เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 14 สิงหาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2023
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องนำญาติโยมผู้บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ รุ่นที่ ๖/๒๕๖๖ เจริญพระกรรมฐานตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง ต่อด้วยการทำวัตรเช้า แล้วออกบิณฑบาตตามปกติ เมื่อกลับมาฉันเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นำญาติโยมทั้งหมดภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง

    เมื่ออุทิศส่วนกุศลและรับการทำบุญจากญาติโยมแล้ว
    กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวออกเดินทาง มุ่งไปยังวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เพื่อใช้หนี้ที่ญาติโยมได้ช่วยจ่ายให้ก่อน ในการสร้างพระแก้วประจำพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ซึ่งงวดสุดท้ายก็จำนวน ๖๐๐,๐๐๐ บาท แต่ว่าทางด้านบริษัท แอลดับบลิวเอ็น ทรีดี จำกัด ได้ลดให้ ๕๐,๐๐๐ บาท โดยถวายคืนมาเป็นการร่วมบุญกับทางวัดท่าขนุน

    เมื่อใช้หนี้เสร็จเรียบร้อย
    กระผม/อาตมภาพก็เดินทางตรงมายังจังหวัดสระบุรี ซึ่งจะต้องทำการตรวจประเมินหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ที่วัดนิคมวาสี ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งวัดนี้จะอยู่ใกล้เคียงกับวัดซับชะอม ของ ดร.พระมหาชยันต์ (พระครูพิพิธปริยัติกิจ, ผศ.,ดร.) เจ้าอาวาสวัดซับชะอม เจ้าคณะตำบลเขาวง ซึ่งเป็นเพื่อนฝูงกัน

    เมื่อเดินทางมาถึง ทางด้านคณะกรรมการต้อนรับของจังหวัดสระบุรีแจ้งว่า ให้เข้าพักที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมมงคลนานาชาติ แต่ปรากฏว่ากูเกิ้ลแมพพา
    กระผม/อาตมภาพวนอยู่รอบใหญ่ หาศูนย์ฯ ไม่เจอ จนกระทั่งต้องโทรหาผู้ประสานงาน ซึ่งแจ้งว่าเป็นอารมณ์ดีรีสอร์ท สถานที่แห่งนี้ได้ปิดตัวลงในช่วงเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดหนัก จนกระทั่งป่านนี้ก็ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ จึงได้ประเดิมด้วยการเปิดให้คณะกรรมการตรวจประเมินหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบของหนกลาง เข้ามาพักก่อนเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย กระผม/อาตมภาพเมื่อได้ที่พักเรียบร้อยแล้ว จึงมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนให้กับทุกท่านอยู่ในขณะนี้

    ในเรื่องของจังหวัดสระบุรีนั้น ต้องบอกว่ามีสิ่งสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ก็คือพระพุทธบาท (สระบุรี) แล้วอีกสถานที่หนึ่งซึ่งสำคัญพอ ๆ กันก็คือพระพุทธฉาย (สระบุรี)

    แต่เนื่องจากว่าพระพุทธบาทนั้น ได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูจากสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรมของกรุงศรีอยุธยา จึงทำให้มีชื่อเสียงเลื่องลือมาตั้งแต่โบราณ จนทำให้หลายท่านไม่รู้จักพระพุทธฉายไปเลย ทั้ง ๆ ที่ทางด้านวัดพระพุทธฉายนั้น นอกจากพระพุทธฉายแล้ว ก็ยังมีรอยพระพุทธบาทอยู่อีกหนึ่งรอย
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    รอยพระพุทธบาททั้ง ๒ รอยนี้ ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเหยียบพระบาทขวาเอาไว้ที่ยอดเขาพระพุทธบาท แล้วเหยียบพระบาทซ้ายเอาไว้ที่ยอดเขาพระพุทธฉาย อยู่ในลักษณะเหมือนคนก้าวเดินตามปกติ เพียงแต่ว่าก้าวของพระองค์ท่านนั้นมากกว่าคนปกติทั่วไป จึงได้ไกลเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร..!

    ทางด้านประเทศพม่านั้น ไม่ว่าสิ่งสำคัญอะไรในพระพุทธศาสนา ก็พยายามที่จะดึงเอาไว้ในบ้านของตนเอง อย่างเช่นว่าสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดญาติโยมที่สุวรรณภูมิ ทางด้านพม่าก็ไปปักหลักหินเอาไว้ที่
    วัดชุยซายาน เมืองตะโทง (สุธรรมวดี) อ้างว่านั่นเป็นสถานที่แห่งแรกที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจาริกสู่สุวรรณภูมิ ซึ่งคำว่า ชุยซายาน ก็คือจาริกสุวรรณภูมินั่นเอง

    ส่วนในเรื่องของรอยพระพุทธบาทของพม่านั้นอยู่ที่เมืองมินบู โดยที่รอยพระพุทธบาทรอยขวานั้นอยู่ที่ตีนเขา รอยพระพุทธบาทรอยซ้ายอยู่ที่ยอดเขา ซึ่งดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติ และไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องเพราะว่าเปรียบเสมือนอย่างกับเก้าอี้ตัวหนึ่ง แล้วเรายืนชิดเก้าอี้ด้วยเท้าขวา ยกเท้าซ้ายขึ้นเหยียบเก้าอี้ โดยอ้างว่าเดินไปนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้..!

    แต่ทางพม่าก็พยายามที่จะหาประวัติมา แล้วอ้างให้ได้ว่าสถานที่แห่งนั้นอยู่ในประเทศของตนเอง เพื่อสร้างความสำคัญขึ้นมา ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ไปค้างคืนค้างแรมที่นั่นเพื่อร่วมงานฉลองรอยพระพุทธบาทประจำปีมาแล้ว เมื่อพิจารณาดูแล้ว ไม่มีความใกล้เคียงเป็นรอยพระพุทธบาทเลย เนื่องจากว่าเป็นหลุมกลม ๆ ขนาดใหญ่ ถ้าหากว่าเป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์บรอนโตซอรัส เหยียบเอาไว้ก็จะน่าเชื่อถือมากกว่า..!

    แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้น เราไม่สามารถที่จะไปเอาความแท้ความเทียมได้ เนื่องเพราะว่า
    ขึ้นอยู่กับศรัทธาของบุคคล ถ้าหากว่าบุคคลศรัทธา ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จัดเป็นพุทธานุสติเหมือนกัน

    เพียงแต่ว่าการที่จะดึงอะไรเอาไว้ที่ในประเทศของตนเองนั้น ขอให้คำนึงถึงความเป็นจริงด้วย เพราะว่าหลายต่อหลายอย่างนั้น ถ้าหากว่านับตามระยะทางในพระไตรปิฎกแล้ว ระยะทางก็ไกลเกินกว่าที่ประเทศพม่ามีอยู่ แต่ทางด้านประเทศพม่าก็พยายามที่จะอ้างอิง แม้กระทั่งสถานที่โปรดอสุรินทราหู ทางด้านพม่าก็กำหนดจุดไว้ที่พระเจดีย์ไจ๊กะเลาะ เมืองย่างกุ้ง
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    เราลองมานึกถึงว่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง หรือที่เรียกตามภาษาพม่าว่า ชุยดากงพะยา นั้น ก็อยู่ห่างจากพระเจดีย์ไจ๊กะเลาะไปไม่ไกล และเป็นสถานที่ซึ่งพม่าอ้างว่าตปุสสะกับภัลลิกะ พาณิชย์สองพี่น้องซึ่งถวายสัตตุก้อน-สัตตุผงแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และปฏิญาณตนเป็นเทววาจิกอุบาสก ก็คืออุบาสกผู้ถึงรัตนตรัยแค่เพียงสอง คือพระพุทธและพระธรรมเท่านั้น เพราะว่าช่วงที่พระองค์ตรัสรู้ใหม่ ๆ ยังไม่มีพระสงฆ์ แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทานเกศา ๘ เส้นให้แก่ตปุสสะกับภัลลิกะ พาณิชย์สองพี่น้องรับไปแล้ว ได้สร้างพระสถูปเจดีย์บรรจุไว้

    ทางด้านประเทศพม่าบอกว่าพระสถูปเจดีย์นั้น คือ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง โดยที่อ้างว่าพาณิชย์สองพี่น้องนั้นเป็นพ่อค้าชาวมอญ ซึ่งเดินทางไปค้าขายที่ประเทศอินเดียหรือชมพูทวีปในสมัยนั้น โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงว่าชมพูทวีปในสมัยนั้น เป็นการครอบคลุมพื้นที่ทั้งเอเชียกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบทั้งหมด..!

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าบอกว่าตปุสสะกับภัลลิกะเป็นคนไทยก็น่าจะอ้างได้ โดยว่าคนไทยชื่อนายพันและนายบุตร เดินทางไปค้าขายที่ชมพูทวีป แล้วได้พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฟังชื่อเสียงแล้ว
    ยังใกล้เคียงกว่าภาษาพม่าตั้งเยอะ เป็นต้น

    เรื่องพวกนี้เราจะไม่เสียเวลามาถกเถียงกัน เพียงแต่ว่าถ้าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ประเทศพม่าทั้งหมด ต้องคำนึงด้วยว่ามหาชนบทในสมัยนั้น รวมพื้นที่กันแล้วใหญ่โตกว่าประเทศพม่าตั้งมากมาย แล้ว ๗ แคว้นที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดเป็นประจำนั้น ก็กว้างใหญ่ไพศาลกว่าประเทศพม่าในปัจจุบันนี้มาก นอกจากนั้นพระองค์ท่านยังเสด็จไปโปรดที่สุวรรณภูมิอีกต่างหาก

    ถ้าอ้างว่าเมืองเวสาลีอยู่ในประเทศพม่า แล้วจะทำให้ทางด้านอื่น ๆ ของเขา อย่างเช่นว่าสุวรรณภูมิอยู่ในประเทศพม่าด้วยก็ย่อมไม่ใช่ เพราะว่าต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงจะเป็นสุวรรณภูมิ จะอ้างว่าเดินทางทางเรือ แล้วเข้ามาทางด้านอ่าวเบงกอลก็ได้ แต่ว่าเราต้องคำนึงว่า ในเมื่อสถานที่หนึ่งอยู่ภายในประเทศของตนเองแล้ว ทำไมถึงต้องลงเรืออ้อมโลกไปด้วย ? สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าสามารถดึงศรัทธาญาติโยมให้เกาะอยู่กับอนุสติได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคำนึงถึงความเป็นจริงสักหน่อย ทำให้ประวัติศาสตร์อ้างอิงนั้นน่าเชื่อถือมากขึ้น ก็จะทำให้ดียิ่งไปกว่านี้

    จังหวัดสระบุรีนั้นพวกเราจะต้องไม่ลืมว่า มีเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ท่านก็อยู่ที่นี่ และท่านเคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอพระพุทธบาทมาก่อน เพียงแต่ว่าเจ้าคุณหลวงตาท่านรำคาญเรื่องราววุ่นวายในการปกครอง จึงได้ลาออกจากงาน แล้วได้รับการยกขึ้นเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรีแทน
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    เมื่อกระผม/อาตมภาพได้ห้องพักแล้ว ลงมาเพื่อที่จะนำข้าวของขึ้นสู่ห้องพัก ก็ได้พบพระเดชพระคุณพระเทพเสนาบดี (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ.๔) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี หรือที่เรียกกันแบบคุ้นเคยว่า หลวงพ่อเจ้าคุณประเทือง เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี คณะกรรมการบริหารกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ (หนกลาง) และเมื่อเดินมาถึงปากประตู เจ้าของสถานที่ก็คือ พระเดชพระคุณพระราชวชิรมงคลวิสิฐ (อาทิตย์ สิริวฑฺฒโน) เจ้าอาวาสวัดมงคลชัยพัฒนา เจ้าคณะจังหวัดสระบุรีรูปปัจจุบัน ก็เข้ามาต้อนรับพอดี

    เมื่อปฏิสันถารกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพได้ถวายของดีจังหวัดกาญจนบุรี ก็คือแหวนพิรอดวงใหญ่ ของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ๑ ใน ๙ เครื่องรางสะท้านแผ่นดินในตำนาน ก็คือ "แหวนอักขระวัดหนองบัว" เป็นการมุทิตาสักการะ ที่ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณชั้นราช เพราะว่าในงานของท่าน กระผม/อาตมภาพก็ไม่สามารถที่จะปลีกตัวมาได้ เนื่องจากติดภารกิจที่อื่น จึงได้ทำการมุทิตากันตรงนี้เอง

    ช่วงนี้บรรดาพระเถระที่มาร่วมงานตรวจประเมิน ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการอำนวยการกลางก็ดี คณะกรรมการดำเนินงานกลางก็ดี หรือว่าคณะอนุกรรมการดำเนินกลางก็ตาม ได้ทยอยกันเข้ามายังที่พัก

    อารมณ์ดีรีสอร์ทนั้น มีทั้งอาคารเดี่ยวและอาคารรวม พวกเราได้พักอยู่ที่ตึกใหญ่อาคารรวม โดยเฉพาะชั้น ๔ เป็นของพระเถระที่มาร่วมงานตรวจประเมินหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบครั้งนี้ ส่วนชั้น ๓ เป็นของบรรดาพนักงานขับรถ แต่ละห้องก็มี ๒ เตียงใหญ่ ๆ ให้ใช้งานกัน กระผม/อาตมภาพเองก็คงจะใช้งานแค่ครึ่งเตียงเหมือนเดิม เนื่องเพราะว่าเป็นคนนอนไม่ดิ้น

    ด้วยความที่สมัยเรียนอยู่โรงเรียนทหารนั้น เขาจะมีเตียงให้ เป็นแผ่นประตูไม้ ซึ่งแผ่นประตูห้องนั้นก็คือกว้าง ๘๐ เซนติเมตร ยาว ๒.๔๐ เมตร ถ้าหากว่าท่านใดนอนดิ้น ก็มีหวังได้ลงไปนอนใต้เตียงแน่นอน..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ด้วยความที่นอนระมัดระวังจนเคยชิน ทำให้มาเจอเตียงขนาดปกติ จึงใช้แค่ครึ่งซีก ถ้าหากว่าเป็นเตียงคู่ ก็ใช้แค่ ๑ ใน ๓ เท่านั้น บรรยากาศด้านหลังห้องพักเป็นทิวเขาที่เขียวขจีงดงามมาก เพราะว่าช่วงนี้เป็นหน้าฝน

    ส่วนในเรื่องของน้ำปานะและลงไปพูดคุยนั้น กระผม/อาตมภาพคงไม่ได้ไปร่วมวงด้วย เพราะว่าไม่เคยชินกับการฉันน้ำปานะต่าง ๆ มาเป็นระยะเวลา ๓๐ กว่าปีแล้ว เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า รำคาญที่เวลาออกธุดงค์แล้วต้องขนเอาสิ่งโน้นสิ่งนี้ไปด้วย จึงตัดใจละทิ้งทั้งหมด เหลือเพียงน้ำร้อนหลังอาหารมื้อเพลเท่านั้น มาระยะหลัง ท่านอาจารย์บ๊ะ (พระศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิ์ลังกา ตรวจอาการเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว สั่งให้ฉันน้ำชาเป็นประจำให้ได้อย่างน้อยวันละ ๒ ลิตร จึงเปลี่ยนมาเป็นน้ำชาแทนในทุกวันนี้

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...