เรื่องเด่น เมื่อโควิดกลับมาเยือน ‘จีน’ จึงต้องกลับมาปิดเมือง (ชั่วคราว) อีกครั้ง

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ เตือนภัย, 30 กรกฎาคม 2020.

  1. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    0b884e0b8a7e0b8b4e0b894e0b881e0b8a5e0b8b1e0b89ae0b8a1e0b8b2e0b980e0b8a2e0b8b7e0b8ade0b899-e0b888.jpg

    30 กรกฎาคม 2563


    43

    จีนรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 101 คน วันเดียวสูงสุดในรอบ 3 เดือน อินเดียติดเพิ่ม 5 แสนคนใน 12 วัน รวมถึงออสเตรีย และเวียดนาม ก็พบผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้หลายเมืองทั่วโลกต้องล็อกดาวน์กิจการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดกันอีกครั้ง


    วานนี้ (29 ก.ค.) จีนรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) 101 คน สูงสุดใน 1 วัน ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ในจำนวนนี้เป็นการติดเชื้อในประเทศ 98 คน ส่วนใหญ่อยู่ในเขตซินเจียงทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่มีกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลังจากพบรายแรกเมื่อหลายวันก่อน กระตุ้นให้ทางการต้องตรวจหาเชื้อจากประชาชนจำนวนมากและออกมาตรการควบคุม

    ครั้งสุดท้ายที่จีนรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เป็นจำนวนมาก 108 คน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ

    ขณะนี้ทางการพุ่งความสนใจไปที่กลุ่มก้อนที่ปรากฏขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ณ โรงงานแปรรูปอาหารแห่งหนึ่งในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ที่คนงานต้องจัดการกับแพ็กเกจซีฟู้ดปนเปื้อนนำเข้าจากต่างประเทศ

    สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้าเหลียนพบผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 52 คน ในจำนวนนี้ 30 คนเป็นคนงานในโรงงานดังกล่าว

    จ้าวเหลียน ประธานคณะกรรมการสาธารณสุขเมืองต้าเหลียน แถลงว่าประชาชนในเมืองได้รับการตรวจหาเชื้อแล้วกว่า 3 ล้านคน สถานที่สาธารณะ เช่น ห้องสมุด ยิม บาร์ พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร และสปาปิดบริการแล้ว

    ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจเมืองต้าเหลียนในสัปดาห์นี้ รองนายกรัฐมนตรีซุน จุ้นหลาน ขอให้หน่วยงานท้องถิ่นเพิ่มการตรวจตราสินค้านำเข้า รวมทั้งผู้คนที่ออกจากเมืองต้าเหลียน

    หลังจากโควิด-19 ระบาดในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือน มิ.ย. มีประชาชนติดเชื้อกว่า 300 คน ทางการต้าเหลียนก็ใช้มาตรการควบคุมไวรัสแบบเดียวกัน โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายตามระดับความเสี่ยง

    ส่วนเวียดนามที่ปลอดไวรัสมาหลายเดือน กำลังเตรียมพร้อมรับมือการระบาดรอบใหม่ หลังจากสื่อรัฐรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ และเซ็นทรัลไฮแลนด์ เกี่ยวข้องกับการระบาดรอบล่าสุดที่เมืองดานัง ทางภาคกลางของประเทศ

    นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวนฟุก แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์เวียดนามว่า การติดเชื้อรอบปัจจุบันแตกต่างจากการติดเชื้อระลอก 2 เมื่อเดือน มี.ค. ทุกจังหวัดและทุกเมืองกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง

    ทั้งนี้ เวียดนามมีโครงการกักตัวรวมศูนย์และระบบตามรอยโรคเชิงรุก จึงควบคุมยอดผู้ติดเชื้อไว้ได้ที่ 446 คนเท่านั้น ทั้งๆ ที่มีพรมแดนติดกับจีน และด้วยจำนวนประชากรกว่า 95 ล้านคน เวียดนามจึงเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากโควิดเลย จนกระทั่งเกิดการติดเชื้อในชุมชนรอบล่าสุดจากเมืองดานัง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง

    นายกฯ เวียดนามเตือนให้ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทั่วประเทศเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง และล็อกดาวน์เมืองดานังอย่างเข้มงวด

    ที่กรุงฮานอย คนงานร้านพิซซ่าคนหนึ่งเพิ่งกลับมาจากดานัง ตรวจพบว่าติดโควิด ทางการต้องปิดร้านเพื่อฆ่าเชื้อ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขยังไม่ได้ยืนยันผู้ติดเชื้อรายใหม่

    วานนี้ เวียดนามรับตัวคนงานก่อสร้าง 120 คน กลับจากอิเควทอเรียลกินีในแอฟริกาตะวันตก โดยทั้งหมดต้องเข้าโรงพยาบาลนอกกรุงฮานอย

    ที่ออสเตรเลีย ทางการส่งทหารและทีมแพทย์ฉุกเฉิน ที่ปกติใช้ในพื้นที่ภัยพิบัติ เข้าไปยังบ้านพักคนชราในนครเมลเบิร์น เพื่อช่วยสกัดการแพร่ระบาดที่รุนแรงที่สุดของประเทศ ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อ 804 คน เกี่ยวข้องกับบ้านพักคนชราเหล่านี้

    นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน เผยว่า กังวลมากกับสถานการณ์ที่บ้านพักคนชรา 13 แห่งในรัฐวิกตอเรีย ที่มีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก

    ที่อินเดีย จำนวนผู้ติดเชื้อเกิน 1.5 ล้านคน เสียชีวิตเกือบ 35,000 คน แต่แม้จำนวนจะพุ่งขึ้น และต้องล็อกดาวน์หลายพื้นที่เพิ่มเติม นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า อินเดียดีกว่าประเทศอื่น และได้รับคำชื่นชมจากนานาชาติ

    เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขตอนนี้ไม่รายงานยอดรวมผู้ติดเชื้อแล้ว เพราะรัฐบาลเน้นเรื่องจำนวนคนหายป่วยมากกว่า วานนี้รายงาน ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เกือบ 50,000 คน เสียชีวิตเพิ่ม 768 คน

    อินเดียที่มีเมืองประชากรหนาแน่นที่สุดในโลกอยู่หลายเมือง อีกทั้งค่าใช้จ่ายดูแลสุขภาพต่อหัวประชากรยังต่ำที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง เพิ่งผ่านหลักติดเชื้อ 1 ล้านคนเมื่อ 12 วันก่อนแต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า อินเดียยังตรวจหาเชื้อไม่มากพอ อีกทั้งการเสียชีวิตจากโควิด-19 หลายกรณีไม่ได้รับรายงาน

    ส่วนความคืบหน้าเรื่องวัคซีน ไฟเซอร์อิงค์ กล่าวว่า ประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ จะต้องจ่ายเงินซื้อวัคซีนเท่ากับที่บริษัททำสัญญากับสหรัฐ

    รัฐบาลสหรัฐเห็นชอบจ่ายเงินเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์ ซื้อวัคซีนโควิด-19 ที่ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค เอสอี บริษัทเยอรมนีกำลังพัฒนา เพื่อฉีดให้กับประชาชน 50 ล้านคนในราคา 39 ดอลลาร์ต่อวัคซีน 2 โดสในการรักษา

    ผู้บริหารไฟเซอร์คาดว่า ประชาชนจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนต่อเนื่องหลายปี เพื่อรักษาภูมิคุ้มกันหมู่ทั่วโลก เนื่องจากภูมิคุ้มกันอาจหายไปหากไวรัสกลายพันธุ์



    ขอบคุณที่มา
    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/891438
     

แชร์หน้านี้

Loading...