อาบัติสังฆาทิเสส

เคยบวชพระแล้วทำอาบัติสังฆาทิเสสไว้ 4 เดือน ไม่เคยแก้อาบัติ ก็สึกมาเป็นฆราวาส จะมีโทษกับฆราวาสนั้นหรือไม่ ถ้ามีจะแก้อย่างไรครับ (ชาตินี้หมายมรรคผลนิพพานได้หรือไม่ครับ) กราบขอบพระคุณครับ

 

บุคคลที่มีอาบัติสังฆาทิเสสติดตัวอยู่ไม่สามารถเข้าถึงมรรผลได้น่ะครับ จากที่เคยอ่านมาจากมิลินทร์ปัญหา แนะนำว่าควรไปแก้อาบัติเสียให้ตกก่อน่ะครับ

 

สามัญชนที่กลัวต่อบาป เท่าที่เคยได้ยินมาคือ ส่วนใหญ่เขาใช้วิธีการ บวชเข้าไปอีกครั้ง และ เข้าร่วมการปริวาสกรรม จนครบกำหนดครับ

การต้องอาบัติแล้วไม่แก้อาบัติซะก่อน มีโทษเมื่อสึกออกมาเป็นคนธรรมดาแน่นอนครับ ชีวิตไม่มีความเจริญก้าวหน้า มีแต่ตกอับ เคยเห็นมาหลายคนแล้วเหมือนกัน

 

แก้ก่อน

 

ที่สงสัยคือไม่ได้อยู่ในเพศภิกษุแล้วครับ ในมิลินทปัญหาบอกว่า ผู้ที่ไม่สามารถบรรลุมรรค ผลนิพพานได้มีดังนี้ ข้อ 6 พระภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วไม่ได้อยู่กรรม จึงสงสัยว่าเมื่อเป็นฆราวาสแล้วยังมีโทษหรือไม่ ต้องบวชแล้วแก้อาบัติ หรือสามารถแก้อาบัติในเพศฆราวาสได้ หรือเมื่อเป็นฆราวาสไม่เกี่ยวกับสงฆ์ก็หมดโทษ ดังอาบัติที่โทษรองลงมาครับ

 

อืม ข้อนี้ ผมก็อยากทราบครับว่าถ้าสึก ออกมาแล้ว ทำอย่างไรจึงจะหมดโทษตรงนั้นได้บ้างครับ หรือสามารถแก้อาบัติในเพศฆราวาสได้หรือไม่ครับใครรู้ตอบที ....

 

***** เอ ...อันนี้ด้วยครับ อย่างพี่นายสมเกียรติ บอกข้างบนว่า ต้องอาบัติมา 4 เดือน แล้ว สึกออกมาสมมุติว่า 5 ปี แบบนี้ เวลาไปอยู่กรรมนี่ต้องไปอยู่ 5 ปี 4 เดือนหรือ แค่ 4 เดือนที่เป็นพระครับ

 

ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ปุถุชนนะครับ อารมณ์ใจยังไม่ถึงคำว่าอริยะ(อริยะ แปลว่าเจริญแล้ว ไม่เสื่อมถอยแล้ว มีความมั่นคง) ความไม่แน่นอนของใจ ความไม่มั่นคงหวั่นไหวไปในกระแสโลกย่อมมี การผิดศิล ผิดธรรมย่อมมี มนุษย์ทุกรูป ทุกนาม มีทั้งดี และชั่วสั่งสมอยู่ในจิตดวงเดียวกันนี้แหละ ถ้าได้อ่านศึกษาพระไตร หรือธรรมะ ขนาดเทวดา หรือพระพหรม ที่ท่านเสวยความสุขที่เป็นทิพย์วิมาน บางองค์ บางท่าน พอหมดบุญ ก็ต้องไปใช้กรรมในนรก เพราะอาศัยช่วงเวลาที่เกิดเป็นคนทำทั้งบุญและบาป แต่วลาตายจากคนกำลังใจไปจับส่วนที่เป็นกุศลก็ไปรับผลของความดีที่ทำไว้ก่อน หมดบุญหมดวาสนาก็ต้องไปชดไช้กรรมชั่วที่ตัวทำไว้ อนันตริยกรรมคือกรรมห้าอย่าง ที่ผู้ได ได้ล่วงหรือกระทำแล้ว ปิดสวรรค์ มรรคผลนิพพาน ที่พระพุทธเจ้าที่ พระองค์ท่านได้ตรัสไว้มีอยู่ 5 อย่างตามพระไตรปิฏก 1ได้ทำไห้พระพุทธเจ้าทรงพระโลหิต(ห้อเลือด)ดูเทวทัตเป็นต้น 2 ฆ่าพระอรหันต์ 3 สังฆเภทยุยงไห้พระสงฆ์แตกออกเป็นสองฝัก สองฝ่าย 4ฆ่าพ่อ (ดูพระเจ้าอชาติศัตรูเป็นหลัก)5ฆ่าแม่ ห้าอย่างนี้ถ้าใครทำแล้วต้องไปชดไช้กรรมชั่วก่อน จะทำบุญใหญ่ บุญหนักสักเพียงใด เอาไว้ที่หลังกำลังบุญช่วยไม่ได้ เราเป็นฆราวาสแล้ว เป็นปุถุชนถ้าอยากรอดจากกรรมเก่า ก็มีศิลห้ารองรับนะ เป็นศิลของคนธรรมดาเรานี่เองศิลห้ารักษาได้ ทรงได้คงไม่ยากเกินไปไช่ไหมครับ รักษาไว้ไห้ได้ตลอดชีวิตนะ แต่ถ้าอยากจะเป็นพระมันยังเป็นไม่ได้นะ เพราะติดอาบัติข้อสังฆาทิเสสอยู่ ตามที่ได้ยินได้ฟังจากท่านพระที่ท่านรู้นะ ท่านบอกไห้บวชเป็นเณรเข้าไปก่อนนะ แล้วก็ไปแสดงอาบัติว่าตั้งแต่วันที่เราละเมิด จนถึงวันสึกออกมาปกปิดมานานกี่วันแล้ว และก็ไปอยู่ปริวาสกรรมจนครบวันที่เราทำอาบัติครั้งแรก จนถึงวันสึก พอครบก็จะมีการสวดญัตติความเป็นพระ สถานที่ปริวาสกรรมพอพระท่านอยู่ปริวาสเสร็จ ก็จะมีการสวดญัตติหรือ อุปสมบทไหม่กันทุกที่แหละครับ เกร็ดความรู้นะครับการสวดญัตติห้ามมีพระที่เป็นปราชิกร่วมอยู่ในสังฆกรรมนั้นด้วยนะครับ รักษาศิล ทาน ภาวนาไห้เป็นปกตินะครับ พระพุทธเจ้าพระองค์ได้ตรัสไว้นะครับ อย่าไปตามนึกถึงความชั่วที่เราทำไว้ในอดีต พระพทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า 1หยุดทำความชั่ว 2 ทำแต่ความดี 3 ทำใจไห้ใสสอาด และอีกอย่างหนึ่งถ้าทำได้ทรงตัวจะดีมาก คือพอที่จะปิดอบายภูมิได้ ข้อ1รักษาศิลห้าไห้บริสุทธิ์2เคารพในพระรัตนตรัยด้วยใจจิง3นึกถึงความตาย(จะได้ไม่ประมาท มัวเมาในชีวิต )4ตั้งใจว่าตายแล้วขอไปพระนิพาน ขึ้นชื่อว่าร่างกายแบบนี้นะ ขอมีชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ตั้งกำลังใจไว้แบบนี้ก่อน แล้วก็ค่อยๆทำไป ค่อยๆลด ละ เลิก (มองร่างกายตามความเป็นจิง อย่างเลือดเนียะเรารังเกียจไช่ไหมว่าเหม็นคาว เปียกชื้น แต่ใจเรา จิตเราน่ะ จมอยู่กะมันกองเลือด ตั้งแต่หัวจรดเท้าอาบไปด้วยเลือด ร่างกายที่เราอาศัยอยู่เจาะตรงศรีษะเลือดก็ไหลออก เจาะตรงปลายเท้าเลือดก็มี ยกตัวอย่างไห้เห็นนะ มีอย่างอื่นอีกมากเกี่ยวกะกายที่เราอาศัยอยู่พิจรณาไห้ออก)