สักกายทิฐิและการแผ่เมตตา

กราบนมัสการพระอาจารย์เล็กครับ ในการนั่งสมาธิและพิจารณา จะเกิดความรู้สึกว่าตัวเราของเรามันอยู่ในทุกที่ มันลอยไปลอยมาทั้งข้างในและข้างนอก จิตเราไปอยู่ไหน ความเป็นตัวเราของเราก็อยู่นั่น เวลาพยายามจะแผ่เมตตาให้เป็นรัศมี มันก็เป็นความรู้สึกว่ามันแผ่จากตัว "เรา" ก็เลยลองดูว่าถ้าใช้การอธิษฐานให้จิตมันแผ่เมตตาออกไปเองโดยอัตโนมัติ โดยไม่ได้ใช้ความตั้งใจบังคับ มันกลับนิ่งเฉยเสมือนว่าจิตนั่นไม่ใช่ตัวเรา หรือการขอบารมีพระให้แผ่เป็นรัศมีออกไป ก็ไม่เกิดความรู้สึกเห็นว่ามีรัศมีแผ่ออกมา นอกจากจะเป็นการบังคับที่เกิดจากความคิดที่สั่งจิตออกไป

ขออนุญาตเรียนถามครับว่า

๑. สักกายทิฐินั้นคืออะไร ตามตำราก็กล่าวว่ามันคือการยึดเกาะในร่างกาย แต่มันยังรู้สึกไม่กระจ่างอยู่ดีครับ
๒. สักกายทิฐินั้นมันอยู่ตรงไหนครับ ทุกครั้งที่คิด หรือจิตไปที่ไหนก็เหมือนกับสักกายทิฐิมันทาบทับอยู่ภายในจิต จนแยกไม่ออก แย่ยิ่งกว่าเงาเสียอีก จะว่ามันเป็นเนื้อเดียวกันกับจิตก็ใช่ จะว่าไม่ใช่เนื้อเดียวกันกับจิตก็ใช่
๓. สักกายทิฐินั้นจะเกิดทุกครั้งที่คิดใช่หรือไม่ครับ
๔. แม้แต่การทรงอยู่ในสมาธิ สักกายทิฐิก็อยู่กับเรา ไม่ได้หายไปไหนใช่หรือไม่ครับ เพราะมันก็ยังมีความรู้สึกว่ามันยังคงหลอมรวมอยู่ในจิตของเราอยู่ดี
๕. กายในนั้นใช่ตัวเราหรือไม่ครับ
๖. กายในคือจิตใช่หรือไม่ครับ เพราะเหมือนกับว่ามันต้องผ่านการสั่งการจากความคิด มันถึงทำงาน มันไม่ได้เป็นอิสระจากความคิด เมื่อความคิดเป็นส่วนหนึ่งของขันธ์ ๕ แสดงว่าจิตจะทำงานต่อเมื่อผ่านการควบคุมจากขันธ์ ๕ เสมอหรือครับ
๗. ทำอย่างไรไม่ให้จิตอยู่ในความควบคุมของขันธ์ ๕ ครับ
๘. ความเกี่ยวข้องของสักกายทิฐิกับวิจิกิจฉา และความเกี่ยวข้องของสักกายทิฐิกับสีลัพพตปรามาสมันอยู่ที่ไหน เพื่อการละและการทำตนให้เข้าสู่ความเป็นพระโสดาบัน
๙. การแผ่เมตตาให้เป็นรัศมีจากกายใน หรือจากพระวรกายขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะทำได้อย่างไรโดยการอธิษฐานเพียงอย่างเดียว และไม่ใช้กำลังจากจิตของตนเองที่บังคับออกไป เนื่องจากรู้สักว่าการใช้กำลังจากจิตที่บังคับเป็นการใช้กำลังมาก และไม่ใช่กำลังที่เย็นบริสุทธิ์ มันเป็นกำลังที่หนัก ๆ เพราะรู้สึกว่าถ้ามาจากการอธิษฐานขอบารมีจากองค์พระ จะได้กำลังที่มากกว่า และได้ผลมากกว่าการใช้กำลังจากตนเอง

ท้ายที่สุด ต้องกราบขอขมาพระอาจารย์เล็กด้วยครับกับคำถามหลายข้อ เพราะมันเป็นอาการงง ๆ ที่รู้สึกว่าเหมือนจะเข้าใจ แต่จริงแท้แล้วไม่เข้าใจอะไรเลย ยิ่งปฏิบัติแล้วยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่รู้อะไรเลยครับ

 

ขอโทษนะครับ คุณเข้าไปที่ ห้องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ> อริยะบุคคล >> อารมณ์พระโสดาบัน ที่นั่นมีคำตอบแน่นอนครับ <!-- END DYN: row -->