เรื่องเด่น ประเทศเคนย่าน่าห่วง โดนภัยแล้งโจมตี สัตว์ล้มตาย คนนับล้านขาดสารอาหาร

​

ประเทศเคนย่าน่าห่วง โดนภัยแล้งโจมตี สัตว์ล้มตาย คนนับล้านขาดสารอาหาร


ประเทศเคนย่าโดยเฉพาะทางตอนเหนือประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง คนนับล้านแห่ออกมารอรับอาหารจากรัฐบาล สัตว์ปศุสัตว์เริ่มล้มตายจากการโดนแดดเผาและไม่มีแรงไปหาแหล่งน้ำ เด็กๆและสตรีมีครรภ์เริ่มขาดสารอาหารหนัก ซึ่งเกิดจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรงในรอบศตวรรษ
ชาวเคนย่าประสบกับภัยแล้งรุนแรงในรอบศตวรรษ มาร์ซาบิต เมืองทางตอนเหนือของประเทศเคนย่า พบซี่โครงกระดูกแกะที่ตายทอดยาวเป็นแถวจากการแผดเผาของดวงอาทิตย์ และคนเลี้ยงสัตว์ที่คอแห้งผากเดินผ่านไป มูลค่าของแพะผอมๆกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ต่างกับราคาที่เขียนบนกระสอบในตลาดที่กำลังพุ่งสูงขึ้น เรียกง่ายๆว่า แพะขาดสารอาหารจนคนเลี้ยงไม่สามารถขายได้ และราคาในตลาดก็สูงหลายอย่างจนแทบซื้อไม่ไหว



เด็กอายต่ำกว่า 5 ปี กว่า 465,000 คน และหญิงตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตรอีกกว่า 93,000 คนกำลังขาดสารอาหารอย่างรุนแรงในทางตอนเหนือของเคนย่า ราคาอาหารตามท้องตลาดไต่สูงขึ้นเรื่อย ๆ สูงกว่าค่าเฉลี่ยน 16% ในมาร์ซาบิต (ข้อมูลจากสำนักงานจัดการภัยแล้งแห่งชาติ (NDMA))


ผู้คนนับพันต่อแถวรอรับอาหารจากทางรัฐบาล

“แพะขายไม่ได้เลย ยิ่งเป็นวัวยิ่งแย่กว่า ลูกๆของเรากำลังหิวโหย” โมเสส โลโลจู คนเลี้ยงสัตว์จากเขต อิสิโอโลที่มาเป็นอาสาช่วยแจกจ่ายอาหารที่รัฐบาลนำมาบริจาค

ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ 2 หลังจากฝนตกต่อเนื่องในทางตอนเหนือของเคนย่า ที่มีสภาพภูมิอากาศประเทศเป็นกึ่งแห้งแล้ง ไม่เหมือนกับทางตอนใต้ที่อุดมสมบูรณ์และเขียวขจีกว่า ในช่วงที่ขาดฝน คน 2.4 ล้านคนในภูมิภาคจะต้องดิ้นรนเพื่อหาอาหารให้เพียงพอสำหรับเดือนพฤศจิกายน

“จากภัยแล้งที่ผ่านมาทำให้เราพอคาดเดาได้ เรามีวัฏจักรที่ยาวนาน 5-10ปี (ในมุมมองของพวกเขา) และนี่หมายความว่าทุ่งหญ้าและแหล่งน้ำจะงอกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว” มอริซ ออนยังโก หัวหน้าระดับภูมิภาค การจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติและวางแผนการกุศลระหว่างประเทศกล่าว

“ตอนนี้ เราเห็นแล้วว่าภัยแล้งมันมาเร็วขึ้น โดยจะเห็นชัดแบบนี้ในทุกๆ 2 ปี หรือบางครั้งอาจจะทุกปีเลยด้วยซ้ำ”

อุณหภูมิประเทศเคนย่าไต่ระดับเพิ่มขึ้น 0.34 องศาเซลเซียสต่อศตวรรษ (ปีค.ศ.1985-2015) ข้อมูลอ้างอิงจากรัฐบาลสหรัฐ และคาดว่าจะไต่สูงขึ้นอีกกับคลื่นความร้อนในอีก 5 ทศวรรษข้างหน้า มีแนวโน้มที่จะเพิ่มวันที่ร้อนที่สุดประมาณ 9-30 วันเลยทีเดียว โดยจะส่งผลต่อการปลูกพืชผลหรือการเลี้ยงสัตว์จะทำได้ยากขึ้น เพราะน้ำระเหยเร็วมากจนเก็บไม่อยู่

ผู้คนตักข้าวและแป้งแจกจ่ายกันไปแต่ละครัวเรือน

การพยากรณ์ในเดือนนี้ระบุว่า ทางตอนเหนือของเคนย่าส่วนใหญ่จะมีแดดจัดและมีปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ปีนี้จะมีฝนตกต่อเนื่องยาวนานเพียงแค่ 25-50% ของปริมาณน้ำฝนเท่านั้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกจะเพิ่มความถี่และความรุนแรงของภัยแล้งในภูมิภาคมากขึ้นด้วย กรมอุตุนิยมวิทยาเคนย่ากล่าว

สัตว์ที่เหลืออยู่ไม่มีหญ้าให้มันกิน และเข้าไม่ถึงจุดที่มีน้ำให้ดื่มเพราะอ่อนแอเกินไป แม้แต่ลาที่ไว้ใช้ไปตักน้ำประจำของพวกเขาก็ตายลง ตอนนี้พวกเขาจึงต้องเดินไปเอาน้ำเอง และจำเป็นต้องเพิ่มคนเลี้ยงสัตว์เพื่อให้เดินทาง 400 กิโลเมตรไปค้นหาน้ำมาให้

สัตว์แบบนี้ตายเกลื่อนเยอะมาก

จะเห็นได้ว่าความรุนแรงของสภาพภูมิอากาศนั้นรุนแรงขึ้นมาก และไม่ต้องมองไปไหนไกลมาก ประเทศไทยก็มีโอกาสที่จะเกิดภาวะความแห้งแล้งรุนแรงได้เช่นกัน เมื่อถึงฤดู เพราะความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศและภาวะขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะในภาคอีสานมีความหนักหน่วงขึ้นทุกปี และมีอีกหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสภาพความแห้งแล้งในประเทศ อย่างที่ผู้เขียนเคยย้ำเสมอว่า การประชุมของเหล่าผู้นำใน COP26 นั้นก็สำคัญ และการร่วมมือร่วมแรง ร่วมใจของคนไทยและประชากรของโลกก็สำคัญเช่นกัน ในการช่วยผลักดันวิธีการลดโลกร้อนคนเล็กคนละน้อยก็สามารถก็ให้เกิดผลอันยิ่งใหญ่ได้ ทุกปัญหามีทางออก แต่จะลงมือทำได้ไวแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว


ที่มาข้อมูล Routers

ขอบคุณที่มา
https://www.springnews.co.th/news/817199