เรื่องเด่น อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๔๖ : หลวงปู่ขนมจีน

ในห้อง 'อดีตที่ผ่านพ้น' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 2 กันยายน 2019.

  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,191
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,510
    ค่าพลัง:
    +26,343
    46.jpg
    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๔๖ : หลวงปู่ขนมจีน

    วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี มีประวัติยาวนานหลายร้อยปี ด้วยสร้างมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา เจ้าอาวาสองค์แรกคือหลวงปู่ปาน (ซึ่งชื่อไปซ้ำกับหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค) และมีความรุ่งเรืองเสื่อมโทรมสลับกันไปหลายวาระด้วยกัน...

    ขณะที่ “หลวงพ่อ” ยังจำพรรษาอยู่ที่วัดสะพาน จังหวัดชัยนาท คืนหนึ่งหลวงปู่ปาน วัดท่าซุง ไปปรากฏองค์และบอกว่า วัดท่าซุงนี้เป็นวัดที่ “หลวงพ่อ” เคยบูรณะมาสองครั้งแล้ว ขอให้ “หลวงพ่อ” ช่วยบูรณะขึ้นมาอีกสักครั้งเถิด...

    หลังจากนั้นไม่นาน พระครูสังฆรักษ์อรุณ อรุโณ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงในขณะนั้น ก็พาญาติโยมหลายคันรถไปรับ “หลวงพ่อ” แห่แหนมายังวัดท่าซุง “หลวงพ่อ” ท่านก็ทำพิธีบวงสรวงบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง และเจ้าอาวาสเก่าทุกองค์ที่มรณภาพไปแล้ว ขอความอนุเคราะห์ให้การบูรณะวัดมีแต่ความสะดวกด้วย....

    “หลวงพ่อ” เมตตาเล่าว่า บรรดาเจ้าอาวาสเก่าทั้งหลายมากันหมด ยกเว้นองค์หนึ่งทำลับ ๆ ล่อ ๆ จนต้องเชิญซ้ำจึงยอมเข้ามา องค์นี้ท่านบอกว่าท่านชื่อเส็ง เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่สองถัดจากหลวงปู่ปานลงมา...

    ท่านบอกว่าท่านชอบขนมจีนทุกประเภท ถ้า “หลวงพ่อ” จะทำอะไร ให้จัดขนมจีนบูชาท่าน ๑ ที่ ท่านจะสงเคราะห์ให้ และบอกว่า “หลวงพ่อ” จะสร้างโบสถ์เสร็จภายในสามปี ซึ่งต่อมาก็เป็นดังนั้นจริง ๆ ต่อมาไม่ว่าใครเดือดร้อนอะไร ก็ไปบอกกล่าวให้ท่านสงเคราะห์ พอสำเร็จก็แก้บนด้วยขนมจีนกันทุกบ่อย ไป ๆ มา ๆ พวกเราเลยเรียกท่านตามความสะดวกลิ้นว่าหลวงปู่ขนมจีน ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา...

    หลวงปู่ขนมจีนท่านรับผิดชอบด้านความประพฤติ และความเป็นอยู่ของพระและฆราวาสในวัด คอยให้การสงเคราะห์เรื่อยมา จน “หลวงพ่อ” ดำริจะสร้างมณฑปถวายท่าน จึงมีบัญชาให้จัดที่บูชาขึ้นมา ๑ ที่ ด้านมุมตะวันตกเฉียงใต้ของโบสถ์...

    อาตมาช่วยหลวงตาวัชรชัย (พระวัชรชัย อินฺทวํโส) ขัดกระถางธูปเพื่อตั้งไว้บนที่บูชา ขณะขัดไปก็ปากหมาขาดการสำรวม พูดล้อเล่นว่า “นี่ถ้าขึ้นครบเจ็ดตัวจะทำไงดีล่ะ...?” หลวงตาท่านปรามว่า “ไอ้นี่...ทะลึ่งล่ะ...”

    ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ความรู้สึกประหลาดอย่างหนึ่งก็ก่อหวอดขึ้นภายในอก และค่อย ๆ รุนแรงขึ้นเป็นลำดับ คือรู้สึกอยากจะไปจากวัด... จะไปไหนก็ได้ ขอให้ไปให้ไกล ๆ ไม่กลับมาเลยยิ่งดี สึกหาลาเพศออกไปก็ได้...

    ยิ่งนานความรู้สึกยิ่งรุนแรงขึ้นทุกขณะ แม้ว่าจะมืดค่ำแล้วก็ตาม รู้สึกกระวนกระวายเหมือนอกจะระเบิด คล้าย ๆ กับเขื่อนที่ทานแรงน้ำจำนวนมหาศาลไม่ไหว จะพังถล่มทลายลงไปไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่ง.....

    เดินจงกรมจนสี่ทุ่มก็ไม่หาย อกจะแตกตายให้ได้ ไม่อยากอยู่วัดนี้แล้ว....! จนหมดหนทางจริง ๆ อาตมาก็เข้ากุฏิ ปิดประตูหน้าต่างมิดชิด แล้วก็วิ่ง..วิ่ง .. วิ่ง..วนเวียนอยุ่ในกุฏิแคบ ๆ ขนาด ๖ x ๙ ฟุต วิ่งให้หายบ้าให้ได้....!

    หมดแรงพับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นขึ้นมา โอ้โฮ้....ฤทธิ์บ้าของเราหรือนี่...? ข้าวของกระจุยกระจายอย่างกับโดนพายุสลาตัน สรงน้ำแล้วไปทำวัตรเช้า ความรู้สึกคุกรุ่นเหมือนภูเขาไฟจะระเบิด ทำวัตรก็คิดไป เดี๋ยวจะไปอาละวาดที่ไหนดี...?

    ทำวัตรเสร็จก็เล่าอาการให้หลวงตาวัชรชัยฟัง ท่านถามว่า “คิดดูซิ...เป็นตั้งแต่ตอนขัดกระถางธูปใช่มั้ย...?” ตอบท่านว่าใช่ ท่านบอกว่า “ถูกหลวงปู่เล่นงานเข้าแล้ว รีบเอาดอกไม้ ธูป เทียนแพ ไปกราบขอขมาท่านโดยเร็ว...”

    อาตมาขอให้โยมศุ (คุณศุภาพร ปุษยนาวิน) จัดทำพานดอกไม้ ธูป เทียนแพให้ ทันทีที่กราบขอขมาเสร็จ ความรู้สึกประหลาดนั่นก็หายไปเฉย ๆ หายไปทันทีเหมือนโยนของหนัก ๆ ทิ้งก็ไม่ปาน อะไรจะขนาดนั้น...?

    เมื่อเจอเจ๋ง ๆ เข้าแบบนี้ อาตมาก็หน้าด้านพอ กราบอธิษฐานกับหลวงปู่ว่า “หลวงปู่เล่นงานผมคนแรก ผมถือว่าผมเป็นลูกคนโต หลวงปู่ครับ...ลูกกราบอาราธนาหลวงปู่ โปรดเมตตาควบคุมความประพฤติของลูกด้วย สิ่งใดที่ถูกต้องตรงตามพระวินัย ขอหลวงปู่ดลใจให้ทำสิ่งนั้น สิ่งใดไม่ถูกไม่ต้องแล้วไซร้ หลวงปู่โปรดเมตตาดลจิตดลใจ อย่าให้ลูกทำความผิดนั้น ๆ เลยครับ ลูกกราบขอความเมตตา...”

    สบายเลยคราวนี้ มีอะไรบอกหลวงปู่ลูกเดียว ไปกรุงเทพฯ ไม่ทันก็บอกหลวงปู่ อาหารไม่พอฉันก็บอกหลวงปู่ อยากได้เงินใช้ก็บอกหลวงปู่ อยากทราบว่าอารมณ์เข้าถึงธรรมเป็นอย่างไร ก็บอกหลวงปู่ ท่านช่วยได้ไปซะทุกเรื่องเลย...

    ไปฉันเพลบ้านคุณวิไลวรรณ ภูมิธเนศ เห็นมีขนมจีนก็นึกถึงหลวงปู่ คุณอารี จงพิสุทธิโศภณ บอกว่า “เห็นหลวงปู่ขนมจีนมาแน่ะ...” ตาดีเสียด้วย อาตมาไม่ได้บอกเขาซักหน่อย ว่าเวลาไปไหนขอท่านตามไปคุมประพฤติด้วย...

    ทุกวันอาตมาต้องไปกราบท่านที่มณฑปเสมอ จะไปไหนก็กราบลา กลับมาก็ไหว้ เรื่องไม่ดีหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น อาตมาแคล้วคลาดไปทุกที ล่าสุดมีการจับสลากตั้งพระครูฐานานุกรมของ “หลวงพ่อ” ๔ รูป หลวงปู่ท่านเป็นผู้จับมือพระหยิบสลากขึ้นมา ตำแหน่งเหมาะสมกับหน้าที่ทั้ง ๔ รูปเลย...!

    “อย่าอวดดีกับผี อย่าลองดีกับพระ”
    เพราะของจริงเขามีอยู่ “หลวงพ่อ” ท่านพร่ำสอนมาอย่างนี้ แต่อาตมาไปนอกครูเอง โดนอัดพอท้วม ๆ นับว่าท่านยังปรานี แต่นิสัยเสียเฉพาะตัวก็ดันเป็นซะแบบนี้ คือ ถ้าไม่แน่จริงก็ไม่เชื่อซะด้วยซิ....!

    ๕ เมษายน ๒๕๓๓
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...