิ่งจะจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อย

    ในเรื่องของวัตถุมงคล โดยเฉพาะพระสมเด็จคำข้าวมหาลาภปลดหนี้ ๒ แผ่นดิน จะจำหน่ายเฉพาะในงานเป่ายันต์เกราะเพชรเท่านั้น ไม่มีการส่งทางไปรษณีย์ใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่จำหน่ายในเวลาอื่นด้วย โดยเฉพาะจำหน่ายเป็นเงินสดเท่านั้น เพราะว่าวันงานคนมาก การโอนเงินไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ทัน

    พรุ่งนี้เวลาออกบิณฑบาตให้แจ้งงดบิณฑบาตวันที่ ๓๑ หนึ่งวัน โดยเฉพาะงดบิณฑบาตวันเสาร์ที่ตลาดริมแคว เพราะว่าพวกเราจะต้องเข้าประจำที่ บางทีอาจจะก่อน ๖ โมงเช้าด้วย เนื่องเพราะว่าญาติโยมที่มา ยิ่งถ้าเจอกับฝนฟ้าเข้าก็ยิ่งต้องรีบเข้ามาภายในศาลาให้เร็วขึ้น แบบเดียวกับปีก่อน ที่ต้องขออนุญาตพระท่านเพื่อเป่ายันต์รอบพิเศษให้ก่อน ไม่อย่างนั้นก็ระบายคนไม่ได้ เพียงแต่ว่าปีนี้ปัญหาแบบนั้นน่าจะไม่เกิดขึ้น

    แต่ด้วยความที่คนเป็นจำนวนมาก ถึงเวลามีใครแหกคอกฝืนระเบียบเสียคนเดียว ก็พาคนอื่นเดือดร้อนไปหมด เพราะฉะนั้น..เวลาอยู่หน้างานอย่าเกรงใจคน พวกที่ไม่มีการเตรียมพร้อมแล้วช้าอยู่ ให้ไล่ไปต่อท้ายแถวใหม่เลย..!

    สมัยที่กระผม/อาตมภาพทำหน้าที่อยู่ตรงหน้าหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง คนจำนวนเป็นแสน จะไปรอคุณยายงก ๆ เงิ่น ๆ ควักกระเป๋าเพื่อหาเงินจะมาทำบุญ แล้วคนข้างหลังจะทำอย่างไร ? ก็ใช้วิธีหิ้วแกออกจากศาลาไปเลย ถ้าอยากจะทำบุญไปเตรียมตัวให้พร้อม แล้วค่อยไปต่อแถวเข้ามาใหม่ ไม่ใช่ไปเห็นใจว่าเป็นคนแก่หรือว่าเป็นเด็ก โดยเฉพาะพวกที่ให้ความเคารพมากโดยไม่ดูกาลเทศะ ถึงเวลาจะต้องกราบ ถึงเวลาจะต้องคุกเข่าถวายของ ดันออกไป
    ให้ต่อท้ายแถวใหม่เลย อีกครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อยก็คงจะกลับมาที่เดิมได้เอง..!

    แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ชัดว่า "การข้ามน้ำฝูงโคย่อมต้องมองจ่าฝูง ถ้าจ่าฝูงนำคด ฝูงโคก็จะเดินคดตาม ถ้าจ่าฝูงนำตรง ฝูงโคก็จะเดินตรงตาม" ก็คือคนข้างหน้าห้ามทำผิด เพราะว่าทันทีที่ทำผิดจะมีคนทำตามทันที
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,975
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,759
    ค่าพลัง:
    +26,627
    ใครที่เสียเวลามาเซลฟี่หรือไลฟ์สดผลักให้เลยไปเลย ให้ไปวนกลับมาใหม่ ไม่อย่างนั้นแล้วคนเป็นหมื่น ใครจะไปรอให้แม่เจ้าประคุณค่อย ๆ ไปไลฟ์สดอยู่

    กับคนหมู่มาก ในเรื่องของระเบียบ เรื่องของกฎเกณฑ์ต้องเข้มงวดเข้าไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นแล้วงานจะไปไม่ได้ ใครที่คิดว่าตัวเองใจอ่อน หรือยังเห็นแก่หน้าค่าชื่อ ไม่ต้องมาทำหน้าที่ในศาลา แต่สิ่งที่เราทำ ต้องอยู่ในลักษณะสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าพูดภาษาคนไม่รู้เรื่องแล้วค่อยว่ากันอีกที..!

    วัดเราที่คนเขาบอกว่าคนมาก ความจริงไม่ได้เศษเสี้ยวหนึ่งของวัดท่าซุง สมัยนั้นเวลาวัดท่าซุงจัดงาน หลัก ๆ เลยคนประมาณ ๒ แสน ไม่ใช่แค่ ๔ - ๕ พันแบบวัดท่าขนุนแล้วไปบอกว่าคนมาก

    ดังนั้น..ในเรื่องของระเบียบ เรื่องของกฎเกณฑ์ต้องยึดเป็นหลักเข้าไว้ เพียงแต่ว่ามีการผ่อนปรนบ้าง อย่างเช่นว่าถ้าใกล้เวลาแล้ว คนก็ระบายไม่ได้ เดินก็เดินไม่ได้ ก็ให้เขานั่งตรงทางเดินไปเลย เพียงแต่ว่าถ้าใครนั่งตรงทางเดินห้ามย้อนกลับ อยากจะทำบุญให้ออกจากศาลาไป แล้วค่อยวนกลับมาใหม่ ถ้าใครไม่พอใจกลับบ้านไปเลยยิ่งดี จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาคนอื่นเขา..!

    ดังนั้น..ในวันมะรืนนี้ ใครทำหน้าที่ตรงไหน เมื่อฉันเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เข้าประจำจุดทันที โดยเฉพาะการดูแลในส่วนของห้องน้ำ แล้วก็การเก็บขยะ เพราะว่าเรายิ่งเก็บช้าเท่าไร ขยะก็จะล้นมากเท่านั้น ประเภทที่กินตรงไหนแล้วทิ้งตรงนั้นมีมาก
    ถ้าหากว่าเรามีที่ให้เขาไม่พอ อย่าไปหวังว่าเขาจะเอามาหย่อนใส่ถังให้..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,975
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,759
    ค่าพลัง:
    +26,627
    ในเรื่องอื่น ๆ เรื่องของการจราจรก็สำคัญ ถ้าใครจอดรถไม่ดูตาม้าตาเรือ ประกาศแล้วไม่ย้าย สถานเบาก็ปล่อยลมยางทิ้งไปทั้ง ๔ เส้นเลย..! เรื่องพวกนี้ถ้าเมตตาเกินประมาณเมื่อไร ก็จะเจอแต่คนพาลเต็มบ้านเต็มเมือง ต้องรู้จักใช้อุเบกขาบ้าง เอาให้เขาลือกันไปทั้งประเทศเลยว่า มาวัดท่าขนุนแล้วถ้าผิดระเบียบจะเจออะไรบ้าง ?! บางอย่างถ้าหากว่าเราไปเมตตา ก็จะเจอแต่พวกไม่รู้ภาษามนุษย์

    แบบเดียวกับพวกที่มาตั้งร้านขายทุเรียนหน้าวัด พวกคุณไปบอกให้รื้อ ๓ รอบ ๔ รอบ ก็ไม่รื้อ เพราะว่าพวกท่านมัวแต่ไปถกคารมกับเขา ไปใช้เหตุผลพูดคุยกัน กระผม/อาตมภาพออกไปถึงบอกว่า "รื้อเดี๋ยวนี้ ถ้าย้อนกลับมาอีกครั้งยังอยู่มีเรื่อง..!" จบแค่นั้น กลับไปเขาก็รื้อเรียบร้อยแล้ว ของบางอย่างถ้ามัวแต่ใช้เหตุผลอยู่ คนพาลเขาไม่ฟัง
    จะทำอะไรจึงต้องดูสถานการณ์และหน้างานตอนนั้นด้วย

    ความจริงหน้าวัดเรามีเอาไว้ให้เขาค้าขายอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าไปเอาทุเรียนที่อื่นมาขายเป็นทุเรียนทองผาภูมิยังไม่พอ ยังเป็นทุเรียนอ่อนอีกด้วย พอถึงเวลาลูกค้าเขาก็โทรมาด่าที่วัด เพราะคิดว่าเป็นร้านค้าของวัด พอเราติดต่อไป ทางเจ้าของร้านแทนที่จะรีบชดเชยให้เขา กลับจะต้องให้เขาเอามาเปลี่ยน ไอ้คนมันกลับบ้านไป ๔ - ๕ วันแล้ว จะให้เอาทุเรียนที่ผ่ามาแล้วเปลี่ยน พูดได้ปัญญาอ่อนมาก..! เพราะฉะนั้น..วิธีเดียวก็คือมึงเลิกขายไปเลย..!

    ถ้าหากว่าเราเมตตาแล้วเจอคนพาล ก็ต้องใช้อุเบกขา หรือไม่ก็รังสีอำมหิตแทน..! สมัยนี้คนไม่กลัวความดี มีแต่กลัวคนที่ชั่วกว่า ดังนั้น..ต้องทำให้เขารู้ว่าเราชั่วกว่า ถ้าอยากมีเรื่องเราพร้อม..! บางทีเรื่องพวกนี้ท่านทั้งหลายอาจจะยังทำกันไม่ได้ เพราะว่ากำลังใจยังไม่พอ คำว่า "กำลังใจยังไม่พอ" คือ "วางอุเบกขาไม่เป็น" พอถึงเวลาก็ไป รัก โลภ โกรธ หลง ตามสถานการณ์

    พวกรุ่นเก่า ๆ อย่างปลัดแป๊ะ (พระปลัดวินัย ชาคโร) จะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพตีเด็กวัด เด็กวัดจะกลัวมาก เพราะว่า
    กระผม/อาตมภาพไม่ได้ตีด้วยความโกรธ แต่ตีเพื่อบอกให้รู้ว่าทำผิด..! แล้วแต่ละคนที่โดนก็ยอมรับว่าตัวเองผิดจริง ๆ
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,975
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,759
    ค่าพลัง:
    +26,627
    แต่ท่านอาจารย์สมพงษ์ (พระสมุห์สมพงษ์ เขมจิตฺโต - อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน) ใช้วิธีให้อภัย ๆ แต่ให้อภัยแบบเก็บกด ท้ายสุดทนไม่ไหว ระเบิดโทสะ ตีแบบบวกของเก่าเข้าไปด้วย..! เด็กเขารู้ว่าเขาไม่ได้ทำผิดขนาดนั้น เพราะฉะนั้น..พอไปตีแบบนั้น เด็กวัดหนีกลับบ้านหมด ไม่มีใครอยู่วัดอีก ถือว่าเป็นการฝึกฝนกำลังใจของพวกเราก็แล้วกัน พอถึงเวลาทำงานอยู่นาน ๆ ความเครียดจะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว สติของเราต้องเท่าทันอารมณ์ใจของตัวเองด้วย

    ตอนทำงานอยู่วัดท่าซุง ถ้างานใหญ่ ๆ อย่างงานเป่ายันต์เกราะเพชร ช่วงเช้า
    กระผม/อาตมภาพยังรักษากำลังใจได้ ช่วงบ่ายมารู้ตัวตอนที่ตัวเองเสียงดังขึ้น แปลว่ารักษากำลังใจไม่ได้แล้ว สมาธิตก ต้องรีบลากคนอื่นมาทำหน้าที่แทน แล้วตัวเองก็ไปเข้าส้วม ไปนั่งภาวนาข้างในนั้น..! พออารมณ์ใจทรงตัวแล้วถึงกลับมาทำหน้าที่ต่อไป

    ดังนั้น..พวกเราลองดูว่างานใหญ่แบบนี้ เรารักษาอารมณ์ใจได้นานเท่าไร แล้วขณะเดียวกัน สามารถที่จะแก้ไขอารมณ์ใจของเราได้เร็วเท่าไร ถือว่าเป็นการฝึกหัดกับของจริง การนั่งภาวนาเฉย ๆ อย่างเดียวไม่สามารถที่จะรับรองได้ เพราะว่าส่วนใหญ่สงบตอนภาวนา พอกระทบของจริงก็พังหมด..!

    ดังนั้น..ใครที่สามารถรักษาอารมณ์ใจได้ในขณะที่ทำงาน ในขณะที่ชนอยู่กับคนหมู่มากจริง ๆ จึงพอที่จะเชื่อได้ว่ากำลังใจมั่นคง แต่ก็ห้ามประมาท เพราะว่าถ้าเผลอเมื่อไร กิเลสจะตีกลับตอนไหนก็ไม่รู้ ?!


    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...