ปกิณกธรรมก่อนปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย วันศุกร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 30 สิงหาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย วันศุกร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖


    ถ้ากำลังใจของเราไม่ได้จดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า ยังเห็นเรื่องอื่นสำคัญกว่า ก็แปลว่ากำลังใจของเรายังไม่เพียงพอต่อมรรคผล เพราะว่าการปฏิบัติธรรมเพื่อมรรคผลนั้น แม้ต้องสละชีวิตลงไปก็ยอม แต่ถ้าเราไปให้ความสำคัญกับอย่างอื่นมากกว่า ก็แปลว่าเราเห็นอย่างอื่นสำคัญกว่าชีวิตตัวเอง แล้วโอกาสเข้าถึงมรรคผลจะมาจากไหน ?

    เรื่องของการปฏิบัติธรรมกับเรื่องของบารมีเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกันอย่างชนิดแยกไม่ออก ถ้าบารมีไม่เข้มข้นพอ เราก็ไม่สามารถที่จะปฏิบัติธรรมได้ บารมีนั้นมีอยู่ ๓ ระดับ ๙ ขั้น

    บารมีระดับต้นเรียกว่า สามัญญบารมี


    สามัญญบารมีขั้นต้น พูดถึงทาน ศีล ภาวนานี่ฟังไม่รู้เรื่องเลย สักแต่ว่าเกิดมาเป็นคนเท่านั้น คิดว่าคนอื่นพูดภาษาต่างดาว..!
    สามัญญบารมีขั้นกลาง รักษาศีลไม่ได้ เจริญภาวนาไม่ได้ จะให้ทานแต่ละที ต้องรอโฆษกประกาศเชิญชวนสัก ๓ วัน ๓ คืน กว่าจะเกิดศรัทธาควักกระเป๋าออกมา บางทีก็ยัดกลับคืนไปอีก..!
    สามัญญบารมีขั้นปลาย สามารถให้ทานได้แม้จะเสียดายใจจะขาด แต่ก็ยังรักษาศีลและปฏิบัติธรรมไม่ได้

    พอมาบารมีระดับกลางเรียกว่า อุปบารมี


    อุปบารมีขั้นต้น ให้ทานได้ รักษาศีลขาดตกบกพร่อง
    อุปบารมีขั้นกลาง ให้ทานได้ รักษาศีลได้บ้างไม่ได้บ้าง โอกาสได้มีมากกว่า แต่ก็ยังศีลขาดบ้างอยู่ดี
    อุปบารมีขั้นละเอียด ให้ทานได้ รักษาศีลได้ แต่บอกเรื่องภาวนาแล้วฟังไม่รู้เรื่อง

    ก็ต้องมาถึงบารมีระดับสูงสุดคือ ปรมัตถบารมี


    ปรมัตถบารมีขั้นต้น ให้ทานได้ รักษาศีลได้ แต่เรื่องภาวนาจะเหมือนอย่างกับแบกภูเขาไว้ทั้งลูก จะโดนทับตายตอนไหนก็ไม่รู้ ..!? อย่างที่โบราณท่านเปรียบว่า "เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา"
    ปรมัตถบารมีขั้นกลาง ให้ทานได้ รักษาศีลได้ เจริญภาวนาได้แต่รักษาอารมณ์ไม่ได้ ก็คือนั่งลงทำได้ตอนนั้น พอลุกขึ้นก็ทิ้งหมดเลย..!
    ปรมัตถบารมีขั้นปลาย ถือว่าเป็นขั้นสูงสุด ให้ทานได้ รักษาศีลได้ เจริญภาวนาได้ จึงเป็นผู้ควรแก่การปฏิบัติธรรม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2023
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    การเป็นผู้ควรแก่การปฏิบัติธรรมก็แปลว่าสัจจบารมี ซึ่งคือความแน่วแน่มั่นคงต่อการงานของเรา จะต้องเต็มร้อย คนประเภทนี้ไปไหนทีหลังไม่เป็น ถ้าไม่ตรงเวลาก็ต้องไปก่อนเวลา อธิษฐานบารมีคือมีกำลังใจปักมั่นแน่วแน่อยู่กับสิ่งที่ทำ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ท้อถอยจนกว่าจะสำเร็จ

    เห็นหรือยังว่าการปฏิบัติธรรมกับเรื่องของบารมีความจริงก็คือเรื่องเดียวกัน เพราะว่าบารมีแปลได้ง่าย ๆ ว่ากำลังใจ

    กำลังใจไม่พอ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ
    กำลังใจอย่างแย่ ๆ เลย อาศัยเกาะแต่ชาวบ้านเขา ยืนหยัดด้วยตนเองไม่ได้
    กำลังใจอย่างกลาง ยืนหยัดด้วยตนเองได้ แต่ช่วยอะไรคนอื่นไม่ได้
    กำลังใจระดับสูงสุด ยืนด้วยตัวเองได้ ช่วยเหลือคนอื่นได้ด้วย


    แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราต้องเข้าใจว่า เมื่อเราเกิดมาถึงระดับนี้แล้ว จะว่ากำลังใจใช้ไม่ได้นั้นไม่ใช่ เพียงแต่เรายังเร่งรัดตัวเองไม่พอ

    ถ้าจะยกตัวอย่างก็ต้องยกตัวอย่างอาตมภาพเอง สมัยก่อนศรัทธาหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง แต่เห็นงานสำคัญกว่า ถึงเวลารู้ว่าท่านมาสอนกรรมฐานที่บ้านสายลม ก็ฝากเงินพี่ชายไปทำบุญเดือนละครั้ง ทำแบบนั้นอยู่เป็นปี ๆ

    จนกระทั่งมีความรู้สึกว่า "แล้วเขาไปทำอะไรกันที่บ้านสายลม ?" อยากรู้อยากเห็น ก็เลยไปเอง พอไปเอง ๐๘.๓๐ น. หลวงพ่อฤๅษีฯ ลงมาเริ่มรับสังฆทาน ได้ทำบุญกับท่านเรียบร้อย ก็สบายใจ กลับบ้านได้ อยู่ลักษณะอย่างนั้นเป็นปี ๆ

    แล้วกำลังใจเมื่อคิดว่า "แล้วตอนบ่ายเขาทำอะไรกัน ?" หลังจากทำบุญแล้วก็อยู่ต่อ ดูว่านอกจากหลวงพ่อท่านรับแขกแล้ว ยังตอบปัญหาธรรมด้วย แล้วตอนหลังเที่ยงเริ่มมีการฝึกมโนมยิทธิ เมื่อฝึกฝนตนเองเรียบร้อยก็กลับบ้านอีก อยู่ในลักษณะนี้ต่อไปอีกนาน

    จนตัวเองเกิดความสงสัยว่า "แล้วตอนเย็นเขาทำอะไรกัน ?" จึงอยู่ต่อถึงค่ำ ประมาณหนึ่งทุ่มหลวงพ่อท่านลงมารับสังฆทาน เสร็จแล้วก็เจริญกรรมฐานรอบค่ำ เสร็จสรรพกว่าจะได้กลับบ้านก็ประมาณสี่ทุ่ม
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    เห็นหรือยังว่าจากที่ไม่ไปเลยกลายเป็น..ไปแค่ช่วงเช้า..ไปแค่ครึ่งวันหรือครึ่งวันนิด ๆ..ไปเต็มวัน..ไปทั้งวันทั้งคืน หลังจากนั้นหนักกว่านั้นอีก พอหลวงพ่อท่านมาบ้านสายลมเมื่อไร วันศุกร์หลังเพลอาตมาหายตัวจากบ้านไปแล้ว กลับมาอีกทีไม่ดึก ๆ วันจันทร์ก็เช้าวันอังคาร ไม่ได้ไปเที่ยวไหนหรอก ไปถวายการรับใช้หลวงพ่อท่านที่บ้านสายลม

    เรื่องของกำลังใจ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์..ได้พบพระพุทธศาสนา..ได้ฟังธรรม..รู้จักน้อมนำมาปฏิบัติ แต่ละคนกำลังใจเหลือเฟือแล้ว เพียงแต่ว่าเราจะเร่งรัดตัวเองให้เข้มข้นได้เท่าไร ? ตั้งแต่จัดปฏิบัติธรรมที่นี่มาตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๕๑ จนถึงปีนี้ ๒๕๖๖ มีใครไม่เคยขาดบ้าง ? มีอยู่หนึ่งคนแน่นอน ก็คือเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เพราะว่าถ้าไม่อยู่จัดงานไม่ได้ ส่วนของพวกเราก็ไม่รู้ว่าจะโผล่มาตอนไหนกันบ้าง..?

    แต่ก็มีหลายท่านที่ส่วนใหญ่มักจะมา ก็คือมาได้ถึง ๘๐-๙๐ เปอร์เซ็นต์ของระยะเวลาที่จัดงาน กำลังใจจดจ่ออยู่กับการปฏิบัติธรรม แต่ก็ไม่อยากจะชมว่าดี เพราะว่าที่ตะกายมาทุกครั้งก็คือหวังให้หลวงพ่อลากไปด้วย..ไม่ได้คิดจะทำเอง..! มาอยู่ต่อหน้าหลวงพ่อทำได้ง่ายหน่อย..แบบนี้น่าตีให้ตาย..!

    เรื่องของการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องของการที่เราต้องเร่งรัดต้นเองให้มากขึ้น ความเกรงใจต่อโลกจะน้อยลง สมัยแรก ๆ เพื่อนชวนไปเที่ยวกลางคืนเราก็อาจจะบอกว่า "ไม่ไปหรอก ไม่ค่อยสบาย" แต่ความจริงก็คือตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ดี เราจะเลิกไป แต่พอกำลังใจเข้มข้นขึ้นมาอีก พอเพื่อนชวนไปเที่ยวก็บอกว่า "ไปเองเหอะ อยู่ทางนี้จะรักษาศีลปฏิบัติธรรม" เริ่มบอกกันตรง ๆ
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    การปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องของคนมีปัญญา นอกจากมี "ศาสตร์" คือความรู้แล้ว ยังต้องมี "ศิลป์" คือวิธีการด้วย ไปบอกตรง ๆ เดี๋ยวคนอื่นเขาว่า จะกลายเป็นขี้ปากชาวบ้านไป

    พอถึงเวลารักษาศีลแปด เพื่อนชวน "เฮ้ย..เย็นนี้กินหมูกะทะด้วยกันนะ" จะบอกเพื่อนว่าอย่างไรดี ? ถ้าบอกว่ารักษาศีลแปด เพื่อนคงมองหัวยันตีน ตีนยันหัวสามรอบแน่..! ก็บอกไปสิว่า "ช่วงนี้สุขภาพไม่ดี กินโปรตีนเยอะไม่ได้ ไตจะพัง" หรือไม่ก็ "อ้วนแล้ว กำลังอยู่ในระหว่างลดความอ้วนอยู่ แกไปกินคนเดียวเถอะ" ดีกว่าบอกไปว่ารักษาศีลแปดไหม ? ไปบอกว่ารักษาศีลแปดรับรองว่ากลายเป็นสัตว์ประหลาดแน่นอน..!

    ดังนั้น..ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมเราต้องมีปัญญา ต้องรู้รักรักษาตัวรอดในสังคมได้ ตามสังคมไปได้ทุกอย่าง แต่ไปแค่กรอบของศีล อะไรที่ทำให้ศีลบกพร่องเราจะไม่ทำ ความรู้สึกพวกนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเราเอง แต่คราวนี้อยู่ที่เราพลิกแพลง อย่าตรงไปตรงมาเป็นเถรตรง สมัยนี้โลกเราอยู่ยาก เป็นเถรตรงนี่รับประกันว่าโดน "บูลลี่" รอบทิศเลย..!

    ก็เหลืออยู่อย่างเดียวก็คือ ทำอย่างไรที่คำพูดและการกระทำของเราจะเป็นทุกข์เป็นโทษกับคนอื่นให้น้อยที่สุด ก็คือนอกจากจะทำเพื่อตัวเองแล้วยังเมตตาคนอื่นด้วย เพราะว่าคนที่ "บูลลี่" ผู้ปฏิบัติธรรมเขาไม่รู้หรอกว่าตัวเองนั้นมีโทษหนักแค่ไหน..! เราเองซึ่งไม่ระมัดระวังไปทำให้เขาต้องแสดงออกซึ่ง กาย วาจา ใจ ในลักษณะปรามาสพระรัตนตรัย การปรามาสผู้ปฏิบัติธรรมก็คือปรามาสหนึ่งในพระรัตนตรัย ก็คือพระธรรม..โทษหนักมาก

    ถ้าหากว่าเราไม่รู้จักระวัง โทษจะเกิดกับคนอื่น ช่วยเมตตาเขาหน่อย แต่ว่าหลายคนก็กำลังใจเข้มแข็งจนไม่สนใจเสียงนกเสียงกาแล้ว พอมีคนชวน "ช่วงนี้หยุดยาวตั้งหลายวัน ไปเที่ยวทะเลด้วยกันดีกว่า" พวกไม่สนใจเสียงนกเสียงกาก็ "เออ..ไปเถอะ..ขอให้สนุกนะ เราจะไปปฏิบัติธรรม อนุโมทนาด้วยกัน เราทำบุญอะไรขอให้เธอมีส่วนด้วย" พวกนี้หน้าด้านแล้ว ใครว่าอะไรไม่รู้สึกหรอก มั่นใจในความดีที่ตัวเองทำ

    แต่เกรงใจโลกเขาหน่อยจะดีมาก เพราะว่าถ้าไม่เกรงใจ บางทีบางคนอื่นกำลังใจเขาไม่ได้อนุโมทนาด้วย เขาจะด่าเราอีกต่างหาก "อายุแค่นี้ มึงจะรีบเข้าวัดไปทำอะไร ? รอแก่ ๆ ก่อนค่อยไป" เชื่อเถอะ..คนที่พูดแบบนี้ พอแก่แล้วก็ไม่เข้าวัดหรอก..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    อาตมาเคยเจอมาแล้ว "โยม..ทำไมไม่ไปวัด ?" โยมบอกว่า "โอ๊ย..ลูกยังเล็กเจ้าค่า" พอเห็นลูกเข้าเรียนแล้วก็ถามใหม่ "โยม..ทำไมไม่ไปวัด ?" โยมตอบ "ต้องเลี้ยงหลานเจ้าค่ะ" อย่างนั้นไม่ต้องไปหรอก..อยู่นั่นแหละ รอเขาหามมาเข้าวัด..! พอรดน้ำเสร็จสรรพเรียบร้อย เดี๋ยวหลวงพ่อก็จะสวดพระอภิธรรมให้เอง..!

    ดังนั้น..เรื่องที่พวกเราทำ ขอให้รู้ว่าต้องฝืนกระแสโลก บุคคลที่ฝืนกระแสโลกได้จัดว่าเป็นมหาบุรุษ ต่อให้เป็นผู้หญิงเขาก็เรียกว่ามหาบุรุษ เพราะคำว่า ปุริส คำนี้คือคำว่า บุรุษ ที่แปลว่า คน มหาบุรุษก็คือยอดคน
    ในเมื่อเราจะเป็นยอดคน ก็ต้องทนเรื่องที่ลำบากกว่าคนอื่นเขาได้

    ดังนั้น..ตั้งแต่วันนี้วันที่ ๒๘, ๒๙, ๓๐ ไปจนถึง ๓๑ ทนอย่างเดียว ช่วงบ่ายนี้มีเวลาปฏิบัติธรรมแค่ ๒ ชั่วโมงเท่านั้น ดูว่าจะทนไม่ไปห้องน้ำได้ไหม ? จะทนไม่รับโทรศัพท์ได้ไหม ? ได้มีคนตายกันบ้างแน่เลย..!

    กิเลสมักจะชวนเราให้ทำอย่างอื่น เพราะเขารู้ว่าถ้าหากเราตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรม กิเลสจะอยู่ไม่ได้ ดังนั้น..ถ้าชวนไปห้องน้ำบอกไปเลยว่า "ตูจะเดินจงกรมให้ฉี่ราดอยู่ตรงนี้แหละ..แน่จริงทำไปเลย" ถ้าจะให้เรารับโทรศัพท์
    ตอนปฏิบัติธรรมก็ปิดโทรศัพท์ทิ้งไปเลย..!

    เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีโทรมาหาอาตมภาพตอนกำลังทำวัตรเย็น เปิดเสียงให้ท่านฟังเสียงทำวัตรตั้งเกือบสามนาที จนท่านวางหูไปเอง ก็สวดมนต์อยู่ มีอะไรก็โทรมาหลังสวดมนต์สิครับ ไม่ใช่โทรมาตอนนี้ ถ้าหน้าด้านหน้าทนขนาดนี้ได้..ก็พออยู่ได้นะ..!
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...