เรื่องเด่น สาธุ...กระแสจิตแรงกล้า ! "หลวงปู่ตื้อ" อรหันต์ผู้มีฤทธิ์ ส่งกระแสจิต ให้คนพายเรือมารับ โดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ !!!

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 1 กรกฎาคม 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    สาธุ...กระแสจิตแรงกล้า ! "หลวงปู่ตื้อ" อรหันต์ผู้มีฤทธิ์ ส่งกระแสจิต ให้คนพายเรือมารับ โดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ !!!

    98810142_4688.jpg



    o9ug2wg4f6ypUmlF3N4-o-horz.jpg

    สมัยที่หลวงปู่ตื้อกับหลวงปู่แหวน เพิ่งจะพบกันและเป็นสหธรรมมิก หลวงปู่แหวนได้กราบหลวงปู่มั่นเป็นครูบาอจารย์แล้ว แต่หลวงปู่ตื้อยังไม่มีโอกาสได้พบเจอหลวงปู่มั่น แต่เนื่องจากทั้งสองท่านมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่แสวงธรรม เดินทางตามรอยพระศาสนา จึงพากันออกธุดงค์ จะข้ามแม่น้ำโขง ไปทางสุวรรณเขต ประเทศลาว

    หลวงปู่ทั้งสองท่านมายืนหยุดอยู่ฝั่งไทย มองหันหน้าไปฝังลาว แม่น้ำโขงที่ขวางหน้ากระแสน้ำเชี่ยวกราก ผ่านช่องเขาแคบๆ ความรุนแรงของน้ำจึงมากกว่าที่อื่น ระยะทางฝั่งลาวห่างไปไม่น้อยกว่าหนึ่งกิโลเมตร แต่ไร้วี่แววของเรือสักลำที่จะพาข้ามฝาก หลวงปู่ตื้อหันมาบอกสหธรรมิกว่า

    “ท่านแหวนไม่ต้องวิตก เดี๋ยวก็มีเรือมารับเราข้ามฟากไป”

    ว่าแล้ว หลวงปู่ตื้อ ยืนนิ่ง หลับตา เพียงอึดใจใหญ่ๆ จึงลืมตาขึ้น แล้วพูดยิ้มๆ ว่า “เดี๋ยวเรือจะมารับ”

    สักพัก มีเรือหาปลาพายผ่านมาพอเห็น ชายหนุ่มที่หาปลา มองเห็นพระหนุ่มสองรูปยืนอยู่ที่ท่าน้ำ ตามประสาชาวพุทธ ด้วยความเป็นห่วงและจิตใจเอื้ออารีย์ จึงพายเรือเข้ามาหา สอบถาม จึงทราบว่าพระภิษุสองรูปนี้มีความประสงค์จะข้ามฝากไปฝั่งลาว

    ชายชาวประมง พอทราบความประสงค์ของหลวงปู่ทั้งสอง จึงบอกลางสังหรณ์ของตนเองว่า



    “ขณะที่กระผมหาปลาอยู่ กลางแม่น้ำ รู้สึกสังหรณ์ใจว่ามีพระกำลังรอเรือข้ามฟาก จึงได้พายเรือมาดู ก็พบพระคุณเจ้าทั้งสองจริง นับว่าน่าอัศจรรย์มาก”!!

    หลวงปู่ตื้อ มองยิ้มๆ พร้อมสอนและให้พรว่า “โยมได้บุญกองใหญ่แล้วคราวนี้ ที่เอาเรือมารับเราข้ามฟาก”

    จริงๆแล้วชาวประมงคนนี้ถือว่ามีวาสนาอย่างมากที่พบเจอหลวงปู่ทั้งสองท่าน หลวงปู่ตื้อเห็นว่าอาชีพประมงหาปลานั้นเป็นหนึ่งในอาชีพต้องห้ามทั้งห้าที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเอาไว้ อาชีพต้องห้าม 5 อาชีพ มิจฉาวณิชชา คือ การค้าขายที่ผิด หรือไม่ชอบธรรม หมายถึง บุคคลไม่ควรค้าขายสิ่งเหล่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อเพื่อนมนุษย์ต่อสัตว์และต่อสภาพแวดล้อมประกอบด้วย

    1. สัตถวณิชชา คือ การขายอาวุธ ได้แก่ อาวุธปืน อาวุธเคมี ระเบิด นิวเคลียร์ อาวุธอื่น ๆ เป็นต้น อาวุธเหล่านี้หากมีเจตนาเพื่อทำร้ายกัน จะก่อให้เกิดการทำลายล้างซึ่งกันและกัน โลกจะไม่เกิดสันติสุข

    2. สัตตวณิชชา หมายถึง การค้าขายมนุษย์ ได้แก่ การค้าขายเด็ก การค้าทาส ตลอดจนการใช้แรงงานเด็กและสตรีอย่างทารุณ

    3. มังสวณิชชา หมายถึง ค้าขายสัตว์เป็น สำหรับฆ่าเพื่อเป็นอาหารเป็นการส่งเสริมให้ทำผิดศีลข้อที่ 1 คือการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

    4. มัชชวณิชชา หมายถึง การค้าขายน้ำเมา ตลอดจนการค้าสารเสพติดทุกชนิด

    5. วิสวณิชชา หมายถึง การค้าขายยาพิษ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ รวมทั้งเป็นอันตรายต่อสัตว์




    การที่ชาวประมงผู้นี้ได้ยินเสียงภายในของหลวงปู่ตื้อเรียก แสดงว่ามีวาสนาทางธรรมพอควรจึงมาพบเจอพระภิกษุสงฆ์ที่เป็นเนื้อนาบุญ หากไม่เทศน์แล้วปล่อยให้เขายังคงประกอบอาชีพนี้ไปจะเป็นการทำลายหน่อเนื้อทางวาสนาทางพุทธให้ตกต่ำเพราะอาชีพฆ่าสัตว์ หลวงปู่ตื้อจึงให้พรกับชาวประมงว่า

    “ ขอให้หมั่นทำความดีไว้ ถ้าจะเลิกจับปลาฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเลยได้ก็จะดีมาก”

    คนหาปลาจึงถามว่า “ถ้าไม่จับปลา แล้วจะให้ข้าน้อยทำมาหากินอะไร?”

    หลวงปู่ตื้อ ชี้ทางสว่าง บอกว่า “ทำไร่ทำนาหากินโดยสุจริตก็ดีแล้ว ต่อไปชีวิตครอบครัวจะเจริญรุ่งเรืองอยู่ดีกินดี อาตมาขอให้พร”

    พรของพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและเป็นเนื้อนาบุญเมื่อให้ “พร” ออกไปแล้วจะมี “ความหมายและพลังบารมี” ยังให้ผู้ที่รับพรและทำตามที่พรให้จะมีความเจริญก้าวหน้าตามลำดับ

    หลังจากการพบปะกันด้วยวาสนา ชาวประมง มีความศรัทธาพระธุดงค์ทั้งสองเป็นอย่างมาก กล้าหาญที่สละอาชีพดั้งเดิมที่ตนเองมีความสามารถทำได้ เลิกฆ่าสัตว์ ทั้งที่ยังไม่ทราบว่าจะทำอาชีพอะไรได้บ้างในอนาคต แต่มุ่งมั่นในอาชีพที่ไม่เบียดเบียนสัตว์อื่น ต่อมาภายหลังเขาได้เลิกหาปลา แล้วหันมาทำนาทำไร่ เลิกการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต นับจากนั้นเป็นต้นมาชีวิตครอบครัวของเขา นับวันมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขายขึ้นจนมั่งมีเงินทอง สามารถสร้างวัดได้ ๒-๓ แห่ง... นี่คือหนึ่งในความเมตตาอันไม่มีประมาณของหลวงปู่ตื้อที่ซ่อนอยู่ภายใต้ลีลาโวหารที่กระแทกใจของผู้คน





    จากหนังสือ ลีลาพระอรหันต์ โดยเธียรนันท์


    เรียบเรียงโดย

    จินต์จุฑา เจนสระคู : สำนักข่าวทีนิวส์


    ----------------
    http://www.tnews.co.th/index.php/contents/332451

     

แชร์หน้านี้

Loading...