พ่อท่านจรูญ อัคควัณโณ ทายาทตักศิลาเขาอ้อ พระผู้นิ่งสงบณ เขาเมืองเก่า

พระครูอดุลสุตการ (พระมหาจรูญ อคฺควณฺโณ - ศรีทอง) อายุ 74 ปี เจ้าคณะตำบลรือเสาะ,ตำบลศรีสาครเดิมท่านเป็นชาวบ้านหน้าวัดดอนศาลา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
อุปสมบท ณ.วัดบ้านสวน โดยมี "พระอุปัชฌาย์คง" เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชเสร็จท่านก็จำพรรษาอยู่วัดบ้านสวน และต่อมาได้ย้ายมาจำพรรษา อยู่ที่วัดไพโรจน์ประชาราม (ตีนนา)
ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส...
.
...พระมหาจรูญ เมื่อสมัยครั้งเป็นวัยรุ่น ตอนที่ท่านยังไม่บวช
ได้เข้ามาเป็นเด็กวัดดอนศาลา เลยเข้าไปนอนที่ภายในวัด,กินข้าวคู่บาตรพระ และได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้พ่อท่านปาล ในขณะที่พ่อท่านปาลมาอยู่ที่วัดดอนศาลา พ่อท่านปาลได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆให้ และเมื่อครบอายุได้ ๒๔ ปีบริบูรณ์ ท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ และได้มาอยู่ที่วัดดอนศาลาระยะหนึ่ง ได้ดูแลพ่อท่านปาลตลอดมา และตอนนั้นได้เล่าเรียนวิชาอาคมต่างๆ จากพ่อท่านปาลอย่างเต็มที่...

พระอาจารย์จรูญท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านได้แช่ยากับพ่อท่านปาล ๒ ครั้ง แช่กับพระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ๑ ครั้ง และพ่อท่านปาลท่านได้สั่งเอาไว้ว่า... สำหรับนักเลงผู้ที่ถือฝ่ายคงทน หนังเหนียว ห้ามกินลอกอ หน่อไม้ ข้าวหก (ที่พูดว่าไม่กิน) ต้น,หัวบอน บุก บัก โดยเฉพาะผักมฺลึง ซึ่งเป็นของปลองอย่างแรงที่สุด พ่อท่านปาฃเลยให้ปริศนาไว้ว่า...
"ไม่รู้จักทำกินกะอดตาย" ...มีอยู่ครั้งหนึ่งพระอาจารย์จรูญ ท่านนอนป่วยอยู่อาการก็พอสมควร และได้ไปหาหมอ หมอเลยฉีดยาให้ แต่เข็มฉีดยาแทงไม่เข้าเนื้อหนังของท่าน และได้ฉีดอีกหลายครั้งก็ฉีดไม่เข้าเลย จนกว่าพระอาจารย์จรูญบอกให้ฉีดเอง ว่า..."ฉีดตะไม่พรือ" เลยเข็มฉีดยาแทงเข้า...

...พระอาจารย์จรูญได้เล่าอีกว่า พ่อท่านปาลจะสวดมนต์ไหว้พระเช้า - เย็น ไม่เคยขาด และพ่อท่านปาลได้พูดว่า "จะให้ขลังต้องขยันไหว้พระ"... ...

และพ.ศ.๒๕๒๑ พ่อท่านปาลได้มรณะภาพ ที่วัดเขาอ้อ
รวมอายุได้ ๘๒ ปี... พระอาจารย์จรูญ นอกจากจะเรียนวิชาอาคมจากพ่อท่านปาล ท่านยังได้ไปวิชาเรียนวิชาอาคมกับพระอาจารย์นำตาหลวงเปรม (บิดาของท่านเอง ซึ่งเป็นศิษย์พ่อท่านทองเฒ่า ) เรียนกรรมฐานกับพ่อท่านลาภ วัดยางงาม เรียนมนต์ต่างๆกับพ่อท่านหมุน วัดเขาแดง, พ่อท่านแก้ว วัดโคกโดน,พ่อท่านถัด วัดปรางหมู่,พ่อท่านช่วง วัดปากสระ,
พ่อท่านจุล วัดลานแซะ ,พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง,พ่อท่านปลอด วัดหัวป่า,พ่อท่านเล็ก วัดประดู่เรียง , พ่อท่านจำเนียร สำนักสงฆ์ต้นเลียบรวมทั้ง ฆราวาส หลายๆท่านเช่น อ.แจ้ง เพชรรัตน์ ,อ.เปรม นาคสิทธิ์,ขุนพันธรักษ์,และอีกหลายครูอาจารย์ ​

 

หลวงตาจรูญ รูปนี้ ท่านเป็นศิษย์สายตรงเขาอ้อครับ ท่านจะเรียนวิชาต่างๆจากหลายครูอาจารย์ ทั้งอาคม สมถะ วิปัสสนา สอนนักธรรม ท่านถูกส่งไปสอนนักธรรมที่ รือเสาะ นราธิวาส ตั้งแต่ พ.ศ. 2531 จนถึง 2559 ในปี 2559 ท่านกลับมาพำนักที่มาตุภูมิคือบ้านเกิด จังหวัดพัทลุง ท่านทิ้งตำแหน่งเจ้าอาวาส มาเป็นพระลูกวัดที่ วัดเขาเมืองเก่า จ.พัทลุง อยู่กุฏิหลังเล็กๆ ท่านสมถะมาก
ประสบการณ์วัตถุมงคลของท่าน ไม่เป็นสองรองใคร แต่ท่านไม่เคยโอ้อวด คนที่ได้บูชาไปแล้ว จะได้แจ้งประจักษ์เอง เวลาที่คนไปกราบ ท่านจะพูดน้อย แต่ถ้าคุยเรื่องธรรมะ ท่านจะคุยเยอะ และท่านมักเล่าเรื่องราวเก่าๆในอดีตให้ฟัง บางเรื่องที่กระผมได้รับฟังมา ฟังแล้วขนลุก ปีติ ครับ เพราะบางเรื่องเหมือนเรื่องมหัศจรรย์ แต่เกิดขึ้นจริง ผมจะลงเรื่องราวเก่าๆที่ได้รับฟังมาโดยตรง และจากพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์ของท่าน ลงให้อ่านเรื่อยๆนะครับ พร้อมทั้งประสบการณ์วัตถุมงคลที่ดังลือเลื่อง แต่ท่านถ่อมตัว เก็บเงียบเสมอ ติดตามกันได้นะครับ

 

#ตอนขอขมา
มีน้องคนนึงเดินทางมากจากจังหวัด สตูล เข้าวัดเขาเมืองเก่าชัยบุรี เพื่อขอขมา ต่อพ่อท่านมหาจรูญ เรื่อง ทดสอบพุทธคุณ พระปิดตา ภายหลังได้ให้โทษอย่างหนัก พ่อท่านได้เมตตา พรมน้ำมนต์และ เจิมหน้าผากให้ครับ ((((((((พระท่านยิงไม่ออก ถ้าออกไม่ถูก ถ้าถูกไม่เข้า แต่ส่วนมากกระสุ่นตก ไม่มีเเรง เหมือนรายที่ไปลองคนนี้คับ)))))) ศิษย์มีครู โดนสบประมาทหน้า ระยะเผาขน เรื่องเสกพระเดียว*** เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าอาวาสวัดเขาเข็มทอง นราธิวาสได้สร้างเหรียญหลวงพ่อนิล อดีตเจ้าอาวาส เพื่อแจกในงานบำเพ็ฐกุศลศพ หลวงพ่อนิลเอง จำนวน5หมื่นเหรียญ และได้ขอความเมตตาจากพ่อท่านจรูญว่าช่วยเสกเหรียญให้ ท่านก็ได้รับคำและบอกเจ้าอาวาสตั้งเหรียญไว้ทั้งหมดแล้วบอกว่า"เสกเสร็จผมพาไปให้เอง"เจ้าอาวาสก็ได้กลับวัด ท่านเสกได้3วันก็ต้องพาไปให้เพราะถึงวันงานแล้ว ท่านก็ได้จ้างรถ นายมิตร ให้ไปส่งและท่านไปด้วย พอไปถึงวัด เจ้าอาวาสได้ให้ทหารและกรรมการวัดเอาของลง ขณะที่ขนของลงนั้นก็มีเสียงถามเจ้าอาวาสดังมาว่า" ท่านเจ้าอาวาส เอาให้พระไหรนิเสก(ให้พระอะไรเสก) อยู่เหมือนคนไม่บาย (เหมือนคนสติไม่ดี) ไม่น่านับถือ ผมดูแล้วได้เสียชื่อท่านนิลและทีนี้ ลงทุนทำกะหลายแสน ขาดทุนแหละทีนี้ใครอีเอากะเอาแหละผมไม่เอาคนนึงแหละ"ขณะนั้นพ่อท่านเองได้นั่งคุยกับเจ้าอาวาสอยู่และท่านได้ยินชัดเต็ม2หู ท่านก็ฟังแล้วก็เฉยๆ แล้วบอกกับเจ้าอาวาสว่า "ผมเสกมาดีแล้ว คุณเชื่อตะผมศิษย์มีครู"เจ้าอาวาสได้บอกว่า"ผมเชื่อพ่อท่าน ผมให้เสกเดียวเพราะไหรเหลา" และเจ้าอาวาสได้นิมนต์เทศ ในงานตอน1ทุ่ม ท่านเลยตัองให้คนขับรถกลับก่อนและค่อยมารับวันรุ่งขึ้น กว่าพิธีกรรมจะเสร็จ เวลาเข้าไป4ทุ่มกว่า ท่านก็เข้ากุฏิพัก ตามที่เขาจัดเตรียมไว้ หลังจากนั้นไม่นาน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น พร้อมเสียงดังโวยวาย ขึ้นในวัด หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าอาวาสได้มาเคาะประตู เรียกให้พ่อท่านเปิดประตู พอพ่อท่านเปิดประตูก็พูดขึ้นว่า"พวกนั้น มันไม่เชื่อเรา มันเลยลองเหรียญ อย่าลืมแหละ เราศิษย์มีครู" เจ้าอาวาสเองได้บอกว่าขอให้พ่อท่านช่วยทีไม่นั้น คนยิงเหรียญตายแน่ กลุ้มคลั่งจังแล้ว พ่อท่านได้รับคำ และให้คนเอาเข้ามาพร้อมกับมีคนมัดอยู่ 4-5คน(คนทีจับมัดบอกว่า ยิงนัดแรกนัด2ไม่ออก นัดที่3ปืนแตกท้ายสังหักใส่คนยิงเลย) ท่านจึงให้คนตักน้ำใส่บาตรแล้วทำน้ำมนต์รดให้ถึงหายได้สติกลับมา และเทศน์สั่งสอนคนยิงว่า" นี้ดีนะที่เรายังอยู่ ถ้าหาม้ายเราแล้วสู่บ้าตาย พระไม่ได้มีไว้ยิง เขามีไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้มุ่งมั่นทำความดี"หลังจากท่าน คนที่ยิงเหรียญได้ขอขมาต่อพ่อท่านและนับถือท่านตลอดมา

 

มีเรื่องเล่ากันว่า ท่านมนต์(เสก) จนแผ่นจารย์หรือแผ่นตะกรุดปลิวหลุดมือได้ จนท่านต้องรีบคว้ามา และอธิษฐานกำหนดจิตเสกวัตถุมงคลรุ่นนึง เสกจนน้ำในขันน้ำมนต์หมุนเอง
จริงๆแล้ว ท่านเทศน์และสอนดีมากๆ ถ้าใครถามธรรมะ ท่านก็จะตอบได้อย่างแยบคาย ท่านสอนให้ประพฤติตนให้ถูกต้องศีลธรรม เพื่อความสุขสงบในชีวิต

 

#พุทธานุภาพ ทรายเสกดาโต๊ะ
สมัยตอนไปอยู่ วัดตีนนา รือเสาะ เมื่อประมาน พ.ศ 2531 พ่อท่านได้เสกทราย เพื่อนำเอาว่าน รอบๆๆวัด ประมาน สัก20ถัง สังฆทาน ได้ เพื่อกัน คนเข้าวันในตอนกลางคืน พ่อท่าน กล่าวว่า "ถ้าใครมาคิดร้าย คิดไม่ดี ในวัด คนนั้นจะพบกับสิ่งไม่ดีกลับตอบ หรือจะเห็น เป็นคนอยู่ หรือเฝ้าอยู่จำนวน มาก"และประมานปี 2540กว่าๆๆ เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เช่นการ เผาโรงเรียน เผาวัด ฆ่าพระ ฆ่าชาวไทยพุทธ บ้าง "พ่อท่านว่าวัดเราหาปรือไม่" วันหนึงท่านนั่งหน้ากุฏิไม้ ใต้ต้นบุคนาค ได้ มี แขก(มุสลิม)2คนขับรถมา ในวัดแล้วจอดรถตรงที่ท่านนั่งอยู่แขกได้ถามท่านว่า "ดาโต๊ะๆๆ แลกคืนในวัด ดาโต๊ะจัดงานไหร พ่อท่าน ตอบว่า"ม่าย ม่ายงานไหรนิ แขกเลยบอกว่า "เมื่อคืน ผมขับรถผ่านหลายๆรอบเห็น คนเต็มวัดหมด" พ่อท่านเลยรู้ทันทีเลยว่า แขกนี้จะมาคิดร้ายต่อวัด แต่เห็นเป็นคน อยู่จำนวนมากมาย พ่อท่าน เลยบอกแขกว่า สู ตาลายนิ แต่แขก ยังยืนยันว่าไม่ใช่ตาลายเห็นจริง

 

#วิชาบังกาย

เมื่อ ปีพ.ศ2555 น้องชาย สอบตำรวจได้และประจำการ เลือกที่ อำเภอรือเสาะ นราธิวาส เมื่อน้องชายลงที่นั้น ผม ก็ บอกว่าถ้าไปทำงานแล้ว ว่างๆให้ช่วยสืบหา วัดตีนนา ถามหา อ.จรูญ ให้พบที เพราะหลังจากปี46 อาจารย์ท่านไม่ค่อยกลับพัทลุงและไม่ค่อยรับกิจนิมนต์มาพัทลุงเลย ผมเลยไม่เคยเจอนับแต่ปี46 เนื่องด้วยระยะหลัง เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ด้วย ท่านจึงไม่ค่อยรับนิมนต์ไกลๆ หลังจากน้องชายของผม ได้ทำงาน 1เดือนก็โทรมาบอกว่า วัดตีนนา รู้แล้วอยูตรงไหน วันนั้นว่างนั้นตรงกับเวรว่างของน้องพอดี เขาเลยชวนเพื่อนซึ้งเป็นตำรวจด้วยกัน ไปอีก1คน ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปยังวัดตีนนา พอไปถึงวัดเขาก็จอดรถ แล้วถามพระในวัดว่า " อ.จรูญ องค์ไหนครับ อยู่ม่ายครับ" พระในวัดจึงบอกว่า"ท่าน อยู่ กุฏิไม้นั้น นั่งอยู่ไปแลตะไม่ไปไหน " หลังจากนั้น เขากับเพื่อน ได้เดินมายังกุฏิไม้เก่า ซึ้งประตูปิด เเละล็อกกุญแจไว้ และที่นอกชานขนาดกว้าง2×2เมตร มีเพียงสังฆทานและน้ำดื่มตั้งไว้ ไม่เห็น อาจารย์ตามที่พระลูกวัดบอกมา เขาก็ยืนรอที่หน้ากุฏิไม้ประมาน5นาที เพราะคิดว่า อาจารย์คงออกไปธุระข้างนอกแน่ สักมีเสียงพระลูกวัดตะโกนมาแต่ไกลว่า"ท่านอยู่เรียกตะ"น้องชายผมพอได้ยินแล้วก็ตะโกนกลับไปว่า"อยู่อย่างไร ในห้องก็ล็อกกุญแจนอก นอกชานก็ๆไม่เห็นน่าออกไปข้างนอกครับ" พระลูกวัดองค์นั้นก็บอกว่า อยู่บนกุฏินิเรียกตะ น้องชายผมกับเพื่อนเขาก็พูดกันว่า"จะอยู่จะอยู่ยังไง เป็นไปไม่ได้ประตูก็ล็อกนอกชานก็ไม่เห็นนั่ง " เขาทั้ง2จึงเดินเข้ายืนที่ บันไดกุฏิแล้วเรียก ว่า"ตาหลวงๆๆ"หลังจากเขาเรียกได้3คำ ก็ได้ยินเสียง"อือๆๆ "แล้วก็เห็นท่านนั่งอยูหน้าประตูห้องนั้น เขาทั้ง2ก็ขึ้นบันไดพร้อมกับงงและแปลกใจ และก็ได้ก้มลงกราบแล้วก็บอกเรื่องราวที่ผมใช้ให้เข้าให้ไปสืบหาท่าน อาจารย์ท่านก็มอบตะกรุดให้ติดตัวคนละดอกก็ลากลับ หลังจากก็ขับรถออกจากวัดมายังที่พัก ก็โทมาบอกผมว่า"ตาหลวงรูญนั้นไม่รู้แก่ทำไหรเหมือนผีหลอกเราเลย แก่นั่งอยู่แค่ๆ(ไกล้ๆๆ)แลไม่เห็น ไม่น่าเชื่อเลย เรากับเพื่อนตกใจหมด"
น้องชายผมเจอเห็นการแบบนี้กับตัวเองถึง4ครั้ง และเขาเชื่อว่า อาจารย์ทำให้คนอื่นไม่เห็นตัวได้

 

วิชาที่ตกทอด นามสุดยอด " ตะกรุด นะกันทั้งปวง (ตะกรุดอริยะสังวร) "

ประสบการณ์ ปืนทำอะไรไม่ได้
มีพี่คนหนึ่งมาเช่าตะกรุด นะกันทั้งปวงไป10ดอก เพื่อแจกพรรคพวกเพื่อนฝูง วันหนึ่งเพื่อนเขาไปที่บ้านเขาได้หยิบตะกรุดที่เขาเช่าไปให้หนึ่งดอก ซึ้งเพื่อนคนนี้ปรกติเขาก็เป็นคนไม่ชอบวัตถุมงคลของขลังครับ เพื่อนเขาก็รับและใส่กระเป๋าเสื้อไว้ แล้วนั่งพูดคุย สักพักเขาก็ขอตัวกลับ ในระหว่างเดินทางกลับเพื่อนคนนั้นก็ไปนั่งกินเหล้าต่อที่ร้าน ช่วงกินเหล้าอยู่นั้นเขานั่งกินเหล้ากัน 5คน มีคนแปลกหน้าเดินเข้ามา เเล้วจับหัวคนมีเพื่อนที่มีตะกรุดกดหัวกบฝา แล้วชักปืนยิงสับไก ดัง แซะๆ5ครั้ง ส่วนเพื่อนที่นั่งล้อมวงกันนั้นคนอื่นวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด มือปืนพอเห็นสับไกแล้วปืนไม่ลั่นแล้วก็วิ่งหนีขึ้นรถทันที คนที่โดนยิงเชื่อว่าที่เขาโดนยิงแล้วปืนไม่ลั่นนั้นเกิดจากตะกั่วทองเหลืองที่อยู่ในกระเป๋าเขาอย่างแน่นอน เพราะตัวเขาเองไม่มีวัตถุมงคลอย่างอื่นนอกจากตะกรุดครับ

นอกจากกันปืน กันระเบิดได้แล้ว ตะกรุดนะกันทั้งปวง ท่านว่า พุทธคุณรอบด้าน
▪️สยบผีในป่ายางที่ว่าเฮี้ยน หักคอเป็นว่าเล่น
▪️กันคุณไสยการกระทำย้อนกลับให้ผู้ที่คิดจะทำร้ายเรา ถึงความวิบัติ มีตัวอย่างมาเยอะแล้ว
▪️กันเขี้ยวงา อาวุธ โรคร้ายภัยพิบัติทั้งหลาย
▪️ใช้ทำน้ำมนต์ ปัดเคราะห์ ลางร้าย ไล่ผี
มีตะกรุด ลพ.ดอกเดียว เป็นหมอรดน้ำมนต์ได้

ถ้าหลวงพ่อไม่แน่จริง ไม่ใช้ผ้าอาบน้ำฝนปัดกระสุนที่ระดมยิงเป็นห่าฝน จนกระสุนหมด ที่ อ.รือเสาะ นราธิวาส รอยกระสุนที่เสาวัดยังเป็นพยาน

 

ประสบการณ์ รถชนประสานงา แต่มีแค่รอยขีด
พกแค่ ตะกรุด นะกันทั้งปวงดอกเดียว กับรูปและจีวรหลวงพ่อ

 

ท่านใดที่อ่านประสบการณ์ของหลวงตามหาจรูญ แล้วเกิดศรัทธาปสาทะ อยากมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ไว้เป็นที่พึ่งทางใจ สามารถติดต่อมาทางหลังไมค์ได้ครับ ของแท้จากวัด 100 %

ท่านคือของจริงสายเขาอ้อ ศิษย์เอก พ่อท่านปาล อาจารย์นำ
อีกหน่อยผมคิดว่า ท่านจะดังมากๆ เพราะเท่าที่สัมผัสมา คือท่าน ของจริง สมถะ เรียบง่าย ศีลาจารวัตรงดงาม เก่งด้านปฏิบัติด้วย เทศน์ก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลาย จำกระทู้นี้ไว้ให้ดีๆครับ

 

ประสบการณ์ ตะกรุด นะป้องกันทั้งปวง ฟันไม่เข้า
กลุ่มเด็กวัยรุ่นจังหวัดตรัง ซึ่งอาศัยอยู่ อ.นาโยง มีความศรัทธาในตัวพ่อท่านจรูญมาก และไปกราบ พ่อท่านจรูญอยู่บ่อยๆในยามที่ พ่อท่านจรูญ ไปเยี่ยม พ่อท่านเพียรชัย วัดกะช่องน้อย อ.นาโยงซึ่งเป็นศิษย์ อาจารย์เดียวกันกับพ่อท่านจรูญ และเด็กกลุ่มนั้นได้ บูชาตะกรุดนะป้องกันทั้งปวงของพ่อท่านจรูญ ไปพกพาติดตัว จนกระทั่งไปเที่ยวงานคอนเสริตที่บ้านน้ำผุด แล้วไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับวันรุ่นเจ้าถิ่น หนึ่งในกลุ่มเด็กวัยรุ่นบ้านนาโยง ที่พกตะกรุดนะป้องกันทั้งปวงของ
พ่อท่านจรูญ โดนมีดฟันเข้าด้านหลังเต็มๆ แผ่นหลัง ไม่มีรอยเลือดและบาดแผลเลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงแต่รอยแดงเท่ากับขนาดมีดที่ฟัน
กลุ่มเด็กเหล่านั้นก็แยกย้ายหนีกันไป และมีความศรัทธาในตัวพ่อท่านจรูญเป็นอย่างมาก

 

สาธุ ติดตามครับ เรื่องราวท่านน่าสนใจจริงๆ

 

รอติดตามเรื่อยๆนะครับ เรื่องราวปาฏิหารย์ของท่าน และวัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิต เล่าวันเดียวไม่หมดครับ จะนำมาลงเรื่อยๆ บางเรื่องถ้าได้อ่านแล้วจะอึ้งเลยครับ ท่านจะเล่าจะเฉพาะบางคน
ปกติท่านเก็บตัวครับ

 

ติดตามครับ

 

ขอติดตามด้วยครับ อยากได้ตะกรุดเลย

 

อยากได้ตะกรุดไว้บูชา ทักหลังไมค์มาได้ครับ มีแบ่งให้บูชาจากทางวัด
รับจากมือหลวงพ่อและมีโค้ตทุกดอกครับผม

 

ประสบการณ์ ถ่ายรูปไม่ติด
ช่างกล้อง เตรียมตัวอย่างดี กล้องเกิดเสียทันควัน
มีลูกศิษย์ใกล้ชิด ของพ่อหลวงพ่อคนหนึ่ง พาช่างถ่ายรูป ที่มีความชำนานในการถ่ายภาพ พอสมควรและวันนั้น ช่างถ่ายภาพก็ได้มาถึงในวัดพร้อมลูกศิษย์คนนั้น ลูกศิษย์คนนั้นก็ได้ บอกท่านว่า "อาจารย์ครับ นิมนต์ห่มจีวรหน่อยครับ จะให้ช่างเขาถ่ายรูปครับ" อาจารย์ลุกขึ้นห่มจีวรทันที เพราะลูกศิษย์คนนี้ สนิทสนมกับท่านมากพอสมควร โดยปรกติ พ่อท่านจะไม่อนุญาต ให้ถ่ายรูปท่านโดยห่มจีวร นั่งตั้งท่าหน้าตรง มองกล่อง และท่านตั้งใจให้ถ่ายน้อยมากๆๆ ส่วนใหญ่ภาพท่านที่ออกมาทั่วไป ท่านหันหน้า เอียงๆๆตลอด ไม่มองกล้อง โดยทั่วไป ใครไปหาท่านท่านก็ให้ถ่ายนั่นแหละ แต่แบบทั่วๆๆไป หลังจากท่านห่มจีวร เรียบร้อยแล้ว ท่านก็มานั่งกับพื้นทันที แต่พอช่างกล้อง กดปุ่มกล้องถ่ายรูป กล้องเกิดเสียขึ้นมาทันที ถ่ายไม่ได้ ลูกศิษย์คนดังกล่าว จึงพูดขึ้นว่า "อาจารย์ครับ ผมขอถ่ายนะ จะเก็บเอาไว้บูชาครับอาจารย์" หลังจากลูกศิษย์ พูดจบ พ่อท่านพูด ขึ้นว่า """แน่นะ สู(พวกเจ้า)เอาไปบูชานะ อย่าเอารูปเราไปทำเหรียญนะ ถ้าสูไม่เอาไปทำเหรียญ สูถ่ายได้เลย เหรียญรูปเราน่ะ เราอนุญาตให้สูทำตอนได้ ตอนอายุเรา 80ปี ไม่ต้องรีบนะ""" หลังจากพ่อท่านพูดจบ ช่างตากล้อง ก็ได้ถ่ายรูปได้ทันที กล้องก็ไม่เสียหรือติดขัดแม้แต่น้อย ถ่ายรูปได้ตามปรกติ และรูปออกมาสวยงามตามใจนึก


ท่านใดต้องการตะกรุด นะกันทั้งปวงหรือวัตถุมงคลที่หลวงพ่ออธิษฐานจิตไว้บูชา ไว้เป็นที่พึ่งที่ระลึก สนใจสอบถามได้หลังไมค์ครับ ยินดีเป็นสะพานบุญให้ครับผม

 

อยากไปกราบท่านครับ ผมอยู่จ.ตรัง

 

ไปกราบเลยครับ ท่านอยู่ตลอดครับผม

 

ประสบการณ์ พุทธานุภาพ ทรายเสก ดาโต๊ะ
สมัยพ่อท่านจรูญไปอยู่ที่วัดตีนนา อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ปี พ.ศ. 2531 พ่อท่านได้เสกทราย เพื่อนำไปหว่าน รอบๆวัด ประมาณ 20 ถัง เพื่อกันคนเข้าวันในตอนกลางคืน พ่อท่าน กล่าวว่า "ถ้าใครมาคิดร้าย คิดไม่ดี ในวัด คนนั้นจะพบกับสิ่งไม่ดีกลับตอบ หรือจะเห็น เป็นคนอยู่ หรือเฝ้าอยู่จำนวน มาก"
ในปี 2540 ปลายๆ เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เช่น การเผาโรงเรียน เผาวัด ฆ่าพระ ฆ่าชาวไทยพุทธ บ้าง "พ่อท่านกล่าวด้วยวาจาว่า วัดเราหาพรื่อไม่ (วัดเราไม่เป็นอะไรหรอก) วันหนึ่งท่านนั่งหน้ากุฏิไม้ ใต้ต้นบุคนาค มีแขก2คนขับรถมา ในวัดแล้วจอดรถตรงที่ท่านนั่งอยู่
แขกได้ถามท่านว่า "ดาโต๊ะๆๆ(เจ้าอาวาส) เมื่อคืนในวัด ดาโต๊ะจัดงานอะไร
พ่อท่าน ตอบว่า"ม่าย ม่ายงานไหรนิ (ไม่ ไม่มีอะไรนิ้)
แขกเลยบอกว่า "เมื่อคืน ผมขับรถผ่านหลายๆรอบเห็น คนเต็มวัดไปหมด พ่อท่านเลยรู้ทันทีว่า แขกกลุ่มนี้จะมาคิดร้ายต่อวัด แต่เห็นเป็นคน อยู่จำนวนมากมาย พ่อท่าน เลยบอกแขกว่า สู ตาลายนิ (คุณตาลายมั้ง) แต่แขก ยังยืนยันว่าไม่ใช่ตาลายและเห็นจริงๆ