ปกิณกธรรมก่อนทำวัตรเย็น วันเสาร์ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 30 สิงหาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    ปกิณกธรรมก่อนทำวัตรเย็น วันเสาร์ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๖



    ปีแรกที่อาตมภาพจำพรรษาเป็นหลักเป็นฐานที่ทองผาภูมิคือปี ๒๕๓๖ ฝนตกวันแรกวันที่ ๑๒ มิถุนายน ไปหยุดวันที่ ๒๐ ตุลาคม..! ตกทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดเลยสักวันเดียว นั่นคือสภาพป่ายุคนั้น ยุคนั้นเขายังมีพวกทำไม้กันเยอะมาก

    สมัยก่อนเขาบอกว่าข้าราชการมาอยู่ทองผาภูมิต้องยุ่งกับ สาม ม. ไม่ ม.ใดก็ ม.หนึ่ง ไม่ก็เอาหมดเลย คือ ม้า ไม้ มอญ
    ม้า ก็คือ ค้ายาม้า (ยาบ้า)
    ไม้ ก็คือ ทำไม้เถื่อน
    มอญ ก็คือ วิ่งพวกต่างด้าวเข้าประเทศ
    ก็น่าคิดนะ..หัวละ ๒๐,๐๐๐ บาท รถกระบะหนึ่งคันยัดเข้าไปเกือบ ๒๐ คน..!

    ไม้เถื่อนตอนนั้นยกละ ๑,๗๐๐ บาท - ๑,๘๐๐ บาท อาตมภาพสร้างเกาะพระฤๅษี วิ่งลงไปซื้อไม้ในเมืองกาญจน์ ยกละ ๗,๐๐๐ บาท ใคร ๆ ก็ว่าพระอาจารย์เล็กบ้า ไม้แค่ ๑,๗๐๐ บาท - ๑,๘๐๐ บาท มีเต็มป่า แต่วิ่งลงไปซื้อไม้ยกละ ๗,๐๐๐ บาทจากในเมือง แล้วกว่าจะขนขึ้นมาอีกล่ะ ?

    แต่เขารู้ไหมว่า พระเราต้องรักศีล รักความเป็นพระของเรามากกว่ารักผลประโยชน์ เพราะพระเรามีราคาไม่เกิน ๙๙ สตางค์ ถึง ๑ บาทเมื่อไร ขาดความเป็นพระทันที..!

    ไม้เถื่อนแปลว่าไม่ได้ตีตราชักลาก ไม่ได้เสียภาษี แล้วภาษีเท่าไร ? ซื้อไม้เถื่อนไปเมื่อไรก็ขาดความเป็นพระเมื่อนั้นแหละ..! เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านบัญญัติศีลพระว่า "ภิกษุรู้อยู่ ช่วยพ่อค้าซ่อนภาษีฯ" สมัยก่อนเขามีการขายเพชรขายพลอย แล้วพ่อค้าฝากใส่ย่ามพระ ผ่านด่านไปเพื่อหลบภาษี แล้วในกรณีไม้เถื่อนหมายความว่าอย่างไร ? รู้อยู่..เราก็รู้ว่านั่นเป็นไม้เถื่อน ซ่อนภาษี..ก็คือหลบไป..ไม่ยอมจ่าย

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    พระพุทธเจ้าท่านมีมหาปเทส ๔ คือข้ออ้างใหญ่ ๔ ข้อไว้ให้ตีความพระวินัย หนึ่งในนั้นคือ สิ่งที่ไม่สมควร..ถ้าพิจารณาแล้วว่าไม่สมควร..สิ่งนั้นย่อมไม่สมควร ไม้เถื่อนเป็นสิ่งไม่สมควรอยู่แล้ว..พิจารณาแล้วว่าไม่สมควร..ถ้าเราไปซื้อมาก็ย่อมไม่สมควร แปลว่าโดนอาบัติ

    คราวนี้อาบัติข้อนี้เกี่ยวข้องกับเงิน เพราะไม่ได้จ่ายภาษี ถ้าถึง ๑ บาทขึ้นไปขาดความเป็นพระเลยนะ

    แล้วตกลงคุณจะรักความมักง่าย รักผลประโยชน์ หรือว่าจะรักความเป็นพระของตนเอง ? เป็นพระเป็นเณรแล้วพอทำอะไร สิ่งแรกเลยที่ต้องนึกถึงคือ บัดนี้เรามีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว อาการกิริยาใด ๆ ที่เป็นของสมณะ เราต้องทำอาการกิริยานั้น ๆ

    พระท่านพิจารณากันอยู่บ่อย ๆ พวกเราฟัง ทำวัตรตามไปก็เห็น แต่ส่วนใหญ่ก็พิจารณาแล้วไม่ได้เอาไปใช้ เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนโกยไปใช้หมด..ต่างกันตรงนี้

    สมัยอาตมภาพอยู่วัดท่าซุง มีพระอยู่ร่วมกันภายใต้ร่มโพธิ์ร่มไทรของหลวงพ่อฤๅษีฯ ๔๐ กว่ารูป แล้วทำไมถึงออกมาเป็นหลักให้ชาวบ้านเขาได้แค่ ๓ - ๔ รูป ? ก็เพราะว่าที่ออกมาส่วนใหญ่ก็คือบุคคลที่แบกระเบียบวัด แบกศีลพระอยู่จนคนอื่นเขาเหม็นขี้หน้าแล้วว่า "มึงจะเคร่งไปถึงไหน ?"

    เรื่องของศีล เรื่องของระเบียบวินัย เราต้องเคร่งไว้ก่อน แต่เคร่งในลักษณะเคร่งครัดกับตัวเอง เพราะว่าโดยปกติแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง กฎระเบียบอะไรก็ตาม พอนาน ๆ ไปจะเกิดการล้า ล้าแล้วก็หย่อนยาน ถ้าเราขันตึงไว้แต่แรก ถ้าหย่อนก็จะพอดี แต่ถ้าเราหย่อนตั้งแต่แรกก็จะยานติดพื้นนะสิ..! ไม่รู้จะเหลือความเป็นพระให้ชาวบ้านเขาไหว้ได้สักกี่มากน้อย เพราะฉะนั้น..ตรงนี้เราจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อน

    คุยต่อไม่ดี..เดี๋ยวเลยเวลาทำวัตร
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...