มลทิน..เครื่องเศร้าหมอง

ในห้อง 'พระไตรปิฎก เสียงอ่าน' ตั้งกระทู้โดย Kob, 8 กรกฎาคม 2014.

แท็ก: แก้ไข
  1. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,161
    ค่าพลัง:
    +19,894
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.3203922/[/MUSIC]

    มลทิน..เครื่องเศร้าหมอง

    ว่าด้วยมลทิน

    [๒๘] ๑. บัดนี้ ท่านเป็นดุจใบไม้เหลือง อนึ่ง บุรุษแห่งพระยายม (คือความ
    ตาย) ปรากฏแก่ท่านแล้ว ท่านตั้งอยู่ใกล้ปากแห่งความเสื่อม อนึ่ง แม้เสบียง
    ทางของท่านก็ยังไม่มี ท่านนั้นจงทำที่พึ่งแก่ตน จงรีบพยายาม จงเป็นบัณฑิต
    ท่านกำจัดมลทินได้แล้วไม่มีกิเลสเพียงดำเนิน จักถึงอริยภูมิอันเป็นทิพย์.
    บัดนี้ ท่านเป็นผู้มีวัยอันชรานำเข้าไปแล้ว เป็นผู้เตรียมพร้อม (เพื่อจะไป) สำนัก
    ของพระยายม อนึ่งแม้ที่พักในระหว่าง (ทาง) ของท่านก็ยังไม่มี อนึ่งถึงเสบียง
    ทางของท่านก็หามีไม่ ท่านนั้นจงทำที่พึ่งแก่ตน จงรีบพยายาม จงเป็นบัณฑิต
    ท่านเป็นผู้มีมลทินอันกำจัดได้แล้ว ไม่มีกิเลสเพียงดำเนิน จักไม่เข้าถึงชาติชรา
    อีก.

    ๒. ผู้มีปัญญาทำกุศลอยู่คราวละน้อย ๆ ทุก ๆขณะโดยลำดับ พึงกำจัดมลทิน
    ของตนได้ เหมือนช่างทองปัดเป่าสนิมทองฉะนั้น.

    ๓. สนิมตั้งขึ้นแต่เหล็ก ครั้นตั้งขึ้นแต่เหล็กแล้วย่อมกัดเหล็กนั่นเอง ฉันใด กรรม
    ทั้งหลายของตนย่อมนำบุคคลผู้มักประพฤติล่วงปัญญาชื่อว่า โธนา ไปสู่ทุคติ
    ฉันนั้น.

    ๔. มนต์ทั้งหลาย มีอันไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน เรือนมีความในหมั่นเป็นมลทิน
    ความเกียจคร้านเป็นมลทินของผิวพรรณ ความประมาทเป็นมลทินของผู้รักษา.

    ๕. ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของสตรี ความตระหนี่เป็นมลทินของผู้ให้ ธรรม
    อันลามกทั้งหลายเป็นมลทินแล ทั้งในโลกนี้ ทั้งในโลกหน้า เราจะบอกมลทินอัน
    ยิ่งกว่ามลทินนั้น อวิชชาเป็นมลทินอย่างยิ่ง ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายละ
    มลทินนั่นได้แล้วย่อมเป็นผู้หมดมลทิน.

    ๖. อันบุคคลผู้ไม่มีความละอาย กล้าเพียงดังกา มีปกติกำจัด (คุณผู้อื่น) มัก
    แล่นไป (เอาหน้า) ผู้คะนอง ผู้เศร้าหมอง เป็นอยู่ง่าย ส่วนบุคคลผู้มี ความ
    ละอาย ผู้แสวงหากรรมอันสะอาดเป็นนิตย์ ไม่หดหู่ ไม่คะนอง มีอาชีวะหมดจด
    เห็นอยู่ เป็นอยู่ยาก.

    ๗. นระใด ย่อมยังสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วงไป ๑ กล่าวมุสาวาท ๑ ถือเอาทรัพย์ที่
    บุคคลอื่นไม่ให้ในโลก ๑ ถึงภริยาของผู้อื่น ๆ อนึ่ง นระใดย่อมประกอบเนือง ฯ
    ซึ่งการดื่มสุราและเมรัย นระนี้ (ชื่อว่า) ย่อมขุดซึ่งรากเหง้าของตนในโลกนี้ที
    เดียว. บุรุษผู้เจริญท่านจงทราบอย่างนี้ว่า บุคคลผู้มีบาปธรรมทั้งหลายย่อมเป็นผู้
    ไม่สำรวมแล้ว ความโลภและสภาพมิใช่ธรรม จงอย่ารบกวนท่าน เพื่อความทุกข์
    ตลอดกาลนานเลย.

    ๘. ชนย่อมให้ ( ทาน) ตามศรัทธา ตามความเลื่อมใส แลชนใดย่อมเป็นผู้เก้อ
    เขินในเพราะน้ำและข้าวของชนเหล่าอื่นนั้น ชนนั้นย่อมไม่บรรลุสมาธิในกลางวัน
    หรือในกลางคืน ก็อกุศลกรรมอันบุคคลใดตัดขาดแล้ว ถอนขึ้นทำให้มีรากขาด
    แล้ว บุคคลนั้นแลย่อมบรรลุสมาธิ ในกลางวันหรือในกลางคืน.

    ๙. ไฟเสมอด้วยราคะไม่มี ผู้จับเสมอด้วยโทสะไม่มี ข่ายเสมอด้วยโมหะไม่มี
    แม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มี.

    ๑๐. โทษของบุคคลเหล่าอื่นเห็นได้ง่าย ฝ่ายโทษของตนเห็นได้ยาก เพราะว่า
    บุคคลนั้น ย่อมโปรยโทษของบุคคลอันเหมือนบุคคลโปรยแกลบ แต่ว่าย่อมปก
    ปิดโทษของตนเหมือนพรานนกปกปิดอัตภาพด้วยเครื่องปกปิดฉะนั้น.

    ๑๑. อาสวะทั้งหลายย่อมเจริญแก่บุคคลนั้น ผู้คอยดูโทษของบุคคลอื่น ผู้มี
    ความมุ่งหมายในอันยกโทษเป็นนิตย์ บุคคลนั้นเป็นผู้ไกลจากความสิ้นไปแห่งอา
    สวะ.

    ๑๒. รอยเท้าในอากาศนั่นเทียวไม่มี สมณะภายนอกไม่มี หมู่สัตว์เป็นผู้ยินดียิ่ง
    แล้วในธรรมเครื่องเนิ่นช้า พระตถาคตทั้งหลายไม่มีธรรมเครื่องเนิ่นช้า รอยเท้า
    ในอากาศนั่นเทียวไม่มี สมณะภายนอกไม่มี สังขารทั้งหลายชื่อว่าเที่ยงไม่มี
    กิเลสชาตเครื่องหวั่นไหว ไม่มีแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย.

    จบมลวรรคที่ ๑๘

    ที่มา http://palungjit.org/threads/มลทิน-เครื่องเศร้าหมอง.20506/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2014
  2. Hanashi

    Hanashi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +354

แชร์หน้านี้

Loading...