เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 8 เมษายน 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,415
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,415
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ส่วนที่สำคัญไม่ใช่งานวันบูรพาจารย์ที่วัดราษฎร์ประชุมชนาราม แต่ว่าเป็นงานประชุมพระสังฆาธิการ ในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ระดับเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และเลขานุการ ประจำเดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ามีปัญหาเกี่ยวกับสามเณรภาคฤดูร้อน ในหลายต่อหลายแห่งทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะส่วนที่เสียหายที่สุดมากก็คือ เจ้าอาวาสไปล่วงละเมิดทางเพศกับสามเณร ซึ่งคาดว่าไม่ใช่ทำเป็นครั้งแรก..!

    จะมีบุคคลประเภทหนึ่ง ถ้าภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Lolicon แต่ว่า Lolicon นั้น ชอบทั้งเด็กผู้ชายก็ได้ เด็กผู้หญิงก็ได้ แต่ Lolicon ประเภทชอบเด็กผู้ชายนั้น ส่วนใหญ่จะเป็น Bisexual ก็คือสามารถที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย คนทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเราดูเปลือกนอกจะไม่เห็นความผิดปกติ เนื่องเพราะว่ารสนิยมทางเพศ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่ปกปิดกันเอาไว้ กว่าจะรู้เรื่อง บางทีก็ก่อเหตุไปแล้ว

    อย่างของวัดเรา เคยมีผู้หนึ่งที่บวชเข้ามา เสร็จแล้วก็ตามไปคุกคามพระของเรา ๒ รูป ๓ รูป ที่เขาเห็นแล้วถูกใจ เมื่อโดนไล่ออก ซึ่งความจริงยังไม่ทันที่จะไล่ออก เพราะว่าเขาชิงหนีไปก่อน ก็ไปก่อเหตุในงานบวชสามเณรภาคฤดูร้อนที่อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง แล้วก็อ้างชื่อกระผม/อาตมภาพ บังเอิญว่าเจ้าคณะอำเภอแม่ทะก็รู้จักกัน ท่านโทรมาถาม กระผม/อาตมภาพก็เลยให้จับสึกไปเสีย เพราะว่าหนีจากที่นี่ไปโดยไม่ยอมสึกหาลาเพศ

    หลังจากนั้นไม่นาน ก็ไปปรากฏตัวอยู่ทางด้านชลบุรี บวชใหม่เรียบร้อยแล้ว ไม่ทราบเหมือนกันว่าบวชเพราะว่าห่มเหลืองเอง หรือว่ามีพระอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ไม่รู้พฤติกรรมแล้วบวชให้ แล้วก็ไปแผลงฤทธิ์ในกรุงเทพฯ โดนหลวงพ่อเจ้าคุณเจ้าอาวาสวัดนั้นจับสึก โดยที่หลวงพ่อเจ้าคุณท่านเรียกพวกบรรดากู้ภัยมา ช่วยกันจับถอดจีวรเลย เสียดายอยู่อย่างเดียวว่า ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เพราะว่าบุคคลประเภทนี้ ถ้าหากว่าไม่มีการดำเนินคดี ก็จะไม่เข็ดหลาบ เผลอเมื่อไรก็จะประพฤติปฏิบัติแบบเดิมอีก

    นี่เป็นเรื่องหนึ่ง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ ตามวัดวาอารามที่มีสามเณรจำนวนมาก ๆ และโดยเฉพาะในช่วงบรรพชาหมู่สามเณรภาคฤดูร้อน ซึ่งส่วนนี้จะ
    สร้างความเสียหายให้กับคณะสงฆ์หนักมาก เพราะว่านอกจากผิดพระธรรมวินัยแล้ว ยังมีความผิดทางโลกอีกด้วย
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,415
    ประการที่สอง เรื่องที่เกิดขึ้น เกิดในเขตอำเภอทองผาภูมิของเราเอง ก็คือเจ้าอาวาสที่บวชสามเณรภาคฤดูร้อน จะส่งตัวสามเณรไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพระผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้าสำนักเรียนในกรุงเทพฯ ก็มักจะเสาะแสวงหาสามเณรที่ "มีแวว" จากต่างจังหวัด แล้วก็รับไปอุปการะ ส่งเสียให้เรียน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนปริยัติสามัญ หรือว่าปริยัติธรรมแผนกบาลี

    แต่คราวนี้ปัญหาเกิดตรงที่ว่า พ่อแม่เขาไม่ยอมให้ลูกไป แต่ตัวเจ้าอาวาสที่ท่านจัดบวชสามเณรภาคฤดูร้อนท่านรั้น ไม่ฟังเสียง จะส่งไปให้ได้ ทางพ่อแม่ก็เลยต้องโทรศัพท์แจ้งทางคณะสงฆ์มา จึงได้บอกให้ทางพ่อแม่เขาว่า ไปขอให้ลูกสึกออกจากการเป็นสามเณร จะได้หมดปัญหาไป แต่ถ้าหากว่าทางวัดนั้นไม่ยอมให้สึก ก็ให้แจ้งความไปเลย เนื่องเพราะว่าโดนคดีพรากผู้เยาว์ได้ คำว่าพรากผู้เยาว์ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงว่าเพศตรงข้ามเท่านั้น เพศเดียวกันก็เป็นผู้เยาว์ได้..!

    ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าเรื่องที่ไม่น่าเกิดก็เกิดขึ้น ท่านอาจจะแค่อยากเอาใจพระผู้ใหญ่ หรืออยากจะผูกสัมพันธ์ ก็เลยหาสามเณรหรือพระส่งไปเรียนในสำนักนั้น ไม่ว่าจะด้วยความหวังดี หรือว่าหวังอะไรก็ตาม แต่อย่าลืมว่าเด็ก อันดับแรกเลย อยู่ภายใต้การปกครองของพ่อแม่ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่สาโลหิต เป็นผู้มีอำนาจเต็มตามกฎหมาย ไม่ใช่เจ้าอาวาส

    จำไว้ว่า "สาโลหิต" ไม่ใช่สายโลหิต สมัยนี้มันใช้ภาษาไทยกันผิดเพี้ยนกันไปหมด อย่างเช่นคำว่า "เอาใจออกห่าง" ปัจจุบันนี้พิมพ์เป็นเอาใจออกหากกันหมด แทนที่จะเป็น ง.งู สะกด วรรณยุกต์เอก กลายเป็น ห-า-ก แล้วแปลว่าอะไรวะ ?

    อีกเรื่องหนึ่งก็คือเมื่อถึงเวลาบวชสามเณรแล้ว ก็ไปขอให้ทางด้านพ่อแม่ผู้ปกครองช่วยทำอาหารมาส่ง ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถ้าไม่ได้มากมายจนเกินไปนักก็พอไหว แต่นี่ไประบุว่า ต้องพอเลี้ยงสามเณรจำนวนเท่านั้นเท่านี้ และต้องเป็นอาหารอย่างนั้นอย่างนี้ด้วย เป็นการกะเกณฑ์ญาติโยมให้ได้รับความลำบาก โดยเฉพาะอาจจะเกินกำลังศรัทธาของเขา

    ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า บรรดาปัญหาเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ก็มักจะเกิดขึ้นในแวดวงของพระสงฆ์สามเณรของเราเอง ก็คือขาดสมณสารูป ขาดสมณสัญญา
    คำว่าขาดสมณสารูปก็คือ ลืมไปว่าตนเองเป็นพระภิกษุสามเณร แล้วต้องประพฤติปฏิบัติตนเองอย่างไร ญาติโยมที่เห็นถึงจะเคารพเลื่อมใส
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,415
    บางท่านพกแต่ "ของแบรนด์เนม" ซึ่งกระผม/อาตมภาพไม่เห็นว่ามีความจำเป็นเลย ตอนที่ไปต่างประเทศก็เห็นอยู่ พระบางรูปก็ซื้อ "กระเป๋าสะพายแบรนด์เนม" ราคาใบละหลายหมื่นบาท..! ซื้อ "นาฬิกาแบรนด์เนม" โดยการรูดบัตร เพราะว่าราคาแพงเกินกว่าเงินที่ติดตัวไป เป็นต้น ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า แม้แต่ย่ามที่เราใช้ ถ้าสีฉูดฉาดจนเกินไป ก็ยังไม่เหมาะสมกับสมณสารูป แล้วท่านจะไปใช้กระเป๋าสะพาย "แบรนด์เนม" ? ดูท่าว่าจะไม่ใช่

    ส่วนนาฬิกา ปัจจุบันนี้ใช้โทรศัพท์มือถือก็ได้ หรือถ้าเป็นอย่างกระผม/อาตมภาพสมัยก่อน ก็ใช้นาฬิกาข้อมือ ถอดสายออก ใส่ไว้ในกระเป๋าอังสะ ถึงเวลาก็หยิบขึ้นมาดูเวลา แล้วอย่างนั้นจำเป็นอะไรที่ต้องไปใช้ของ "แบรนด์เนม" ราคาแพง ๆ เพราะว่าเอาไว้แค่ดูเวลาแค่นั้น

    อีกส่วนก็คือขาดสมณสัญญา ลืมไปว่าตัวเองเป็นพระภิกษุสามเณร มักจะคิดว่าเป็นเจ้านายชาวบ้าน ทั้ง ๆ ที่ถ้าชาวบ้านไม่ใส่บาตรให้ฉันก็หมดสภาพแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ส่วนใหญ่แล้วพวกเรานี่เอง ที่ทำให้บรรดาเรื่องไม่ดีไม่งามต่าง ๆ เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา

    แล้วอย่างในปัจจุบัน ที่ซีรีส์เรื่องสาธุกำลังโด่งดัง ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ดู เนื่องเพราะว่าไม่ได้ฟังวิทยุ ไม่ได้ดูโทรศัพท์มาก็ ๔๐ ปีแล้ว แต่เข้าใจได้เลยว่าการสร้างซีรีส์นี้ขึ้นมา
    ถ้าบุคคลที่มีศรัทธามั่นคง ก็จะไม่หวั่นไหวอะไร เพราะแยกแยะออกว่าสิ่งใดควรศรัทธา สิ่งใดไม่ควรศรัทธา

    แต่ถ้าหากว่าบุคคลที่ศรัทธาไม่มั่นคง ไม่แน่นแฟ้น ก็จะหลุดจากวงโคจรไป ส่วนบุคคลที่ไม่เลื่อมใสศรัทธา ถ้าเห็นเข้าก็ยิ่งหนีห่างออกไปอีก ก็แปลว่าการสร้างซีรีส์นี้ขึ้นมา เกิดความเสียหายกับพระพุทธศาสนามากกว่าที่จะเกิดผลดี
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,840
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,572
    ค่าพลัง:
    +26,415
    แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะลืมไม่ได้เลย ก็คืออันดับแรก ฝ่ายนักบวชอายุมาก ไม่ทันโลก เชื่อคนง่าย มีโอกาสที่จะเป็นตามซีรีส์นั้นมากที่สุด ส่วนบรรดาญาติโยมทั้งหลาย ถ้าหากว่าปล่อยให้ รัก โลภ โกรธ หลง ครองใจ ก็จะโดนคนอื่นครอบงำด้วยการแบ่งปันผลประโยชน์ให้ หรือไม่ก็ตั้งตัวเป็นมาเฟียภายในวัดเสียเอง..!

    สิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประพฤติปฏิบัติ ในครั้งแรกที่ส่งหมู่พระสงฆ์ออกไปประกาศพระพุทธศาสนา เราไม่สามารถทำได้ในปัจจุบัน ก็คือ
    พระสงฆ์ที่พระองค์ส่งไปทั้ง ๖๐ รูป เป็นพระอรหันต์ทั้งหมด..!

    ในปัจจุบันของเรา ถ้าหากว่าในช่วงพรรษา ก็มีพระภิกษุสามเณรประมาณสองแสนรูป แต่ว่าเราจะหาพระอริยเจ้าได้สัก ๒ เปอร์เซ็นต์ก็แสนยาก ก็แปลว่าบุคคลที่จะทำให้เสียหายมีถึง ๙๘ % บุคคลที่จะช่วยรักษาพระศาสนามีประมาณ ๒ % เท่านั้น

    แต่มองอนาคตแล้ว อย่าเพิ่งท้อใจ เนื่องเพราะว่าถ้าบุคคลที่เป็นพระอริยเจ้าแล้ว กำลังใจท่านจะเย็น ใครอยู่ใกล้ก็รู้สึกดี มีแรงดึงดูดผู้คนโดยอัตโนมัติ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถึงจะเป็นส่วนน้อย แต่ก็สามารถรักษาสถานการณ์ใหญ่เอาไว้ได้
    จึงไม่ใช่เรื่องที่เราท่านทั้งหลายฟังแล้วจะหมดกำลังใจ หากแต่ฟังแล้ว ต้องรีบตะเกียกตะกาย ส่งตัวเราเอง ขึ้นไปให้สูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้ เพื่อที่จะไปช่วยกันค้ำจุนพระพุทธศาสนา ให้คงอยู่จนกระทั่งครบถ้วน ๕,๐๐๐ ปี

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...