พระเครื่อง 108 ลุ่มน้ำ.. มาวัดใจกันว่า ใครจะเป็นเจ้าสมเด็จแดง ลพ.ชาญณรงค์ ที่แท้จริง

ประสบการณ์ แก้วมณีนพรัตน์ หรือ แก้วสารพัดนึก หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
ผมเป็นคนจังหวัดสิงห์บุรี ครอบครัวค่อนข้างยากจน มีโอกาสเรียนแค่ประถม 6 ก็ต้องออกจากโรงเรียน โดยเหตุผลว่าเรียนต่อ ม.1 ค่าเทอมและค่าเสื้อผ้ารวมกันแล้วเกือบพันบาท ผมยังจำได้ดีตอนนั้นแม่ผมกอดผมไว้ และบอกว่า
"ลูกเรามันจนอย่าเรียนต่อเลยนะลูก"
ผมได้ยินแม่พูดถึงกับน้ำตามร่วงอย่างไม่รู้ตัวเพราะสงสารแม่มาก เมื่อวานผมเห็นแม่ไปขอเชื่อข้าวสารร้านข้างบ้านมา 1 กิโล ตอนนั้นผมบอกกับตัวเองว่า จะไปหางานทำเพื่อหาเงินมาให้แม่ ไม่อยากเห็นแม่ลำบากแบบนี้ ผมออกจากโรงเรียนและไปเป็นลูกจ้างล้างจานที่ร้านข้าวแกงมีหน้าที่ยกข้าวแกงไปให้ลูกค้า พอว่างก็ต้องไปล้างจาน ค่าตัววันละยี่สิบบาท
ผมทำอยู่นานเจ้าของร้านแกเป็นคนใจบุญ บอกว่าผมขยันและอดทนดี จึงขึ้นเงินให้เป็นวันละห้าสิบบาท ตามปกติเจ้าของร้านที่ผมอยู่ ถ้าวันไหนหยุดแกก็จะไปทำบุญตามวัดต่าง ๆ อยู่เสมอ มีอยู่วันหนึ่งขายดีมากอย่างไม่เคยมีมาก่อนเพียงครึ่งวันก็ขายหมด พอเก็บร้านเสร็จ เจ้าของร้านก้บอกว่า วันนี้ขายดีเลิกเร็วไม่รู้จะไปไหน ไปกราบ หลวงพ่อดู่ ที่วัดสะแก ดีกว่า แกเลยชวนผมไปด้วย ผมว่างไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน ก็เลยไปกับเขาด้วย
ไปถึงวัดสะแกประมาณสามโมงเย็น มีลูกศิษย์ของหลวงพ่อดู่ นั่งอยู่กับท่านสองคน เจ้าของร้านเข้าไปถึงก็ก้มลงกราบหลวงพ่อ ผมก็กราบตาม เจ้าของร้านพูดทักทายลูกศิษย์ที่อยู่ก่อนแล้วอย่างคุ้นเคย แสดงว่ารู้จักกันมานานแล้ว หลวงพ่อท่านท่าทางเมตตามากท่านยิ้มอย่างอารมณ์ดี และส่งถ้วยที่มีน้ำชาให้ผมและเจ้าของร้าน ท่านมองผมด้วยความเมตตา ผมขนลุกขึ้นไปถึงหัวไม่รู้เพราะอะไร ท่านบอกผมวา "กินซะน้ำมนต์" ผมก็ยกขึ้นดื่มจนหมดถ้วย พอกินหมดวางถ้วยลงกับพื้น ผมรู้สึกสว่างไปทั่ว ตัวเบา ตาดูมองอะไรก็สว่างใสไปหมด ทั้งหูก็ได้ยินชัดเจนขึ้นมากกว่ที่เคยเป็นมา จึงนึกไปว่าเราไม่เคยกินน้ำชาบ่อยนักพอมากินเข้าร่างกายถึงสดชื่น เจ้าของร้านคุยกับหลวงพ่อดู่นานมากจนเย็น วันนั้นเขาเช่าพระองค์ละหนึ่งร้อยบ้างสิบบาทยี่สิบบาทก็หลายองค์แหวนวงละสามร้อยบาทถึงห้าองค์
หลวงพ่อดู่บอกเขาว่าเอาเงินไปใส่ตู้ทำบุญไว้ ไม่ต้องเอาให้ท่าน วันนั้นผมไม่ได้พูดกับหลวงพ่อเลยสักคำ เจ้าของร้านเห็นว่าเย็นมากแล้วจึงลาหลวงพ่อกลับ เขากราบท่านผมจึงกราบตามแล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินไปที่รถ ผมก็ลุกขึ้นจะเดินตาม เสียงหลวงพ่อพูดว่า "เดี๋ยวก่อนมานี่" ผมหันไปตามเสียง เห็นท่านยิ้มอย่างเมตตา จึงเข้าไปหาท่านใกล้ ๆ ท่านหยิบลูกกลม ๆ เล็ก ๆ สีขาวอมเหลืองให้ผมหนึ่งเม็ด และท่านก็พูดว่า
"เก็บติดตัวไว้ให้ดีในนั้นมีพระอยู่ อีกหน่อยจะทำให้แกรอดตายแล้วแกจะรวยเป็นเศรษฐี"
ผมมองดูเม็ดกลม ๆ เล็ก ๆ ที่ท่านให้ก็ไม่เห็นมีพระอะไร อย่างที่ท่านบอกเลยสักองค์ท่านคงเห็นผมทำท่าแปลกใจ เลยพูดว่า "แกไปได้แล้ว" ผมรีบกราบท่านอีกครั้งแล้วรีบวิ่งไปที่รถเพรากลัวเจ้าของร้านจะรอนาน ผมขึ้นรถเจ้าของร้านก็ถามว่า "หลวงพ่อท่านเรียกทำไม" ผมบอกเขาว่า "ท่านให้เม็ดกลม ๆ ผมครับ" เจ้าของร้านหันมามองดูสิ่งที่อยู่ในมือของผมแล้วพูด 'เฮ้ยนี่ของดีหายาก' "พี่มาหาหลวงพ่อหลายครั้งแล้วยังไม่เคยได้เลย เก็บไว้ให้ดีนะโว้ย" ผมรับคำว่า "ครับพี่"
หลังจากนั้นนานสักสิบกว่าวัน เจ้าของร้านก็ไปหาหลวงพ่อดู่อีก แต่ผมไม่ได้ไปกับเขาด้วย พอเขากลับมาวันรุ่งขึ้นก็บอกผมว่าหลวงพ่อท่านฝากของดีมาให้ผม แกส่งกระดาษให้ผมใบหนึ่ง พอผมเปิดดูในนั้นมีหนังสือเขียนว่า
'พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ'
ให้ภาวนามาก ๆ ผมนึกกราบท่านในใจผมเป็นเด็กจน ๆ คนหนี่ง คิดว่าท่านคงลืมผมไปนานแล้ว แต่นี่ท่านยังเมตตาจำผมได้ และเมตตาให้คำภาวนามาด้วย ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยไปกราบพระที่ไหน พอมาเจอแบบนี้ทำให้ผมเกิดความศรัทธา หลวงพ่อดู่เป็นอย่างมาก ด้วยความศรัทธาท่านผมจึงภาวนา ไตรสรณคมณ์ เรื่อยมา ผมไปไหนต้องมีลูกกลม ๆ ที่หลวงพ่อท่านให้ติดตัวอยู่ตลอดเวลา
ระยะหลังแม่ของผมเริ่มเจ็บป่วยอยู่บ่อยครั้งไปทำงานไม่ไหว ผมจึงขอเจ้าของร้านหยุดงานเพื่อพาแม่ไปหาหมอ ผลออกมาว่าแม่ของผมเป็นเบาหวานความดัน ไขมันในเส้นเลือด และอย่างอื่นด้วย ยาแต่ละอย่างแพงมาก ผมไม่มีเงินซื้อยาดี ๆ ทางโรงพยาบาลจึงให้ตัวที่ถูก ๆ คือยาที่ไม่มีมาตรฐาน ผมเสียใจที่ตนเองไม่มีปัญญารักษาแม่ คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าทำยังไงถึงจะมีเงินซื้อยาดี ๆ ให้แม่
ก่อนออกจากบ้านเช้ามืดของทุกวันผมจะยกลูกกลม ๆ ที่แขวนอยู่ในคอขึ้นมาพนมและภาวนาไตรสรณคมณ์ทุกวัน เช้านี้ไม่เหมือนกับทุกเช้า พอผมภาวนาไตรสรณคมณ์จบก็อธิษฐานว่า "หลวงพ่อดู่ครับ ผมขอเงินมาซื้อยารักษาแม่ด้วยเทอญ สาธุ" และก็ออกไปทำงานตามปกติ ตอนสาย ๆ ของวันนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งที่ผมพอจำได้ว่านาน ๆ หลาย ๆ เดือนจะมากินข้าวแกงสักครั้ง ก็มานั่งกินอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะผมไม่ทันสังเกตุ ผมจึงตักน้ำแข็งใส่แก้วและเดินไปให้เขาตามปกติเหมือนทุกครั้ง
พอเขาเห็นผมก็พูดว่า "มาทีไรเจอทุกครั้งเลยขยันจังนะ" ผมยิ้มรับในคำทักทายของเขา แล้วพูดว่า "ถ้าไม่มาทำงานเดี๋ยวไม่มีข้าวกินครับ" เขาก็พูดว่า "เออพูดตรงดี พี่ชอบว่ะ แบบนี้ไปทำงานกับพี่ไหม" ผมถามเขาว่า "งานอะไรครับ" เขาบอกว่า "งานอยู่เรือดูดแร่ เงินดีนะน้อง" ผมถามต่อว่า "ดีของพี่ได้เดือนละเท่าไหร่ครับ" เขาตอบทันทีว่า "เป็นหมื่น" พอได้ยินคำว่าเป็นหมื่น ผมถึงกับตาโตเลยทีเดียว ผมเริ่มสนใจมาก ถามต่อว่า "ไปทำที่ไหนพี่" ชายผู้นั้นบอกว่า "จังหวัดภูเก็ต" ผมทวนคำพูดว่าภูเก็ต และนึกว่าแม่กำลังไม่สบายจะทิ้งแม่ไปได้อย่างไร แต่ถ้าได้ไปก็จะมีเงินมาซื้อยาดี ๆ รักษาแม่ ชายผู้นั้นคงเห็นผมยืนคิดอยู่นาน ชายผู้นั้นจึงพูดขึ้นว่า "อาทิตย์หน้าพี่ถึงจะไปภูเก็ตอีกสองสามวันจะมากินข้าวใหม่ น้องลองกลับไปคิดดูแล้วค่อยบอกพี่" แล้วเขาก็เดินออกจากร้านไป ผมมองดูชายคนนั้นเดินจากไปจนลับสายตา
เย็นนั้นผมกลับถึงบ้านก็นึกถึงแต่เรื่องอยากไปทำงานที่ภูเก็ต คืนนั้นผมนอนไม่หลับทั้งคืน วันต่อมาผมกำลังเอายาให้แม่กิน แม่คงสังเกตเห็นผมผิดปกติเลยถามว่า "ไปมีเรื่องอะไรกับเขาหรือเปล่า เป็นอะไรแปลก ๆ ไป" ผมจึงเล่าให้แม่ฟังทั้งหมด แม่ก็พูดว่า "เรื่องแค่นี้เอง ลูกอยากไปไหมล่ะ ไม่ต้องห่วงแม่หรอกแม่อยู่ได้" ผมบอกแม่ว่า "อยากรักษาแม่ให้หาย ถ้าผมมีเงินก็จะได้ไปซื้อยาทีดี ๆ มาให้แม่กินครับ" แม่บอกว่า "ตามใจแกถ้าอยากไปทำงานแม่ก็ตามใจ" แม่กอดผมและพูดขึ้นว่า "แม่รักลูกนะ" ผมน้ำตาไหลและกอดแม่แน่นบอกว่า "ผมก็รักแม่ครับ" และเราสองคนก็ร้องไห้
วันรุ่งขึ้นผมไปทำงานตามแบบทุกวัน พอตอนเย็นเลิกร้านแล้ว ผมก็เข้าไปหาเจ้าของร้านบอกว่าผมขอลาออก เขาท่าทางตกใจ พูดว่า "อยู่กันมาตั้งนานไม่สบายใจมีอะไรบอกพี่ได้นะ" ผมจึงเล่าเรื่องแม่ไม่สบายผมอยากได้เงินไปรักษาแม่ ให้เจ้าของร้านฟังจนหมด เขาพูดเสียงดังว่า "ให้มันได้อย่างนี้ เองทำถูกแล้วละ จะไปเมื่อไหร่" ผมตอบว่า "อีกสองสามวันครับ" เขาเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงควักเงินออกมานับ น่าจะเป็นสองถึงสามหมื่นแล้วส่งให้ผม บอกว่า "เอาไป พี่ให้" ผมงงบอกกับเจ้าของร้านว่า "ผมไม่รบกวนยืมเงินพี่หรอกครับ ถ้าเอาไปคงไม่มีปัญญามีเงินมาใช้คืนพี่"
"เอ็งกับพี่นับถือหลวงพ่อองค์เดียวกัน เท่ากับเราเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันเหมือนพี่เหมือนน้อง ต้องช่วยเหลือกันถึงจะถูก เงินนี้พี่ไม่ได้ให้ยืมแต่พี่ช่วยโดยไม่ต้องเอามาคืน"
ผมเกรงใจเจ้าของร้านมากเขาเป็นคนใจบุญ มีเมตตาและยังมีน้ำใจต่อผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอีก ผมก้มลงกราบเขาเพราะไม่มีอะไรจะตอบแทนความดีของเขา และนึกในใจว่าขอให้พี่จงเจริญ ๆ วันต่อมาชายผู้นั้นก็มากินข้าวแกง พอเขาเห็นผมก็ถามว่า "คิดได้หรือยัง" ผมตอบว่า "ไปครับ" เขาพูดว่า "เออดีไม่เสียแรงที่ชวน" ผมนัดกับเขาถึงวันที่จะออกเดินทาง เมื่อรู้วันเดินทางแล้ว ผมก็ไปบอกกับแม่และให้เงินแม่เก็บไว้หาหมอรักษาตัวระหว่งที่ผมไปทำงานผมบอกแม่ว่า "ได้เงินเดือนเมื่อไหร่ผมจะรีบส่งมาให้แม่ทุกเดือน"
ผมนำเงินติดตัวไปแค่หนึ่งพันบาทเป็นค่ารถ และในที่สุดผมได้ไปขุดทองที่ภูเก็ตเหมือนกับเวลาที่ผู้ใหญ่เขาคุยกันสมัยก่อนว่า ใครไปทำงานขุดพลอยเมืองจันทบุรี หรือไปทำแร่ภาคใต้เท่ากับไปขุดทอง แต่สิ่งที่มีคุณอนันต์ตรงกันข้ามก็จะมีโทษมหันต์เหมือนกัน ไปร่ำรวยกันมาก็มากพากันไปตายมาก็เยอะผมนั่งรถไป ใจก็คิดว่าเราจะไปแล้วรวยหรือไปตายก็ยังไม่รู้ คิดไปคิดมายิ่งสับสน ผมจึงคิดว่าตายเป็นตาย ผมต้องหาเงินรักษาแม่ให้ได้ มือก็กำลูกกลม ๆ ของหลวงพ่อดู่และอธิษฐานว่า
"เรือลำไหนที่ดีเจ้าของเป็นคนดีมีเมตตาอยู่แล้วจะมีเงินมาก หรือร่ำรวยขอให้ผมได้ไปอยู่กับผู้นั้นด้วยเถิดสาธุ"
และผมก็ไปถึงจุดหมายปลายทาง ที่นั่นเป็นท่าเรือใหญ่ผู้คนมองดูพลุกพล่านคุยกันเสียงดังอย่างไม่มีใครเกรงใจกันบางกลุ่มก็คุยภาษาอีสานบางพวกก็พูดใต้ มีคนส่วนน้อยที่พูดภาษาภาคกลาง ที่นี่มีคนจากหลายจังหวัดหลายพ่อหลายแม่น้อยคนที่จะมองดูแล้วบอกได้ว่าเป็นคนสุภาพแทบจะหาไม่เจอเลยทีเดียว ส่วนมากจะท่าทางนักเลง บางคนก็ตัวดำยังไม่พอแถมยังสักยันต์เต็มตัว มองดูแล้วไม่น่าไว้ใจ หรือที่เขาเรียกกันว่าน่ากลัว..
ผมเดินตามพี่คนที่พาผมไปทำงาน เขาบอกว่าตัวเราชื่อโก๋ พี่โก๋ เดินนำหน้า ผมเดินตามเดินผ่านวงเหล้าที่นั่งกินกันเป็นกลุ่ม ๆ บางคนหันมาเห็นพี่โก๋ก็ร้องทักว่า "เฮ้ยมากินเหล้าด้วยกันโว้ยไอ้โก๋" พี่โก๋ก็จะตอบว่า "พวกมึงกินกันเถอะ วันนี้กูยังไม่อยากเมา" พอมาถึงที่พักซึ่งเป็นเหมือนห้องแถวประมาณสิบกว่าห้อง ตรงกลางมีลานกว้างประมาณ 7-8 เมตร มีโต๊ะหินสองตัวต่อกันคนนั่งได้สักสิบกว่าคนสบายมาก ที่ตรงนั้นมีผู้ชายกลุ่มใหญ่นั่งกินเหล้ากันอยู่พอเห็นผมกับพี่โก๋ ก็ร้องทักว่า "พี่โก๋พาใครมาด้วยละ" พี่โก๋บอกว่า "น้องชายมันชื่อตั้ม" ในกลุ่มนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งท่าทางคงเมามากแล้วพูดว่า "หน้ามันอ่อนอย่างนี้มึงจะพามันเล่นลิเกหรือว่ะไอ้โก๋" "กูจะพามันมาทำงานกับนายเค้า ไม่ได้มาเล่นลิเกแบบมึงว่าหรอก" เสียงชายคนเก่าพูดว่า "ไอ้โก๋มึงยังกวนตีนเหมือนเดิมนะไม่ได้เห็นหน้ากันเสียหลายวัน" พี่โก๋พูด "กูยังเหมือนเดิม" แล้วแกก็พาผมไปพักห้องเดียวกับแก "มึงอยู่กับพี่ที่นี่แหละพี่อยู่คนเดียว ห้องมันใหญ่ไปจะได้มีเพื่อนคุยถ้ามึงไปอยู่คนเดียวไอ้พวกเหี้ยมันเยอะ เดี๋ยวไม่มีคนดูแลจะเกิดเรื่อง"
เช้าของวันต่อมา พี่โก๋พาผมไปยังบ้านหลังหนึ่งใหญ่โตมาก มีคนมาเปิดประตูรั้วบ้านให้เราสองคนเข้าไปในบ้าน มีผู้ชายตัวใหญ่ดำสักมังกรพันแขน ใส่กางเกงตัวเดียวไม่ใส่เสื้อ อยู่ที่โต๊ะทำงาน พอเห็นพี่โก๋ก็พูดว่า "เป็นยังไงกลับบ้านซะหลายวันพี่นึกว่าอาทิตย์หน้ามึงถึงจะกลับมาเรือมันขาดคนทำงานไม่ได้ดีเลยวะ" ตัวดำใหญ่ผมคิดว่าแกคงน่ากลัวแต่ที่ไหนได้แกพูดจายิ้มแย้มอารมณ์ดีท่าทางใจดีอีกต่างหาก ชายเจ้าของบ้านถามพี่โก๋ว่า "แล้วพาใครมาด้วยละ" แกตอบ "น้องครับพี่ ผมจะเอามันมาฝากให้ทำงานกับพี่ครับ" "รูปมันหล่อหน้ามันอ่อนจะทำงานไหวหรือวะโก๋" "พี่ก็ให้งานเบา ๆ ให้มันทำก็ได้" เป็นอันว่าผมได้งานทำ ในห้องนั้นที่โต๊ะรับแขกมีผู้หญิงแต่งชุดนักศึกษานั่งเขียนหนังสืออยู่สามคน มุมโต๊ะมีจานขนมและผลไม้วางอยู่ พวกเธอมองผมและก็ยิ้มให้ ผมยิ้มตอบ พี่โก๋ลาชายเจ้าของบ้าน ผมก็ยกมือไหว้เขาและพากันกลับยังที่พัก ตอนหลังผมมารู้ว่าผู้หญิงสามคนนั้นคนหนึ่งเป็นหลานสาวของเจ้านาย อีกสองคนเป็นเพื่อนของเธอ
เรื่องมันยาวครับผมขอเล่าเรื่องที่สำคัญดีกว่า เดือนต่อมาผมได้เงินเดือน พอได้ก็รีบส่งไปให้แม่ เงินประมาณหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน ผมให้แม่เกือบหมด เหลือไว้บางเดือนก็ห้าหกร้อยบาทเท่านั้นก็พอใช้เพระผมไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ คนอื่นเขาได้เงินมาก็ไปกินเที่ยวกันแต่ผมไม่ไปเพราะไม่ชอบ ที่นั้นมีทุกอย่างทั้งเหล้า การพนัน ผู้หญิง เพราะเรือแร่ขึ้นทีคนงานจะมีเงินกันเป็นจำนวนมาก บางคนก็ไปสิบห้าวันจะได้เงินประมาณสามหมื่น บางคนงานเบาเป็นคนถือสายน้ำฉีดแร่ก็จะได้ประมาณหมื่อนแปดพันหรือสองหมื่น คนที่ถือสาย่อดูดแร่ลงไปใต้น้ำเสี่ยงชีวิตมากก็จะได้เงินมากกว่าอื่นเป็นเท่าตัว
มีคนมากมายที่ต้องเอาชีวิตไปทิ้งไว้ที่นั่น ฆ่ากันตายก้เยอะลงไปดูดแร่เกิดเรื่องต่าง ๆ ตายกันไปจนนับไม่ถ้วน ที่นั่นไม่มีใครสนใจใครเพราะเป็นที่ไกลปืนเที่ยง ฆ่ากันตายบ่อยมาก พอตายตำรวจมาตรวจดูศพแล้วก็ไปโดยมาเอาผิดกับใครไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะตำรวจไม่ค่อยในใจ เพราะคนมาอยู่รวมกันมาก ๆ เป็นร้อยพ่อพันธ์แม่ ยากแก่การดูแล มีทั้งดีและชั่วปนกันไป ผมมาอยู่ตั้งแต่ตัวยังไม่โตนัก ตอนนั้นผมอายุ 16 ปี ตัวเล็กเอวบางร่างน้อย คนอื่นดูแล้วว่าท่าทางไม่แข็งแรง เราออกเรือจะใช้เวลาไปกลับสิบห้าวันเจ้าของเรือตั้งเป้าของน้ำหนักแร่ไว้ว่าถ้าได้ 1,000 กิโลเมื่อไหร่ก็กลับได้เลย แต่ถ้าสิบห้าวันแล้วยังได้แร่ไม่ถึง 1,000 กิโลต้องกลับเหมือนกันเพระอาหารและน้ำดื่มที่เตรียมไปพอแค่สิบห้าวัน สิบห้าวันถ้าได้แร่ 700-800 กิโล ลูกเรือก็จะได้เงินน้อยแต่ถ้าได้แร่ถึง 1,000 กิโล คนถือท่อดูดแร่ที่ลงไปใต้น้ำจะได้เงินประมาณ 30,000 บาท คนฉีดน้ำบนเรือจะได้เงินประมาณ 20,000 บาท ถ้าเป็นผมจะได้ 10,000 บาท
แต่ต่อมาผมได้เงินมากกว่าคนอื่นเสียอีกด้วยเหตุผลว่าพี่เจ้าของเรือแกชอบผมมาก เขามีเรืออยู่หลายลำ แต่ลำที่ผมอยู่เจ้าของเรือไปคุมด้วยตัวเอง แกเคยบอกผมว่า ครั้งไหนที่ผมไม่สบายและไม่ได้ไปด้วยต้องไปนานจนครบสิบห้าวันทุกครั้งเลย แต่ถ้าผมไปด้วยอย่างมากก็แค่ 7 วันก็ได้แร่ถึง 1,000 กิโล และบางครั้งก็ห้าวันก็มี บางหนสามวันยังมีเลย
"พี่สังเกตเห็นแกเวลาที่เรือจะออกจากฝั่งจะยกสิ่งที่แขวนคอซึ่งเป็นเม็ดกลม ๆ เล็ก ขึ้นมายกมือพนมแล้วว่าคาถาอะไรไม่รู้ แต่คาถาของเองนี่ขลังจริง ๆ ว่ะ พี่นับถือ"
ตอนหลังถ้าผมไม่สบาย แกบอกว่าไม่ต้องหยุดงาน ไปนอนในเรือแต่ไม่ต้องทำงานก็ได้ แต่แกแบ่งเงินให้เหมือนเดิมแกว่า "แค่เองไปด้วยพี่ก็ได้กลับเร็วกว่าปกติตั้งเยอะ" ผมมาอยู่กับพี่เขานี่ก็สามปีแล้วผมโตเป็นหนุ่มเต็มตัวตอนนี้ไม่ได้เงินน้อยแล้ว คนที่ลงถือท่ออยู่ใต้น้ำถ้าเขาได้เงิน 30,000 บาท ผมก็จะได้เงินถึง 40,000 บาท เลยทีเดียว ซึ่งผมไม่ได้มีคาถาอะไรอย่างที่เขาว่าหรอก เพียงแต่เวลาจะออกเรือผมก็จะยกลูกกลม ๆ ที่หลวงพ่อดู่ให้มาแล้วอธิษฐานว่า
"ขอให้ผมปลอดภัยได้เงินมา เพื่อเอาไปรักษาแม่ด้วยเทอญ สาธุ"
ออกเรือทีไรลำอื่นไม่ได้แร่กัน แต่ลำที่ผมไปกับได้มากและกลับเร็วกว่าลำอื่นเสมอ เจ้าของเรือจึงรักผมมากบอกว่าอยู่กันแล้วเจริญรุ่งเรืองคนแบบนี้หายาก ผมโชคดีทั้งเรื่องงานและความรัก หลานสาวของเจ้าของเรือ เธอก็มารักผมด้วย ไม่เพียงแค่นั้นเพื่อรักของเธอทั้งสองคนก็รักผมเหมือนกัน จึงทำให้ผมเลือกไม่ถูกว่าคนไหนดี เธอทั้งสามคนเป็นคนสวยและน่ารักมาก ผมเคยบอกกับเธอทีละคนว่าบ้านผมที่จังหวัดสิงห์บุรีหลังเล็กเพราะครอบครัวของผมยากจน เธอบอกว่าจน ๆ แหละชอบ แค่เห็นผมครั้งแรกที่ผมมาสมัครงานกับพี่โก๋ คืนนั้นกลับไปนอนไม่ค่อยหลับเลย ผมนึกในใจอะไรจะขนาดนั้น อยู่มาไม่นานนัก พวกชายหนุ่มที่หลงรักพวกเธอ แต่ผมไม่รู้ว่าคนไหนเพราะมีผู้ชายมาจีบพวกเธอมากมายหลายคน ส่วนมากจะรวย ๆ กันทั้งนั้น
และวันนั้นก็มาถึง ผมจะต้องจำไปตลอดชีวิตอย่างไม่มีวันลืมเลยทีเดียว !!
ผมออกเรือไปดูดแร่ตามปกติแต่ครั้งนี้เจ้าของเรือไม่ได้ไปด้วยเพระเขามีธุระสำคัญต้องไปทำ ออกเรือไปเป็นวันที่สี่ได้แร่ประมาณ 800-900 กิโลแล้ว จะกลับอีกสองวันนี่แหละ คืนนั้นอากาศดีดาวเต็มท้องฟ้า ผมยืนคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่ท้ายเรือ ได้ยินเสียงคนเดินมาข้างหลังจึงหันไปดูก็เห็นลูกเรือด้วยกันแต่วันนี้เขาไม่ได้มาอย่างมิตร ในมือเขาถือปืนมาด้วย พอเขารู้ว่าผมเห็นเขา ก็ยกปืนในมือมายิงผม มีเสียงดัง "ปั้ง ปั้ง ปั้ง" เป็นระยะ ๆ คมกระสุนปืนพุ่งเข้าหาผมทุกนัดอย่างแม่นยำ จนตัวผมกระเด็นตกจากเรือ
ตอนนั้นผมตกใจยังทำอะไรไม่ถูก หล่นไปในน้ำมันก็มืด ผมมองไม่เห็นตัวเองได้แต่เอามือลูบ ๆ ดูว่าแผลถูกยิงตรงไหนบ้าง
แต่น่าแปลกตัวผมไม่มีบาดแผลสักแห่งเดียว !!
แต่ผมต้องลอยคออยู่ในทะเลจนถึงเช้าและมีคนที่อยู่เรือลำอื่นมาช่วยและพาขึ้นฝั่ง ตอนหลังผมมารู้ว่าผู้ชายที่หลงรักผู้หญิงที่มารักผมจ้างลูกเรือที่อยู่เรือลำเดียวกับผมเป็นเงิน 50,000 บาท เพื่อฆ่าผมทิ้งกลางทะเล
ตอนที่ผมถูกยิงผมจำได้ว่า ผมเห็นพระพุทธรูปเหมือนกับองค์ที่อยู่ที่วัดหน้าพระเมรุในพระอุโบสถจำได้ดีว่าเป็นพระมหาจักรพรรดิ์ มาลอยอยุ่ข้างหน้าของผม กระสุนปืนทั้งหมดทะลุผ่านองค์พระมหาจักรพรรดิ์แล้วถึงมาโดนตัวผม ด้วยอำนาจของพระพุทธคุณนี้เอง จึงทำให้ลูกกระสุนปืนทุกนัดไม่ระคายผิวของผม ทำให้ผมนึกไปถึงตอนที่หลวงพ่อดู่ท่านมอบลูกกลม ๆ ให้ผมและท่านบอกวา มีพระอยู่ในนั้น หลายปีที่ผ่านมาผมมองดูทีไร ไม่เคยเห็นพระที่ท่านบอกสักองค์ มาเห็นพระตอนที่ผมถูกยิงนี่เอง
ดีที่ผมจำคำสอนของหลวงพ่อดู่ได้ตลอดไม่เคยลืมคำว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ และภาวนาอยู่ทุกวัน
ถ้าไม่มีพุทธัง ธัมมัง สังฆัง ผมคงตายไปแล้ว !!
ผมรอดตายโดยไม่มีบาดแผลไม่สามารถเอามือปืนและคนว่าจ้างมาลงโทษได้ตามกฏหมายทั้งตำรวจก็ไม่สนใจในเรื่องคดีเพราะคนที่ว่าจ้างเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ผมไม่ตายยิ่งเพิ่มความโกรธแค้นให้กับคนที่ว่าจ้างคนมาฆ่าผมหลายเดือนผ่านไป เมื่อเขารู้ว่ากระสุนปืน ไม่อาจฆ่าผมได้จึงเปลี่ยนวิธิใหม่เขาไปจ้างหมออิสลามหรือที่เรียกกันว่าหมอแขกเพระพวกนี้มีวิชาอาคมเข้มขลังมาก สามารถทำคุณไสยให้คนตายมามากต่อมาก ที่นั่นคนอยู่เรือเขาไม่นิยมใส่รองเท้ากัน เพราะเวลาเดินบนเรือมันจะลื่นง่ายเลยเป็นเรื่องไม่ยากนักที่เขาจะให้คนแอบมาเอารอยเท้าของผมไปทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์มนต์ดำ
ช่วงนั้นผมคงกำลังดวงตก อยุ่ ๆ เชือกแขวนพระขาด เลยยังหาเชือกใหม่ไม่ได้ ผมเก็บลูกกลม ๆ ของหลวงพ่อดู่ไว้หัวนอนรุ่งเช้าก็ลืมนำติดตัวไปด้วย เที่ยวนั้นเรือดูดแร่ออกไปได้เพียงวันเดียวผมก็ปวดท้องอย่างแรง จนพี่เจ้าของเรือจะเอาเรือเข้าฝั่ง
ผมบอกว่าอย่าเลยพี่เดี๋ยวนอนพักก็หาย แต่ไม่เป็นอย่างนั้น ผมเริ่มปวดจากท้องแต่เดี๋ยวก็ปวดหัวจนลูกตาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตา หนักเข้าไม่ใช่หัวอย่างเดียว ในที่สุดก็ปวดไปทั้งตัว แม้แต่กระดูกยังปวด คิดในใจว่าจะรอดหรือเปล่า กลางคืนนอนก็ฝันเห็นแต่ผีปีศาจจะมาเอาชีวิตบางครั้งเหมือนกับครึ่งหลับครึ่งตื่นผีแขกใส่หมวกแบบอิสลามมาบังคับให้ผมเอาเชือกมาผูกคอ ผมไม่ยอมทำตามมันก็บอกว่าให้ไปโดดทะเล ผมนอนดิ้นไปดิ้นมาปวดทรมานไปทั้งตัว ผีเข้ามาบังคับจะเอาชีวิตอีก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตอนหลังมันมากันเป็นสิบ ๆ ตัว มันพูดว่ามึงต้องตาย บางตัวก็จับแขนกดเอาไว้อีกตัวก็กดขา ไอ้ตัวดำสูงใหญ่เข้ามาบีบคอ จนผมเริ่มหายใจไม่ออก ตอนนั้นผมร้องไห้คิดถึงแม่คิดว่าคงไม่ได้กลับไปเห็นหน้าแม่อีกแล้ว ครั้งนี้ต้องตายแน่นอน !!
a.jpg
มีเสียงหนึ่งซึ่งผมจำได้ว่าเป็นเสียงของ หลวงพ่อดู่ ท่านพูดว่า พุทธัง ธัมมัง สังฆัง พอผมได้ยินหลวงพ่อท่านบอก ผมก็ตั้งจิตภาวนาว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ก็มีรัศมีเป็นแสงสว่างหลายสีพุ่งออกมาจากตัวผมรอบตัวทำให้แสงรัศมีนั้นโดนปีศาจทุกตัวมันร้องอย่างเจ็บปวดแสงสว่างนั้นกลายเป็นไฟเผาพวกปีศาจทั้งหมดละลายไปกับอากาศ
ผมเห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นกราบหลวงพ่อดู่ ใจก็บอกตัวเองว่ารอดตายแล้ว คืนนั้นผมไม่ยอมนอน ผมนั่งสมาธิทั้งคืนจนเช้า ประมาณแปดโมงเช้ามีเรือผ่านมาจะเข้าฝั่ง เจ้าของเรือที่ผมอยู่ รีบเรียกเรือลำนั้น ผมนอนอยู่ใต้ท้องเรือได้ยินเสียงเขาชัดเจน เขาบอกคนคุมเรือลำนั้นว่า "น้องกูไม่สบายฝากเข้าฝั่งด้วย" แกรักและเป็นห่วงผมแบบน้องชาย พอเรือเข้าถึงฝั่งผมรีบตรงไปยังห้องพักแทนที่จะไปหาหมอ ถึงห้องก็ไปที่หัวนอนหยิบลูกกลม ๆ ยกมือพนมพระ ถึงหลวงพ่อดู่ ตั้งนะโมสามจบ แล้วภาวนาไตรสรณคมณ์ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
เท่านั้นผมอ๊วกออกมาเป็นน้ำสีเหลือง ๆ เหม็นไปทั่วบริเวณนั้น สิ่งที่ออกมามันเหมือนกับน้ำเหลืองผีอย่างไงอย่างนั้นเลยทีเดียว พออ๊วกเสร็จผมรู้สึกร่างกายเบาสบายสดชื่นเหมือนไม่เคยเจ็บปวดมาเลย ทั้งที่เมื่อคืนผมปวดไปทั้งตัว ครั้งนี้ถ้าไม่ได้อำนาจของ ไตรสรณคมณ์ ผมจะเป็นอย่างไรอาจจะไม่รอดก็ได้ใครจะรู้
ตอนหลังผมมารู้ชื่อของลูกกลม ๆ ที่หลวงพ่อดู่ให้มาว่าชื่อ 'ลูกแก้วสารพัดนึก' ภูเก็ตที่ผมไปอยู่ตรงนั้นเขาเรียกว่า ท่านุ่น สมัยนั้นยังเป็นดินแดนป่าเถื่อนหรือที่เรียกว่า ไกลปืนเที่ยง แต่ผมก็รอดชีวิตมาได้ถึงสองครั้ง ครั้งแรกโดนยิง แต่กระสุนปืนไม่อาจระคายผิวของผม ครั้งสองโดนคุณไสยมนต์ดำของหมอแขก แต่ก็รอดมาอีก ไปอยู่ที่ไหนก็จะมีคนดีคอยช่วยเหลือ รักใคร่เมตตา โชคลาภทั้งทรัพย์สินเงินทองก็ได้มาจากการทำกิน จะไปทำอะไรอาชีพเดียวกับคนอื่น คนอื่นเขาทำแล้วไม่ค่อยได้ดี แต่พอผมทำก็จะเจริญและร่ำรวยอย่างผิดหูผิดตา ทั้งผู้หญิงดี ๆ ก็มารักผมหลายคน
ผมเป็นคนที่ไม่ชอบแต่งตัว ทองสลึงเดียวก็ไม่เคยมีติดตัว ใส่เสื้อผ้าถูก ๆ แต่ผู้หญิงกลับมาชอบอย่างมากมายหลายคนเงินทองทั้งหมดที่ได้มา ผมส่งไปให้แม่หมด เหลือไว้ใช้เพียง 500-600 บาทต่อเดือนเท่านั้น ชีวิตของผมดีขึ้นเรื่อย ๆ หลายปีผ่านไป เดี๋ยวนี้ผมกลายเป็นเศรษฐีมีเงินทองมากมายทั้งเป็นเจ้าของเรือดูดแร่อีกหลายลำ แต่ผมไม่เคยลืมตัว ยังแขวนลูกแก้วสารพัดนึกอยู่ในคอตลอดเวลา
ผมจำได้ตอนที่หลวงพ่อดู่ให้ลูกแก้วสารพัดนึกท่านบอกว่า
"เก็บติดตัวไว้ให้ดีในนั้นมีพระอยู่ อีกหน่อยจะทำให้แกรอดตาย แล้วแกจะรวยเป็นเศรษฐี"
คำพูดของหลวงพ่อดู่ ท่านศักดิ์สิทธิ์ เป็นจริงทุกคำ ผมอยู่ที่ภูเก็ตนานจึงมีเพื่อนมากเคยมีเพื่อนคนหนึ่งมันชอบสะสมพระดัง ๆ ที่มีราคาแพงมาก ๆ มันถามผมว่า "มึงเป็นเถ้าแก่ใหญ่เงินทองมากมาย ทำไมเอาลูกอมกลม ๆ มาแขวนคอลูกเดียววะ ไม่หาสมเด็จวัดระฆังมาแขวนคอสักองค์"
ผมตอบมันว่า
"พระสมเด็จน่ะดีต้องคนมีบุญมีวาสนาถึงจะได้มีไว้ครอบครอง สำหรับกูลูกกลม ๆ นี่แหละดีที่สุดแล้ว มึงรู้ไว้เลยนะที่กูมีวันนี้ได้ก็เพราะลูกกลม ๆ นี้แหละ"
ข้อมูลจาก: นโภคทรัพย์ ฉบับที่ 5
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน
ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น

 

สมเด็จปรกโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่นาค วัดระฆัง 2495

คุณ sunmk บูชาแล้วครับ

ขนาดองค์พระ กว้าง 2.7 x 3.9 ซม.เนื้อผงใบลาน ซึ่งสร้างน้อยกว่าเนื้อผงขาวครับ สมเด็จปรกโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ ส่วนใหญ่ที่ได้พบเจอจะเป็นเนื้อผงขาว เนื้อผงใบลานมีจำนวนการสร้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเองครับ คนเก่าๆบอกว่าเนื้อผงใบลานเป็นพระคะแนน จึงเป็นเนื้อที่พบเห็นได้ค่อนข้างยาก ส่วนผสมของหลวงปู่นาคแทบทุกพิมพ์ จะมีพระสมเด็จปิลันทร์ที่แตกหักเมื่อครั้งเปิดกรุ ผงวิเศษ 5ประการ เก่าแก่ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่พบบนเพดานโบสถ์วัดระฆัง พระสมเด็จวัดระฆังแตกหักที่ได้รับมอบต่อๆกันมา จากเจ้าอาวาสวัดระฆังองค์ก่อนๆ ปูนหอย ดินสอพอง เกสรดอกไม้ กล้วยน้ำหว้า น้ำมันตังอิ้ว เพื่อใช้ประสานเนื้อพระให้เหนียวแน่นเป็นหนึ่งเดียว และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ใบลานจารอักขระพระคาถาเลขยันต์เก่าแก่ของวัดระฆังที่ชำรุด นำมาเผาไฟเพื่อนำมาเป็นมวลสาร " ในการสร้างพระสมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงใบลาน "

พระสมเด็จ หลวงปู่นาค วัดระฆัง ทุกพิมพ์ผมว่าเป็นพระดีที่น่าใช้น่าสะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเจตนาในการสร้างดี มีมวลสารชั้นดีมากมาย พุทธคุณจะเด่นเน้นหนักไปในทางเมตตามหานิยม โชคลาภ เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในการงาน ใช้แทนพระสมเด็จ วัดระฆัง ได้เลยครับ

บูชาองค์ละ 700 บาท

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

เหรียญหล่อโบราณ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

องค์พระกว้าง 2.7 ซ.ม สูง 3.2 ซ.ม เป็นเหรียญหล่อโบราณ เนื้อทองดอกบวบ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ที่มีอายุการสร้างพอสมควร แต่ไม่ทราบว่าเป็นพิมพ์พิเศษที่หลวงพ่อเงิน วัดบางคลานใด้สร้างไว้ หรือว่าลูกศิษย์เอกในยุคแรกๆของท่านเป็นผู้สร้าง เนื่องจากเพิ่งใด้และเพิ่งเคยเห็นเป็นเหรียญแรก ทางผมจึงไม่มีข้อมูลตรงนี้ครับ

เหรียญหล่อโบราณ ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ถ้าเป็นเหรียญหล่อรุ่นเก่าๆล้วนแต่คงความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น ถ้าใจเราเคารพศรัทธาเชื่อมั่นในพระพุทธคุณ ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ขึ้นคอใด้อย่างสบายใจครับ

บูชาองค์ละ 1000 บาท

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

พระเม็ดน้อยหน่า กรุทุ่งเศรษฐี จ.กำแพงเพชร

จิ๋วแต่แจ๋ว เล็กพริกขี้หนู องค์พระเล็กเท่าเม็ดน้อยหน่า กรุเก่าทุ่งเศรษฐี..พระองค์นี้เนื้อแก่ไฟ เนื้อจึงออกมาเป็นสองสี แดง~ดำ จัดว่าเป็นเนื้อที่หาได้ยาก..ไม่ค่อยได้พบเห็นง่ายๆ พระเม็ดน้อยหน่า กรุทุ่งเศรษฐี สุดยอดพระชุดเล็กของเมืองกำแพงเพชร เนื้อดินจะมีความละเอียดหนึกนุ่ม ไม่แพ้พระซุ้มกอ พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน พระกำแพงเขย่ง พระกลีบบัว กรุใดๆของเมืองกำแพงเพชร

ถ้า..จะว่ากันตามความจริงแล้ว พระเม็ดน้อยหน่า กรุเก่าทุ่งเศรษฐี เป็นพระที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานรบทัพจับศึกต่อสู้กับอริราชศัตรูป้องบ้านป้องเมืองโดยตรง จึงสร้างมาให้องค์พระเล็กมีความมน เพื่อที่จะใส่ปากอมไว้ตรงกระพุ้งแก้ม หรือเอาพระใส่ไว้ในผ้าประเจียด แล้วพันผ้าประเจียดไว้ตรงต้นเขียน เพื่อประจัญบานกับอริราชศัสตรู อย่างไม่หวั่นเกรง

พระพุทธคุณ มหาอุตม์ แคล้วคลาด คงกระพัน คือหัวใจหลักของพระเม็ดน้อยหน่า พระเขี้ยวงู ใช้แทนพระกำแพงซุ้มกอ พระกำแพงเม็ดขนุน พระกำแพงเขย่ง พระกำแพงลีลาพลูจีบ พระกำแพงกลีบบัว ได้อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่าสร้างและปลุกเสกพร้อมกัน เป็นดินที่มาจากก้อนเดียวกันแบ่งไปกดพระซุ้มกอบ้าง แบ่งมากดพระเม็ดน้อยหน่าบ้าง

บูชาองค์ละ 1500 บาท

พระเนื้อดินกรุเก่ากำแพงเพชรแท้ๆ องค์ละพันกว่าบาท ไม่ใด้พบเจอง่ายๆดอกครับ

 

พระรอด เนื้อตะกั่วอวนจ้าวสมุทร ลพ.เปี่ยม วัดเกาะหลัก

พระรอด เนื้อตะกั่วอวนเจ้าสมุทร หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์ สุดยอดพระเกจิอาจารย์ ที่มีตะบะอำนาจกฤตยาคมอันเกรียงไกร ท่านเป็นหมอรักษาคนป่วยที่ถูกผีเข้าเจ้าสิง ตั้งแต่สมัยที่ท่านยังเด็กๆยังไว้ผมจุกอยู่เลยชาวบ้านเรียกท่านว่า หมอจุก พวกผีเข้าเจ้าสิงนี่ หมอจุกใช้น้ำมนต์เป่าพรวดเดียว ผีหนีออกจากร่างแทบไม่ทัน เป็นที่มห้ศจรรย์ใจ แก่ผู้ที่ได้พบเห็นเป็นยิ่งนัก แสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อเปี่ยม ท่านเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญ เรืองพระเวทย์วิทยาคมมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย

ท่านจึงมีพลังอำนาจทางจิตสูงเป็นที่เกรงขาม ของบรรดาขุนโจรสามร้อยยอดในสมัยนั้น ไม่กล้าเข้ามาสร้างความเดือดร้อนในแถบคลองวาฬ ด้วยเกรงบารมีวาจาสิทธื์ของหลวงพ่อ พระรอดเนื้อตะกั่วอวนจ้าวมหาสมุทร สร้างประมาณปี พ.ศ 2484 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ประสบภัยจากสงครามโลกครั้งที่ 2

พระรอด เนื้อตะกั่วอวนเจ้าสมุทร ลพ.เปี่ยม สร้างจากตะกั่วอวนเรือประมง ที่สามารถนำเรือรอดพ้นจากคลื่นลมพายุ มรสุมกลางทะเล กลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย สร้างจากตะกั่วอวนตรงส่วนที่ถูกปลาฉลามกัด พุ่งชน และสามารถแหวกวงล้อมอวน ของชาวประมงหลุดรอดออกไปได้ ชาวเรือประมงจะนำตะกั่วอวนตรงจุดดังกล่าว..มาถวายให้ ลพ.เปี่ยม วัดเกาะหลัก จากนั้นท่านจะนำตะกั่วอวนมาหลอมแล้วรีดเป็นแผ่นบางๆ จากนั้นท่านจะจารอักขระพระคาถาต่างๆลงไป จากนั้นนำไปหลอมแล้วรีดเป็นแผ่นบางๆ และจารอักขระพระคาถาต่างๆ ท่านจะทำซ้ำๆวนอยู่อย่างนี้นับสิบ นับร้อยครั้ง การทำดังกล่าว โบราณเรียกว่าการลงถมพระคาถา ลงถมยันต์ เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังของโลหะตะกั่ว ที่จะนำมาหล่อหลอมสร้างเป็นวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง

เหตุที่ท่านใช้ตะกั่วอวน ตรงส่วนที่ถูกปลาฉลามพุ่งชน จนอวนขาดกระจุย มาเทหล่อพระรอด เนื้อตะกั่วอวนจ้าวสมุทร เพื่อเป็นอุปเทห์ให้ผู้ใช้พระรอดของท่าน แคล้วคลาด ปลอดภัย สามารถพุ่งชนปัญหา อุปสรรคที่คอยขวางกั้น ให้ขาดกระจุยกระจาย ดุจดั่งปลาฉลามพุ่งชนอวนหาปลา อุปสรรคที่คอยขวางกั้น..จนขาดกระจุย หลุดรอดออกไปใด้นั่นเองครับ

บูชาองค์ละ 1200 บาท

 

พระ 25 ศตวรรษ เนื้อชินตะกั่ว พิมพ์พระศกจุด

แท้ แท้ แท้ พระลีลา 25 พุทธศตวรรษ เนื้อชินตะกั่ว มีพระพุทธคุณครบถ้วนในทุกด้าน ประสบการณ์ทางด้านคุ้มครองภัยผู้ใช้ล้วนมากมี ปลุกเสกโดยสุดยอด 108 พระเกจิอาจารย์ที่เก่งสุดยอดในยุคกึ่งพุทธกาล พ.ศ 2500 ทุกวันนี้ จะหาองค์ที่แท้จริงๆ และสวยด้วย หรือพอสวยยากมากๆ ส่วนมากพอเจอองค์ที่สวยสักหน่อยก็เก๊ๆๆซะงั้น พอเจอของแท้ๆดูง่ายๆ สภาพหน้าตาก็สึกเลี่ยนจนมองไม่เห็นหน้าตา กว่าจะเจอแท้ด้วยสวยด้วย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

พระ 25 พุทธศตวรรษ ปลุกเสก ณ.พระอุโบสถวัดสุทัศน์เทพวราราม เป็นเวลาหลายวันหลายคืน โดยสุดยอดพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ซึ่งเป็นที่นับถือเคารพศรัทธาเป็นสูง ของประชาชนในยุคนั้นสมัยนั้น สืบต่อมาจนถึงสมัยปัจจุบันนี้ ประชาชนทั่วประเทศต่างยอมรับว่า พระเกจิอาจารย์ที่มาปลุกเสกพระ 25 ศตวรรษ ท่านสุดยอดจริงๆครับ


รายชื่อพระเกจิอาจารย์ ที่มาร่วมพิธีปลุกเสก พระ 25 พุทธศตวรรษ กดที่ภาพขยายดูใด้ครับ
01.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพ
02.หลวงพ่อภักดิ์ วัดบึงทองหลาง กรุงเทพ
03.หลวงพ่อกึ๊น วัดดอนยานนาวา กรุงเทพ
04.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลญาณมิตร กรุงเทพ
05.เจ้าคุณผล วัดหนัง บางขุนเทียน กรุงเทพ
06.หลวงพ่อหุ่น วัดบางขวด (วัดนวลจันทร์)
07.หลวงพ่อกล้าย วัดหงษ์รัตนาราม กรุงเทพ
08.หลวงพ่อเฟื่อง วัดสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพ
09.หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร กรุงเทพ
10.พระอาจารย์พี วัดสวนพลู กรุงเทพ
11.หลวงปู่สา วัดชนัดดาราม กรุงเทพ
12.หลวงปู่กลีบ วัดตลิ่งชัน กรุงเทพ
13.หลวงปู่นาค วัดระฆัง กรุงเทพ
14.หลวงพ่อหวล วัดพิกุล กรุงเทพ
15.พระอาจารย์อินทร์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพ
16.พระอาจารย์จ้าย วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพ
17.พระมหาธีวัฒน์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพ
18.พระครูกิจจาภิรมย์ วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพ
19.พระครูวินัยสังวร อ วัดประยูรวงศวาส กรุงเทพ
20.พระสุขุมธรรมาจารย์รี วัดหงษ์รัตนราม กรุงเทพ
21.หลวงวิชิตชโสธร วัดสันติธรรมาราม กรุงเทพ
22.พระครูญาณสิทธิ์ วัดราชสิทธาราม กรุงเทพ
23.พระอาจารย์มา วัดราชสิทธาราม กรุงเทพ
24.พระอาจารย์อิน วัดสุวรรณอุบาสิการ กรุงเทพ
25.พระหลวงวิจิตร วัดสะพานสูง กรุงเทพ
26.หลวงพ่อวงษ์ วัดสระเกศ กรุงเทพ
27.พระครูฐาปนกิจประสาท วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพ
28.พระวรเวทย์คุณาจารย์ วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพ
29.พระวิสุทธิสมโพธิ วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพ
30.พระอินทรสมาจารย์ วัดพระเชตุพนฯ
น่าจะเป็นพระอินทรสมาจารย์ (เงิน )วัดอินทรวิหาร
31.พระครูอาคมสุนทร (มา) วัดสุทัศน์เทพวรารามฯ
32.พระครูพิบูลย์บรรณวัตร วัดสุทัศน์เทพวรารามฯ
33.พระครูสุนทรสมาธิวัตร วัดสุทัศน์เทพวรารามฯ
34.พระครูสุนทรศีลาจารย์ วัดสุทัศน์เทพวรารามฯ
35.พระครูพิศาลสรกิจ วัดสุทัศน์เทพวรารามฯ
36.พระญาณาภิรัต วัดสุทัศน์เทพวรารามฯ
37.พระมหาสวน วัดสุทัศน์เทพวรารามฯ
38.พระอำนวย วัดสุทัศน์เทพวรารามฯ
39.พระปลัดสุพจน์ วัดสุทัศน์ กรุงเทพ
40.พระครูวิสิษฐ์วิหารการ วัดชนะสงคราม กรุงเทพ
41.พระปลัดแพง วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพ
42.หลวงพ่อบุญยัง วัดบางจาก จ.นนทบุรี
43.หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง จ.นนทบุรี
44.หลวงปู่เผือก วัดโมลี จ.นนทบุรี
45.พระอาจารย์แปลก วัดสระบัว จ.ปทุมธานี
46.พระครูปลัดทุ่ง วัดเทียมถวาย จ.ปทุมธานี
47.พระอาจารย์แปลก วัดสระบัว จ.ปทุมธานี
48.หลวงปู่เหมือน วัดโรงหีบ ปทุมธานี
49.หลวงปู่เทียน วัดโบสถ จ.ปทุธานี
50.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา
51.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา
52.หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง จ.อยุธยา
53.หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค จ.อยุธยา
54.หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติฯ จ.อยุธยา
55.หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา
56.หลวงพ่อหวาน วัดดอกไม้ จ.อยุธยา
57.พระอาจารย์มี วัดอินทราราม อยุธยา
58.พระอธิการเจาะ วัดประตูโลกเชษฐ์
59.หลวงปู่สีห์ วัดสระแก จ.อยุธยา
60.หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี
60.หลวงพ่อพริ้ง วัดวรจันทร์ จ.สุพรรณบุรี
62.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี
63.พระครูสำฤทธิ์ วัดอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
64.หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ จ.สุพรรณบุรี
65.หลวงพ่อจันทร์ วัดคลองระนงค์ จ.นครสวรรค์
66. พระชัยนาทมุนี วัดบรมธาตุ จ.ชัยนาท
67.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
68.หลวงพ่อสำเนียง อยูาสถาพร วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม
69.หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม
70.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
71.หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จ.นครปฐม
72.พระอาจารย์สมจิต วัดป่ากระเหรี่ยง จ.ราชบุรี
73.หลวงพ่อแทนวัดธรรมเสน จ.ราชบุรี
74.หลวงพ่อเปาะวัดช่องลม จ.ราชบุรี
75.พระครูบิน วัดแก้ว จ.ราชบุรี
76.หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว กาญจนบุรี
77.หลวงปู่ดี วัดเหนือ จ.กาญจนบุรี
78.หลวงปู่บุตร วัดใหญ่บางปลากด จ.สมุทรปราการ
79.หลวงพ่อลี วัดโศกการาม จ.สมุทรปราการ
80.พระอาจารย์แสวง วัดกลางสวน พระประแดง
81.หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
82.พระอาจารย์อ๊วง วัดบางคณาทอง สมุทรสงคราม
83.หลวงพ่อแดง วัดท้ายหาด จ.สมุทรสงคราม
84.หลวงปู่แขก วัดพวงมาลัย จ.สมุทรสงคราม
85.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จ.สมุทรสาคร
86.หลวงปู่ฮะ วัดดอนไก่ดี จ.สมุทรสาคร
87.พระสุวรรณมุนี (ชิต)วัดมหาธาตุ จ.เพชบุรี
88.หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี
90.หลวงพ่อผิน วัดโพธิ์กรุ จ.เพชรบุรี
91.หลวงปู่เฮี้ยง วัดอรัญญิการาม (วัดป่า)จ.ชลบุรี
92.พระครูธรรมธร (หลาย)ดราศฎร์บำรุง จ.ชลบุรี
93.หลวงพ่อบุญญมี วัดโพธิ์สัมพันธ์ จ.ชลบุรี
94.หลวงปู่ฮวด วัดเสม็ด จ.ชลบุรี
95.หลวงพ่อหอม ดชากหมาก จ.ระยอง
96.พระครูสนุทรธรรมประกาศ วัดโพธิ์ปากพลี จ.นครนายก
97.หลวงพ่อเส็ง วัดศรีประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
98.หลวงพ่อตี๋ วัดท้าวอุ่ทอง จ.ปราจีนบุรี
99.หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช
100.พระครูรอด วัดประดู่ จ.นครศรีธรรมราช
101.หลวงพ่อดำ วัดมุจรินทวาปีวิหาร (วัดตุยง)
102.หลวงพ่อทบ วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์
103.พระสวรรคนายก วัดสุวรรคคาราม จ.สุโขทัย
104.พระโบราณวัตถาจารย์ วัดราชธานี จ.สุโขทัย
105.หลวงพ่อปี้ วัดกิ่งลานหอย จ.สุโขทัย
106.พระครูสวรรควิริยกิจวัดสวรรคนิเวส จ.แพร่
107.หลวงพ่อมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง
108.ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก

พระพุทธคุณ ครอบจักรวาล ดั่งคำโบราณกล่าวไว้ว่า พระพุทธคุณฝอยท่วมหลังช้าง นั่นแล ฯ เช่าบูชาไว้ให้ลูกหลานแขวนติดคอไว้ หรือเราๆท่านๆจะพกพาใส่กระเป๋าติดตัวไว้กันเหนียวสักองค์ เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น พระ 25 ศตวรรษ จะใด้คุ้มครองตัวท่านให้รอดปลอดภัยครับ

พระ 25 ศตวรรษ เป็นพระที่มีพระพุทธคุณสูง พูดภาษาชาวบ้านว่า คุ้มตัวอยู่ มีประสบการณ์การณ์ทางด้านมหาอุตม์ แคล้วคลาดคงกระพัน มาแล้วมากมาย

บูชาองค์ละ 2500 บาท

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

จองขุนแผนล.พ.กวย/สทเด็จลป .นาค

 

จริงๆแล้วพระที่ผมเหมามา จะมีพระย่อยๆ พระที่ผมไม่รู้จักค่อนข้างมากพอสมควร หรือหลายครั้งก็เป็นพระที่ผมรู้จัก แต่เป็นพระที่เช่าหากันไม่แพง พอผมไปโพสขายในห้องใหญ่ของผมก็ขายไม่ค่อยใด้ เพราะลูกค้าในห้องนั้น..ส่วนใหญ่จะเช่าแต่พระราคาค่อนข้างแพง ผมจึงขอแบ่งเอาพระย่อยๆ มาลงขายในห้องนี้บ้าง เพื่อเป็นค่าน้ำมันรถในการไปวิ่งหาของ ขอบพระคุณมากๆครับ

 

พระรอดทรายเสกมนต์มหากาฬ แร่อุกาบาต หลวงพ่อกวย

คุณ sunmk บูชาแล้วครับ

พระรอด สุดยอดนิรันตราย รอดพ้นจากภัยอันตรายใดๆทั้งปวง หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม องค์นี้เนื้อแก่ไฟสีออกเขียว คือสีที่แสดงว่าเป็นเนื้อดินที่แกร่งที่สุด ส่วนผสมหลักของพระรอดหลวงพ่อกวยคือ พระกรุเมืองสรรค์ ที่ชำรุดแตกหักหลวงพ่อท่านนำมาทำเป็นมวลสาร แร่อุกาบาต ทรายเสกลงมนต์มหากาฬ ปีที่สร้างน่าจะประมาณปี 2484 บวก-ลบ นิดหน่อยครับ

ขึ้นชื่อว่าพระรอด ของหลวงพ่อกวยแล้ว ขอให้มั่นใจในพระพุทธคุณเถิดว่า ชีวิตท่านจะเจริญก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ สามารถรอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง จากเสนียดจัญไรสิ่งอัปมงคล สิ่งที่ไม่ดีไม่งาม มาใด้อย่างแน่นอน พระของหลวงพ่อกวยเป็นมหาอุตม์ แคล้วคลาด ทุกวันเวลาทิวาราตรีกาล

บูชาองค์ละ 1300 บาท

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

หลวงพ่อกวย พิมพ์วันทาเสมา เนื้อผงน้ำมัน พ.ศ 2510 กว่าๆ

หายากมากครับ นานๆๆ จะใด้มาสักองค์ เนื้อหนึกนุ่มเข้มข้นดีครับ

พระพิมพ์นี้ สร้างล้อมพระพิมพ์ยืนวันทาเสมาของวัดพลับ แต่..พิมพ์วันทาเสมาของหลวงพ่อกวย มีขนาดเล็กกว่า และสูงเพียงครึ่งหนึ่งของพิมพ์วันทาเสมา กรุวัดพลับเท่านั้น เรียกว่าขนาดน่ารักมากๆ กว้างเพียง 1.8 ซ.ม สูง 3.1 ซ.ม เท่านั้นเอง หรือเล็กกว่าเตี้ยกว่าพิมพ์ยืนวัดพลับครึ่งหนึ่ง น่าจะออกประมาณประมาณปี 2510 กว่าๆเล็กน้อย

พระเนื้อผงน้ำมันของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม พระพุทธคุณครบเครื่่อง มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม โชคลาภ มหาอุตม์ แคล้วคลาด เรียกใด้ว่าตามแต่ใจของเราจะอธิษฐานขอจากท่าน น่ะครับ

บูชาองค์ละ 1500 บาท

เคยเห็นเว็บหนึ่ง ขายหลักพันแก่ๆ เชียวครับ

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

หลวงพ่อกวย พิมพ์หลวงพ่อโต บางกระทิง เนื้อผงน้ำมัน

คุณ sunmk บูชาแล้วครับ

องค์นี้สภาพพอสวย มีหน้ามีตาจมูกปาก ให้เห็นไรๆ

หลวงพ่อโต บางกระทิง เนื้อผงน้ำมัน เป็นพระเนื้อผงยุคแรกๆ ของหลวงพ่อกวย ถอดพิมพ์มาจากพระกรุเก่าๆ ที่ได้รับความนิยมในยุคสมัยนั้น และผู้คนเชื่อถือกันว่ามีพระพุทธคุณสูง เช่น หลวงพ่อโตบางกระทิง พระขุนแผน พระสรรค์นั่ง พระลีลาสรรค์ยืน พระลีลาเมืองต่างๆ พระสมเด็จ และอีกมากมายก่อนที่จะมี แบบพิมพ์ต่างๆที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

พระหลวงพ่อกวย ยุคต้นๆดีตรงที่ว่ามวลสารต่างๆยังมีเหลืออยู่อีกมาก ท่านจึงใส่ลงไปอย่างเต็มที่ อีกทั้งในยุคแรกๆนั้นท่านไม่ได้มีลูกศิษย์ลูกหามากมายเหมือนอย่างในสมัยหลัง เวลาในการปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆท่านจึงมีค่อนข้างมาก ท่านปลุกเสกจนครบถ้วนทุกพอใจแล้วนั่นแหล่ะ ท่านจึงจะนำมาแจกจ่ายให้ลูกศิษย์ลูกหาของท่าน

พระหลวงพ่อโต บางกระทิง ของหลวงพ่อกวย มีพระพุทธคุณครบถ้วนสมบูรณ์ทุกด้าน อยู่ที่ว่า..ท่านจะอธิษฐานวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลัง ของท่านตามสถานการณ์ หรือว่าเพื่อใช้ไปในทางใด

บูชาองค์ละ 1500 บาท

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

จองพระรอดล.พ.กวย

 

ใด้เลยครับ..แบ่งปันกันไปใช้ครับผม

 

หลวงปู่เอี่ยม หน้ากากเงิน ลงยากะไหล่ทอง วัดโคนอน

ลูกค้าบูชาแล้ว

เหรียญหน้ากากเงิน คือ..ตรงที่เป็นรูปหลวงปู่เอี่ยม จะเป็นแผ่นเงินปั๊ม เป็นรูปหลวงปู่เอี่ยม ตรงส่วนอื่นๆจะเป็นทองแดงกระไหล่เงินลงยา น่ะครับ

เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง รุ่นนี้ออกที่วัดโคนอน ซึ่งเป็นวัดที่มีความผูกพันกับหลวงปู่เอี่ยม เนื่องมาจากท่านได้ย้ายติดตามพระอาจารย์ของท่านคือ หลวงปู่รอด ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโคนอน จนหลวงปู่เอี่ยม ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสเป็นครั้งแรกที่วัดโคนอน ต่อมาในภายหลังหลวงปู่เอี่ยม จึงได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนัง

ในปี พ.ศ.2515 วัดโคนอนได้ดำเนินการจัดสร้างอุโบสถหลังใหม่แล้วเสร็จ จึงได้จัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตขึ้น และได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นที่ระลึกและสมนาคุณแก่ผู้ร่วมทำบุญ เหรียญหลวงปู่เอี่ยม ปี พ.ศ 2515 สร้างโดยใช้ชนวนแผ่นทองแดงจารอักขระจากสุดยอดพระเกจิอาจารย์ในยุคนั้น เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม,หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม, หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา,หลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะอง, หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง,หลวงพ่อมิ่ง วัดกก,หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก,หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว,หลวงพ่อกรับ วัดโกรกกราก,หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์, หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม, หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร,หลวงพ่อพัฒน์ วัดบ้านบึง

พิธีพุทธาภิเษก ได้กระทำกันภายในพระอุโบสถวัดโคนอน โดยมีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธานในพิธีปลุกเสกร่วมกับพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ดังรายนามข้างล่าง

หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม,หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ,หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ,หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง,หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม,หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ,หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี,หลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะองค์,หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา,หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง,หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช,หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์,หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว,หลวงพ่อช้วน วัดหนัง,หลวงพ่อมิ่ง วัดกก,หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร,หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร,หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก,หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม,หลวงพ่อแจ๋ วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์,หลวงพ่อผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิ์,หลวงพ่อเพิ่ม วัดจักรวรรดิ์,พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา,พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว,พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง,หลวงพ่อมุม วัดนาสัก,หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน,หลวงพ่อเล็ก วัดหนองดินแดงหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอ,หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง

หลังพิธีผ่านพ้นไป หลวงปู่โต๊ะได้บอกแก่ลูกศิษย์ของท่านว่า “ไปเอาพระมาไว้ซะพระชุดนี้ เจ้าของเขามานั่งเป็นประธานปลุกเสกด้วยตัวเอง”

เจ้าของที่ว่า..หมายถึงหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ท่านมานั่งปลุกเสกด้วยตัวของท่านเอง ข้อความดังกล่าว เป็นข้อมูลของอาจารย์ อำพล เจน น่ะครับ

หายากครับ เจอแต่เหรียญทองแดง

 

พระปิดตา หลังยันต์เฑาะ หลวงปู่ภู่ วัดนอก ชลบุรี

คุณ thitiwatyu บูชาแล้วครับ

พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ของหลวงปู่ภู่ วัดนอก ถูกจัดให้เป็นสุดยอดพระปิดตา 5 เสือเมืองชลบุรี ประวัติเก่าๆบอกไว้ว่าหลวงปู่ภู่ ท่านเดินธุดงค์จากเพชรบุรี มาพร้อมกับหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จากนั้นท่านจึงมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดนอก จังหวัดชลบุรี หลวงปู่ภู่ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคโบราณ โดยท่านเกิดประมาณปี พ.ศ 2350 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 1 มรณะภาพประมาณปี พ.ศ 2440 พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ปิดตาเนื้อตะกั่ว สันนิษฐานว่าสร้างประมาณปี พ.ศ 2430 ปัจจุบันพระของท่านจึงมีอายุการสร้าง 120 กว่าปี พระปิดตา หลวงปู่ภู่ องค์นี้เป็นพระปิดตาเนื้อตะกั่ว องค์พระใหญ่ประมาณปลายนิ้วก้อย สูงประมาณข้อนิ้วก้อย

พระปิดตาของหลวงปูภู่ วัดนอก เท่าที่เคยสอบถามคนเก่าๆที่เคยแขวนพระของท่าน บอกว่าพระของท่านมีพระพุทธคุณเรื่องเมตตามหานิยม มหาอุตม์ แคล้วคลาด อย่างยอดเยี่ยม พระปิดตาของหลวงปู่ภู่ วัดนอก กับพระปิดตา ลพ.แก้ว วัดเครือวัลย์ คนรุ่นเก่าๆเขากล่าวขานกันว่า..พระพุทธคุณกินกันไม่ลงจริงๆ ครับ


บูชาองค์ละ 1500 บาท

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

ขอจองครับ
พระปิดตา หลังยันต์เฑาะ หลวงปู่ภู่ วัดนอก ชลบุรี

 

ขอบคุณมากครับ ใด้เลยครับผม

 

พระเล็บมือสมาธิ บัวสองชั้น หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

พระพิมพ์นี้เป็นพระพิมพ์เล็บมือ เนื้อดินเผา องค์เล็กกว่านิ้วก้อยเล็กน้อยนิ้วก้อย ปีที่สร้างน่าจะก่อน ปี พ.ศ 2500 เล็กน้อยเป็นพระชุดเนื้อดินเจ็ดทุ่งนั่นแหล่ะครับ เมื่อก่อนผมไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ดู่หลายครั้ง ผมเห็นกับตาว่ามีวางโชว์อยู่ในตู้โชว์ของพิพิธถัณฑ์ครับ ที่สำคัญผมเคยมีพระหลวงปู่ดู่เนื้อดิน เนื้อผงยุคเก่าๆเป็นร้อยองค์ จึงมีความชำนาญครับ แต่พระเหรียญของท่าน ผมแทบดูไม่เป็นครับ

พระหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ดีทางเมตตามหานิยม โชคลาภ ทำให้เราผ่านพ้นสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม แคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ มาใด้อย่างปลอดภัย ใด้พบเจอคนที่เกิ้อกูลช่วยเหลือเราใด้ ตรงนี้ผมพูดจากประสบการณ์จริงของผมเองครับ

บูชาองค์ละ 1000 บาท

แท้ แท้ แท้แน่นอนครับ ท่านใดนับถือหลวงปู่ดู่ วัดสะแก บูชาใด้เลยครับ

 

ปลัดขริก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา

ตัวประมาณนิ้วก้อย ยาวประมาณนิ้วกลาง

สุดยอดปลัดขิกอันดับ1 ในประเทศ..หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโชก ลองว่าสาวชะโงก ก็เป็นอันว่าใช้ใด้ ปลัดขิกตัวนี้ผ่านการใช้มาอย่างโชกโชน แต่ร่องรอยเหล็กจาร ก็ยังพอมีอยู่ให้เห็นบ้าง แต่ก็ลางเลือนไปตามกาลละเวลาการใช้งาน ปลักขิกหลวงพ่อเหลือ สุดยอดแห่งความเมตตามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมหลงไหลใฝ่ปอง อย่างเอกอุ

ตำราว่าไว้เวลาเข้าหาส่วว เพื่อไปจีบไปพูดไปแอ่วสาว ให้รูดมาไว้ที่เอวข้างซ้าย เวลาจะเข้าหาเจ้านายให้รูดไว้ที่เอวข้างขวา หากเกิดเหตุไม่ตาดคิดให้รูดไว้ข้างหน้า หากจะอ้ายเสือถอยให้รูดปลัดขิกไปไว้ข้างหลัง อย่าลืมกลั้นลมหายใจว่าคาถากำกับด้วยพระคาถา..หัวใจโจร กัณหะ เนหะ แล้วจะรอดปลอดภัย สมความปรารถนาทุกประการ โบราณว่าไว้ประมาณนี้ครับ

ปลัดขิก หลวงพ่อเหลือ สุดยอดแห่งความเมตตามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม โชคลาภ อย่างเอกอุ

บูชา 2000 บาท

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง

 

พระปิดตาไม้แกะ ลงรักปิดทอง ลป.เอี่ยม วัดหนัง

ลูกค้าจองแล้วครับ

องค์ใหญ่กว่านิ้วก้อยหน่อย อุดใต้ฐานองค์พระ ด้วยผงพุทธคุณผสมชันโรงใต้ดิน
พระภาวนาโกศลเถระ หรือ หลวงปู่เอี่ยม สุวณฺณสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดหนัง บางขุนเทียน ท่านเป็นผู้ถวายพระคาถาเสกหญ้าให้ม้ากิน ให้กับสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง หรือรัชกาลที่ 5 เพื่อใช้ปราบม้าพยศ ขณะประพาสทวีปยุโรป พระคาถานั้นคือ พระคาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย หรือ " มงกุฎพระพุทธเจ้า " บทพระคาถาภาวนาว่า อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ

พระเครื่อง วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง ที่สร้างและปลุกเสกโดย เจ้าคุณเฒ่า พระภาวนาโกศลเถระ หรือหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เป็นที่เชื่อถือมาแต่ครั้งโบราณนานเนกาเลว่า มีพระพุทธคุณทางมหาอุตม์ แคล้วคลาด คงกระพัน

ถ้าพูดถึงวัตถุมงคล ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เรื่องพระพุทธคุณของพระเครื่องที่ท่านได้สร้างไว้ คงไม่ต้องกล่าวบรรยายให้มากความนัก แม้แต่ตัวข้าพเองเวลามีเหตุคับขัน ข้าพเจ้าจะต้องถึงหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง และท่องพระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า ให้ช่วยปกปักรักษาตัวข้าพเจ้า ให้ผ่านพ้นรอดจากเหตุการณ์ต่างๆไปได้ด้วยดี ข้าพเจ้าจึงได้มีโอกาสมาเขียนบทความ และนำวัตถุมงคลที่สะสมไว้มาแบ่งปันให้กับท่าน จนถึงทุกวันนี้

บูชาองค์ละ 2000 บาท ครับ

ประกันความแท้ ตามกฎเว็บพลังจิต
โทร 08 6454 0353
LINE ID : prathai9
ธ.กสิกรไทย 705 2027 515
ชื่อบัญชี : กิติศักดิ์ ขำเพ็ง