เสียงธรรม บทสวดมนต์ ทิพย์มนต์ "เจริญธาตุ ๖/ พระคาถาอุปปาตะสันติ

ในห้อง 'บทสวดมนต์' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 15 มิถุนายน 2020.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    pratalapatre.jpg
    บทสวดมนต์ ทิพย์มนต์ "เจริญธาตุ ๖

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Jun 9, 2020
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต (ออกเสียงมคธ)

    "บทสวดมนต์ ทิพย์มนต์
    ในสมัยหนึ่งที่พระพุทธเจ้าพระสมณโคดม เสวยพระชาติเป็นพระฤาษีอยู่ในป่า ท่านได้สวดบททิพย์มนต์ เป็นประจำทุกวัน มีสิ่งน่าอัศจรรย์เกิดขึ้นคือ บรรดาสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในป่านั้น เมื่อได้เข้ามาสู่บริเวณที่พำนักของพระฤาษี สัตว์ทั้งหลาย อาทิเช่น ช้างป่า เสือ หมี เก้ง กวาง เหล่านี้ จะกลายเป็นมิตรกันทันที ไม่มีการไล่ล่าทำลายกัน สัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่ต่างก็พากันเป็นมิตรต่อกันด้วยอานุภาพแห่งทิพย์มนต์ที่แผ่ออกไปทุกวันในเขตที่พระฤาษีบำเพ็ญพรตอยู่.
    ย้อนไปเมื่อปีพ.ศ. 2500 หลวงปู่หลอดได้เดินทางจากป่ามาสู่กรุงเทพเป็นครั้งแรก ท่านได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดอโศการาม ของท่านพ่อลี ศิษย์หลวงปู่มั่น ซึ่งบททิพย์มนต์นั่นเอง ซึ่งท่านพ่อลีเป็นผู้ค้นพบจากพระไตรปิฎกท่านนำมาศึกษา และนำมาให้พระ เณร แม่ชี ที่วัดอโศกรามสวดกัน หลังจากทำวัตรเช้า วัตรเย็นทุกวัน. การสวดทิพย์มนต์เพื่อสิริมงคลแก่ผู้สวด เพื่อให้มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ เพื่อส่งกุศลให้ผู้ป่วยให้ทุเลาจากอาการเจ็บป่วย หรือสวดส่งกุศลให้หลวงปู่ ครูอาจารย์ที่มีอายุมากให้มีพละกำลัง หรือสวดเพื่อบรรเทาเวทนา หรือสืบชะตาต่ออายุ.

    จัดทำเผยแพร่เพื่อรักษามรดกธรรมของพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่พุทธบริษัทสืบต่อไปฯ (จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน *ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ*)
    ทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต ภิกขุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2021
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    รวมบทสวดมนต์ "เสียงที่ฟังแล้วเย็น" 112 บท เปิดฟังแล้วสวดตาม ได้อานิสงส์มาก [บทสวดมนต์ประจําวัน] 10 Hrs.

    court homan
    ปัพพะโตปะมะคาถา-อะริยะนะคาถา


    kalashakay sam
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2021
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    ธัมมปหังสนปาฐะ

    เขมาเขมสรณทีปิกคาถา

    ทวัตติงสาการปาฐะ

    สัพพปัตติทานคาถา

    namo 125
    Mar 16, 2018
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2020
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    ปัพพชิตอภิณหปัจจเวกขณปาฐะ

    สังเวคอิธชีวิตคาถา

    ธัมมปริยายะ

    อริยธนคาถา

    namo 125
    Mar 16, 2018
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2020
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    อิติปิโส นพเคราะห์

    Ativitt Dinkgairw
    Oct 27, 2018
    อิติปิ โส ภะคะวา ข้าพเจ้า จะไหว้พระอาทิตย์สะเทวา เชิญเสด็จลงมารักษาอายุข้าพเจ้า ไว้ได้ ๖ ปี เวียนรอบในราศี เมษ พฤษภ เมถุน กรกฏ สิงห์ กันย์ ตุลย์ พิจิก ธนู มังกร กุม มีน ต้องลักษณ์ ต้องจันทร์ ต้องพระเคราะห์ตัวนอก ต้องพระเคราะห์ตัวกลาง ต้องพระเคราะห์ตัวใน ต้องพระเคราะห์ตัวใดๆ ขอให้คุ้มเสนียดจัญไร ขอให้มีชัยมงคล คุ้มโทษโทสา วิญญาณสัมปันโน

    อิติปิ โส ภะคะวา ข้าพเจ้า จะไหว้พระจันทร์สะเทวา เชิญเสด็จลงมารักษาอายุข้าพเจ้า ไว้ได้ ๑๕ ปี เวียนรอบในราศี เมษ พฤษภ เมถุน กรกฏ สิงห์ กันย์ ตุลย์ พิจิก ธนู มังกร กุม มีน ต้องลักษณ์ ต้องจันทร์ ต้องพระเคราะห์ตัวนอก ต้องพระเคราะห์ตัวกลาง ต้องพระเคราะห์ตัวใน ต้องพระเคราะห์ตัวใดๆ ขอให้คุ้มเสนียดจัญไร ขอให้มีชัยมงคล คุ้มโทษโทสา วิญญาณสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ข้าพเจ้า จะไหว้พระอังคารสะเทวา เชิญเสด็จลงมารักษาอายุข้าพเจ้า ไว้ได้ ๘ ปี เวียนรอบในราศี เมษ พฤษภ เมถุน กรกฏ สิงห์ กันย์ ตุลย์ พิจิก ธนู มังกร กุม มีน ต้องลักษณ์ ต้องจันทร์ ต้องพระเคราะห์ตัวนอก ต้องพระเคราะห์ตัวกลาง ต้องพระเคราะห์ตัวใน ต้องพระเคราะห์ตัวใดๆ ขอให้คุ้มเสนียดจัญไร ขอให้มีชัยมงคล คุ้มโทษโทสา วิญญาณสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ข้าพเจ้า จะไหว้พระพุธสะเทวา เชิญเสด็จลงมารักษาอายุข้าพเจ้า ไว้ได้ ๑๗ ปี เวียนรอบในราศี เมษ พฤษภ เมถุน กรกฏ สิงห์ กันย์ ตุลย์ พิจิก ธนู มังกร กุม มีน ต้องลักษณ์ ต้องจันทร์ ต้องพระเคราะห์ตัวนอก ต้องพระเคราะห์ตัวกลาง ต้องพระเคราะห์ตัวใน ต้องพระเคราะห์ตัวใดๆ ขอให้คุ้มเสนียดจัญไร ขอให้มีชัยมงคล คุ้มโทษโทสา วิญญาณสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ข้าพเจ้า จะไหว้พระเสาร์สะเทวา เชิญเสด็จลงมารักษาอายุข้าพเจ้า ไว้ได้ ๑๐ ปี เวียนรอบในราศี เมษ พฤษภ เมถุน กรกฏ สิงห์ กันย์ ตุลย์ พิจิก ธนู มังกร กุม มีน ต้องลักษณ์ ต้องจันทร์ ต้องพระเคราะห์ตัวนอก ต้องพระเคราะห์ตัวกลาง ต้องพระเคราะห์ตัวใน ต้องพระเคราะห์ตัวใดๆ ขอให้คุ้มเสนียดจัญไร ขอให้มีชัยมงคล คุ้มโทษโทสา วิญญาณสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ข้าพเจ้า จะไหว้พระพฤหัสสะเทวา เชิญเสด็จลงมารักษาอายุข้าพเจ้า ไว้ได้ ๑๙ ปี เวียนรอบในราศี เมษ พฤษภ เมถุน กรกฏ สิงห์ กันย์ ตุลย์ พิจิก ธนู มังกร กุม มีน ต้องลักษณ์ ต้องจันทร์ ต้องพระเคราะห์ตัวนอก ต้องพระเคราะห์ตัวกลาง ต้องพระเคราะห์ตัวใน ต้องพระเคราะห์ตัวใดๆ ขอให้คุ้มเสนียดจัญไร ขอให้มีชัยมงคล คุ้มโทษโทสา วิญญาณสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ข้าพเจ้า จะไหว้พระราหูสะเทวา เชิญเสด็จลงมารักษาอายุข้าพเจ้า ไว้ได้ ๑๒ ปี เวียนรอบในราศี เมษ พฤษภ เมถุน กรกฏ สิงห์ กันย์ ตุลย์ พิจิก ธนู มังกร กุม มีน ต้องลักษณ์ ต้องจันทร์ ต้องพระเคราะห์ตัวนอก ต้องพระเคราะห์ตัวกลาง ต้องพระเคราะห์ตัวใน ต้องพระเคราะห์ตัวใดๆ ขอให้คุ้มเสนียดจัญไร ขอให้มีชัยมงคล คุ้มโทษโทสา วิญญาณสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ข้าพเจ้า จะไหว้พระศุกร์สะเทวา เชิญเสด็จลงมารักษาอายุข้าพเจ้า ไว้ได้ ๒๑ ปี เวียนรอบในราศี เมษ พฤษภ เมถุน กรกฏ สิงห์ กันย์ ตุลย์ พิจิก ธนู มังกร กุม มีน ต้องลักษณ์ ต้องจันทร์ ต้องพระเคราะห์ตัวนอก ต้องพระเคราะห์ตัวกลาง ต้องพระเคราะห์ตัวใน ต้องพระเคราะห์ตัวใดๆ ขอให้คุ้มเสนียดจัญไร ขอให้มีชัยมงคล คุ้มโทษโทสา วิญญาณสัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ข้าพเจ้า จะไหว้พระเกตุสะเทวา เชิญเสด็จลงมารักษาอายุข้าพเจ้า ไว้ได้ ๙ ปี เวียนรอบในราศี เมษ พฤษภ เมถุน กรกฏ สิงห์ กันย์ ตุลย์ พิจิก ธนู มังกร กุม มีน ต้องลักษณ์ ต้องจันทร์ ต้องพระเคราะห์ตัวนอก ต้องพระเคราะห์ตัวกลาง ต้องพระเคราะห์ตัวใน ต้องพระเคราะห์ตัวใดๆ ขอให้คุ้มเสนียดจัญไร ขอให้มีชัยมงคล คุ้มโทษโทสา วิญญาณสัมปันโน.
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    คาถา อันเชิญปู่ชีวกโกมารภัจจ์ - ต่อชีวิตต่อลมหายใจ- เอื้ออังกูร

    Aueaangkun Worarakphonphat
    คาถา อันเชิญปู่ชีวกโกมารภัจจ์ - ต่อชีวิตต่อลมหายใจ- เอื้ออังกูร หากท่านใดที่มีความศรัทธา ได้ฟังหรือได้สวด ก็จะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บใดๆ ผู้ป่วยรอวันตายก็จะเกิดปาฏิหาริย์ต่อชีวิตต่อลมหายใจ ให้สุขภาพดีขึ้น ด้วยอำนาจบารมีของปู่ชีวกผู้มีความรอบรู้เรืองยารักษาโรค ด้วยโอสถ

     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    หมอชีวกโกมารภัจจ์ ตอนที่ 1 (บรมครูหมอแห่งการแพทย์แผนไทย)

    หมอชนาณัติ แสงอรุณ
    Sep 25, 2014
    ʘ ชีวก ชื่อหมอใหญ่ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาและมีชื่อเสียงมากในครั้งพุทธกาล เป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระเจ้าพิมพิสาร และพระเจ้าพิมพิสารได้ถวายให้เป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระพุทธเจ้าด้วย, เรียกชื่อเต็มว่า ชีวกโกมารภัจจ์

    หมอชีวกเกิดที่เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เป็นบุตรของนางคณิกา (หญิงงามเมือง) ชื่อว่าสาลวดี แต่ไม่รู้จักมารดาบิดาของตน เพราะเมื่อนางสาลวดีมีครรภ์ เกรงค่าตัวจะตกจึงเก็บตัวอยู่ ครั้นคลอดแล้วก็ให้คนรับใช้เอาทารกไปทิ้งที่กองขยะ เจ้าชายอภัย โอรสองค์หนึ่งของพระเจ้าพิมพิสาร เสด็จผ่านไป เห็นการุมล้อมทารกอยู่ เมื่อทรงทราบว่าเป็นทารกและยังมีชีวิตอยู่ จึงได้โปรดให้นำไปให้นางสนมเลี้ยงไว้ในวัง (ชีวติ = ยังเป็นอยู่ หรือยังมีชีวิตอยู่) ทารกนั้นจึงได้ชื่อว่า ชีวก (ผู้ยังเป็น) ครั้นชีวกเจริญวัยขึ้น พอจะทราบว่าตนเป็นเด็กกำพร้า ก็คิดแสวงหาศิลปวิทยาไว้เลี้ยงตน จึงได้เดินทางไปศึกษาวิชาแพทย์กับอาจารย์แพทย์ทิศาปาโมกข์ ที่เมืองตักสิลา ศึกษาอยู่ ๗ ปี ต่อมา เจ้าชายอภัยนำหมอชีวกไปรักษาโรคริดสีดวงงอกแด่พระเจ้าพิมพิสาร จอมชนแห่งมคธทรงหายประชวรแล้ว จะพระราชทานเครื่องประดับของสตรีชาววัง ๕๐๐ นางให้เป็นรางวัล หมอชีวกไม่รับ ขอให้ทรงถือว่าเป็นหน้าที่ของตนเท่านั้น พระเจ้าพิมพิสารจึงโปรดให้หมอชีวกเป็นแพทย์ประจำพระองค์ หมอชีวกได้รักษาโรครายสำคัญหลายครั้ง เช่น ผ่าตัดรักษาโรคในสมองของเศรษฐีเมืองราชคฤห์ ผ่าตัดเนื้องอกในลำไส้ของบุตรเศรษฐีเมืองพาราณสี /
    โปรดติดตามชมตอนต่อไป (ตอนที่ 2)
    » ด้วยความปรารถนาดีจาก หมอชนาณัติ แสงอรุณ ( ประกาศให้รู้ว่า การแพทย์แผนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก )
    ► หมายเหตุ : ขอคำปรึกษาหมอชนาณัติ แสงอรุณ » ติดต่อสอบถามได้ที่นี่... https://www.facebook.com/profile.php?...
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    หมอชีวกโกมารภัจจ์ ตอนที่ 2 ( บรมครูหมอแห่งแพทย์แผนไทย )

    หมอชนาณัติ แสงอรุณ
    Jan 28, 2015
    ʘ เนื้อเรื่อง (ต่อจากตอนที่ 1)

    • แพทย์ประจำองค์พระศาสดาและภิกษุสงฆ์
    • กราบทูลขอพรห้ามบวชคนที่มีโรคติดต่อ
    • กราบทูบขอพรให้ภิกษุรับคฤหบดีจีวรได้
    • หมอชีวกโกมารภัจ สร้างวัด
    • พาพระเจ้าอชาตศัตรูเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
    หมอชีวกโกมารภัจ ทำประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนทั่วไปเป็นอเนกประการ ท่านเป็นอุบาสกผู้เป็นพระอริยชั้นพระโสดาบัน พระบรมศาสดา ได้ยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าอุบาสิกาทั้งหลาย ในฝ่ายเลื่อมใสในบุคคล
    ที่มา : พระไตรปิฎก
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    บทสวดอุเทนตะยัญจักขุมา (โมระปะริตตัง)

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Jan 31, 2019

    พระทรงวุฒิ ถิรจิตโต ผู้สวด (ออกเสียงมคธ) ความเป็นมาของบทสวดอุเทนตะยัญจักขุมา (โมระปะริตตัง)นี้ เป็นคาถาที่ปรากฏในตำนานโมรปริตร (อุเทตะยัญจักขุมา) ซึ่งเป็นนิทานชาดก โดยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็น "พญานกยูงทอง"
    บทสวดอุเทนตะยัญจักขุมา (โมระปะริตตัง)
    อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง เย พ๎ราห๎มะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัต๎วา โมโร จะระติ เอสะนา ฯ อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง เย พ๎ราห๎มะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัต๎วา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ ฯ
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    บทสวดยังกิญจิ (ระตะนะสุตตัง)

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    พระทรงวุฒิ ถิรจิตโต ผู้สวด (ออกเสียงมคธ)

    สมัยพุทธกาล เมื่อครั้งเกิดอหิวาตกโรค ระบาดที่เมืองเวสาลี ในช่วงเวลานั้นเกิดภัยแล้ง ข้าวกล้าในไร่นาเกิดความเสียหายหนัก ผู้คนอดอยาก และล้มตายเป็นจำนวนมาก ชาวเมืองเวสาลีนำซากศพเหล่านั้นไปทิ้งไว้นอกเมือง ในพระไตรปิฎกกล่าวว่า “เพราะกลิ่นซากศพของคนที่ตายทั้งหลาย พวกอมนุษย์ทั้งหลายก็เข้าเมือง ต่อแต่นั้นคนก็ตายมากต่อมาก เพราะความปฏิกูลนั้น อหิวาตกโรคย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ทั้งหลาย” ชาวเมืองเวสาลีช่วยกันค้นหาสาเหตุของทุพภิกขภัยครั้งนี้ ได้กราบทูลพระราชาว่า คงเป็นเพราะพระองค์ไม่ตั้งอยู่ในธรรมกระมัง จึงเกิดทุกข์เข็ญเช่นนี้ พระราชารับสั่งให้ช่วยตรวจสอบว่า พระองค์ไม่ตั้งอยู่ในธรรมข้อใด ประชาชนก็ช่วยกันพิจารณาตรวจสอบแต่ไม่พบข้อบกพร่องแต่อย่างใด ต่อมามีบางพวกเสนอว่า บัดนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าได้บังเกิดขึ้นแล้ว พระองค์เป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก ขอได้โปรดกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระพุทธองค์มาโปรดชาวเมืองเวสาลีด้วยเถิด ในขณะนั้นพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่เมืองราชคฤห์ และพระเจ้าพิมพิสารทรงอุปัฏฐากพระพุทธองค์อยู่ เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบว่าชาวเมืองเวสาลีได้ทูลอาราธนาพระองค์เสด็จดับทุกข์ให้ จึงทรงรับด้วยทรงทราบชัดว่า "เมื่อเราแสดงรัตนสูตรในเมืองเวสาลีแล้ว อารักขาจะแผ่ไปตลอดแสนโกฏิจักรวาล ในเวลาจบพระสูตร ธรรมาภิสมัยจักมีแก่สัตว์แปดหมื่นสี่พัน" เมื่อพระพุทธองค์เสด็จไปถึงเมืองเวสาลี เกิดฝนตกหนัก เรียกว่า "ฝนโบกขรพรรษ" เป็นฝนพิเศษ เพราะผู้ใดต้องการจะเปียกฝน ก็เปียก ผู้ใดไม่ต้องการเปียก ก็จะไม่เปียก ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมถึงเข่า ถึงเอว ถึงคอ แล้วน้ำพัดพาเอาซากศพเหล่านั้นลงไปในแม่น้ำคงคาจนหมดสิ้น แผ่นดินก็สะอาดบริสุทธิ์ขึ้น ต่อมาพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับยืนอยู่ที่ประตูพระนคร ตรัสเรียกพระอานนท์มาแล้วตรัสสอน "รัตนสูตร" แก่พระอานนท์ แล้วโปรดให้ทำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมไปทั่วเมือง ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า เพื่อกำจัดอุปัทวะเหล่านั้น ที่ประตูพระนครเวสาลี สวดอยู่เพื่อป้องกัน ใช้บาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าตักน้ำ เที่ยวประพรมอยู่ทั่วพระนคร ก็เมื่อพระเถระกล่าวคำว่า "ยังกิญจิ" เท่านั้น พวกอมนุษย์ทั้งหลายที่อาศัยกองหยากเยื่อ และประเทศแห่งฝาเรือนเป็นต้น ซึ่งยังไม่หนีไปในกาลก่อน ก็พากันหนีไปทางประตูทั้ง ๔ ....เมื่อพวกอมนุษย์ไปกันแล้ว โรคของมนุษย์ทั้งหลายก็สงบ" ดังนี้
    บทสวดยังกิญจิ (ระตะนะสุตตัง)
    ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
    ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง ยะทัชฌะคา สัก๎ยะมุนี สะมาหิโต นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
    ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
    เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐา จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
    เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
    ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัส๎มิง เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป อิทัปมิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    บทสวดมังคะละสุตตัง อะเสวะนา (ฉบับพิเศษ)

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    พระทรงวุฒิ ถิรจิตโต ผู้สวด (ออกเสียงมคธ)
    บทสวดมังคะละสุตตัง (อะเสวะนา) คำนมัสการพระพุทธเจ้า
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
    ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
    พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
    มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะทารัสสะ สังคะโห อะนากลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
    ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สังคะโห อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัมมังตะละมุตตะมัง ฯ
    อาระตี วิระตี ปาปา มัชชะปานา จะ สัญญะโม อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
    คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
    ขันตี จะ โสวะจัสสะตา สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
    ตะโป จะ พ๎รัห๎มะจะริยัญจะ อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
    ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
    เอตาทิสานิ กัต๎วานะ สัพพัตถะมะปะราชิตา สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ ฯ
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    บทสวดโยจักขุมา (นะมะการะสิทธิคาถา)

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    พระทรงวุฒิ ถิรจิตโต ผู้สวด (ออกเสียงมคธ)
    บทสวดโยจักขุมา (นะมะการะสิทธิคาถา)
    โย จักขุมา โมหะมะลาปะกัฏโฐ สามัง วะ พุทโธ สุคะโต วิมุตโต มารัสสะ ปาสา วินิโมจะยันโต ปาเปสิ เขมัง ชะนะตัง วิเนยยัง ฯ พุทธัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ โลกัสสะ นาถัญจะ วินายะกัญจะ ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ ฯ ธัมโม ธะโช โย วิยะ ตัสสะ สัตถุ ทัสเสสิ โลกัสสะ วิสุทธิมัคคัง นิยยานิโก ธัมมะธะรัสสะ ธารี สาตาวะโห สันติกะโร สุจิณโณ ฯ ธัมมัง วะรันตัง สิระสา นะมานิ โมหัปปะทาลัง อุปะสันตะทาหัง ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ ฯ สัทธัมมะเสนา สุคะตานุโค โย โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะเชตา สันโต สะยัง สันตินิโยชะโก จะ สวากขาตะธัมมัง วิทิตัง กะโรติ ฯ สังฆัง วะรันตัง สิระสา นะมามิ พุทธานุพุทธัง สะมะสีละทิฏฐิง ตันเตชะสา เต ชะยะสิทธิ โหตุ สัพพันตะรายา จะ วินาสะเมนตุ ฯ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2020
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    พระคาถาฉิมพลี 21 จบ คุณย่าบุญเรือน โตงบุญเติม

    จิรวิชญ์ รณรื่น
    เอามาแบ่งปันครับ มาทำความเข้าใจกันก่อน

    สำหรับผม คาถาหรือการสวดมนต์ ผมเรียกว่าโค๊ดลับ เหมือนกับรหัสหรือกุญแจที่จะเข้าไปสู่อะไรสักอย่างนึง แต่ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องประกอบกับโค๊ด ก็คือศีล และจิตที่สว่างเป็นปกติ กล่าวคือ เป็นผู้ไม่มีจิตคิดเบียดเบียนใคร ถึงจะเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการใช้สิทธิ
    คุณย่าบุญเรือน เป็นผู้ที่มีบุญญาธิการมาก ผู้คน ลูกศิษย์ลูกหาทั้งที่ทันและไม่ทันคุณย่านั้นรู้ดี ฉะนั้น คุณย่าก็เหมือนเป็นผู้เมตตาที่มีสมบัติมากมายมหาศาล ใครที่ได้รู้จัก ได้เข้ามาใกล้ชิด ท่านก็พร้อมจะช่วยเหลือไม่เลือกที่รักมักที่ชัง แม้กระทั่งบทสวดบทนี้ก็เช่นกัน ใครที่มีความสัมพันธ์กับท่าน ได้มาอ่าน ได้มาสวด ก็เหมือนกับผู้ที่ได้สิทธิ์นั้น
    ฉะนั้น ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ถ้าการสวดมนต์บทนี้จะสำเร็จได้ จิตต้องสว่าง ไม่ควรสวดด้วยความโลภหวังผล เพราะนั่นเป็นจิตที่มืด แต่ควรสวดด้วยความเคารพ เชื่อมั่น และบูชาในความบริสุทธิ์ของคุณย่า และขอสวดเพื่อบูชาท่าน และเป็นที่ระลึกถึงท่าน และคุณพระรัตนตรัย ลองดูครับ คิดดูเอาเองละกัน ว่าคุณย่าท่านมีบุญขนาดไหน ขนาดท้าวสักกะเทวราชยังต้องลงมาบอกคาถานี้กับท่านเลย ส่วนใครที่ไม่เชื่อ ก็มีสิทธินะครับ แต่อย่าไปปรามาสท่านนะครับ เพราะจะไม่คุ้มเลย เราไม่ได้จะสวดเพื่ออ้อนวอนขอ แต่เราสวดเพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน และถือว่าท่านมาบอก มาแนะนำ เราก็ทำตามเพราะเป็นสิ่งที่ดี เท่านั้นก็พอครับ
    คาถาพระฉิมพลี(คาถาพระสีวลี) ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม พระคาถานี้คุณแม่บุญเรือนได้จาก การนั่งสมาธิจิตเมื่อวันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ “จากตำราได้เขียนบอกไว้ว่าเป็นคาถาที่ท้าวสักกเทวราชหรือพระอินทร์นำมาถวายแด่คุณแม่บุญเรือน” ท่านให้สวดตามกำลังวันเพื่อบูชาพระ สิวลีมหา เถระหรือพระฉิมพลี จะเป็นมหาลาภ มหาโชค มหาโภคทรัพย์ และเจริญ ด้วยจตุรพิศพรชัย คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติประสพสิ่งอันพึงปรารถณาทุกประการนั่นแล
    กำลังวันที่กล่าวถึงมีดัง นี้คือ
    วันอาทิตย์ ๖
    วันจันทร์ ๑๕
    วันอังคาร ๘
    วันพุธ ๑๗
    วันพฤหัสบดี ๑๙
    วันศุกร์ ๒๑
    และวันเสาร์ ๑๐ ครับ.
    คาถาพระฉิมพลี(คาถาพระสีวลี) “ตั้งนะโมฯ ๓ จบ” แล้วว่า…
    “นะชาลีติฉิมพาลี จะ มหาเถโร สุวรรณะมามา โภชนะมามา วัตถุวัตถามามา พลาพลังมามา โภคะมามา มหาลาโภมามา สัพเพชะนา พหูชะนา ภะวันตุเม”
    คลิปนี้ทำมา 21 จบ ซึ่งเป็นกำลังสูงสุดเลย ใครที่สวดวันไหน ก็จำว่าสวดไปกี่จบแล้ว แล้วหยุดตอนครบนะครับ ได้ฝึกสติในการจำไปในตัวด้วย
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    มนต์เทวดา(เมื่อเปิดท่านจะมาฟังด้วยและให้พรแก่เรา)เสียงดีไพเราะสงบเย็น

    namo putaya
    Jun 20, 2019
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    พระคาถาพระพุทธเจ้า 16 พระองค์

    namo putaya
    Sep 28, 2020
    ภาวนาพระคาถานี้ทุกวันสามารถทำลายโรคร้ายที่อยู่ในตัวเรากระดูกจะเป็นทองแดงมะเร็งร้ายจะหายไปหนังจะเหนียวแกร่งพระคาถานี้เรียกว่า “ธัมมะราชา จัดเป็นใหญ่กว่าคาถาทั้งปวง”ขจัดปัญหาและอุปสรรคดีนักแล

    ก่อนสวดทุกครั้งให้ตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึง คุณพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ คุณบิดามารดา หากเสกข้าวกินก็ให้ระลึกถึงคุณของพระแม่โพสพด้วย แล้วจึงสวดคาถากำกับ หากอยากค้าขายดีมีกำไร ก็มีเคล็ดกันว่า ให้หยิบของภายในร้านมาทีละชิ้น แล้วตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ ตั้งจิตให้มั่น ให้จิตเป็นสมาธิมากที่สุด แล้วสวดคาถาพระเจ้า 16 พระองค์ เชื่อว่า ด้วยจะช่วยให้ขายของดีเป็นเทน้ำเทท่า มีกำไรงอกงาม มีกินมีใช้ ทำมาค้าขึ้น .
    การใช้คาถาให้สัมฤทธิ์ผลผู้บูชาจะต้องมีความศรัทธาอย่างแรงกล้าและตั้งจิตเป็นสมาธิหากจิตมีสมาธิตั้งมั่นมากเท่าไหร่ก็ย่อมจะเห็นผลมากเท่านั้น
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    บทสวดมนต์อุปปาตะสันติ (มหาสันติงหลวง)


    RakMoM099
    448,100 views Jul 8, 2015
    อานุภาพของพระคาถาอุปปาตะสันติ

    ผู้ใดสวดหรือฟังอุปปาตะสันติ อันกล่าวแล้วด้วยประการฉะนี้ บุคคลนั้นจะพึงชนะจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง จะเจริญด้วยคุณ ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ ความวิบัติย่อมไม่มาแผ้วพาน ย่อมได้รับความอิ่มใจในกาลทุกเมื่อ ยาพิษและศาสตราวุธย่อมไม่มากล้ำกราย ย่อมชนะข้าศึกทั้งมวล โรคาพยาธิย่อมไม่เบียดเบียน ย่อมเจริญด้วยทรัพย์ศฤงคาร ภัยจากมนุษย์ อมนุษย์ และสัตว์ร้ายน้อยใหญ่ย่อมสงบไปด้วยเสียงแห่งการสวดอุปปาตะสันติ ผู้ที่สวดอุปปาตะสันติแล้วอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปก็ดี ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ดี จะช่วยให้เขาเหล่านั้นพ้นจากมหันตทุกข์ ย่อมเข้าถึงสุขในกาลทุกเมื่อ ทวยเทพเทวดาทั้งหลาย ท้าวพระยามหากษัตริย์ทั้งหลาย จักเป็นผู้เจริญด้วยเดชและสิริมงคล ด้วยกฤตยานุภาพแห่งพระคาถาอุปปาตะสันติ เหตุร้ายอันเกิดจากภัยธรรมชาติมีแผ่นดินไหวและน้ำท่วมเป็นต้น เหตุร้ายอันเกิดจากฟากฟ้า เหตุร้ายอันเกิดจากสุริยุปราคา จันทรุปราคา เหตุร้ายอันเกิดจากบาปกรรม เหตุร้ายทั้งปวงจักพินาศไปด้วยเดชแห่งอุปปาตะสันติ ประวัติคัมภีร์อุปปาตะสันติ อุปปาตะสันติ ทางเมืองเหนือเรียกว่า มหาสันติงหลวง แปลว่า บทสวดเพื่อสงบเคราะห์กรรม สวดเพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน คัมภีร์อุปปาตะสันติ เป็นวรรณกรรมภาษาบาลีของล้านนาไทย แต่งโดยพระมหามังคละสีละวังสะ พระเถระนักปราชญ์ของชาวเชียงใหม่รูปหนึ่ง ในสมัยของพระเจ้าสิริธรรมจักกวัตติลกราชาธิราช หรือพระเจ้าติโลกราช รัชกาลที่ ๑๑ แห่งราชวงศ์มังราย ซึ่งครองราชสมบัติตั้งแต่ปี พ.ศ. ๑๙๘๕ – ๒๐๓๐ เป็นพระคาถาล้วนจำนวน ๒๗๑ คาถา จัดเข้าในหนังสือประเภทเชียงใหม่คันถะ คัมภีร์นี้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในหมู่ชนชาวล้านนามาแต่โบราณกาล ทั้งพระสงฆ์ สามเณร และชาวบ้าน พากันสวดและฟังอุปปาตะสันติเพื่อกลับความร้ายให้กลายเป็นความดี มีคำเล่าว่าสมัยที่ท่านแต่งอุปปาตะสันตินั้น ที่เชียงใหม่มีโจรผู้ร้ายและคนอันธพาลชุกชุมผิดปกติ มีเหตุร้ายและสิ่งกระทบกระเทือนอยู่เสมอ พระมหาเถระสีละวังสะ จึงให้พระสงฆ์สามเณร และประชาชน พากันสวด และฟังอุปปาตะสันติ เพื่อสงบเหตุร้ายทั้งมวลที่เกิดขึ้นในเมือง ต่อมา ชาวพม่ามีความเลื่อมใส นำคัมภีร์นี้เข้าไปในประเทศพม่า ชาวพม่าทั้งพระสงฆ์และประชาชน นับถือพระคัมภีร์อุปปาตะสันติว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก พากันนิยมท่อง นิยมสวด และนิยมฟังกันอย่างกว้างขวาง แพร่หลายไปทั่วประเทศพม่า ในสมัย ๕๐๐ ปีที่ล่วงแล้ว ในงานพิธีสืบชะตา งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น อุปปาตะสันติคาถานั้นมีเนื้อความเป็นไปเพื่อยังความสงบอันยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้น เพื่อสงบเหตุร้ายทั้งปวง เพื่อป้องกันอมนุษย์และยักษ์ทั้งหลาย เป็นคาถาที่ทำให้พ้นจากความตายก่อนกำหนดเวลา เป็นคาถาที่เป็นเครื่องย่ำยีกำลังของข้าศึก สามารถจำเริญชัยชนะแก่พระราชา และนำสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาทั้งปวงให้หมดไป อุปปาตะสันติคาถาเป็นบทสวดอย่างพิสดาร ท่านจึงกล่าวพระนามของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งที่มีมาในอดีต ในปัจจุบัน และจักมีมาในอนาคต รวมตลอดไปจนถึงท่านที่ทรงคุณ ทรงอำนาจ ทรงฤทธิ์ ในทางที่ดีอื่น ๆ เช่น เทวดา อินทร์ พรหม ยักษ์ นาค คนธรรพ์ ครุฑ และอสูร เป็นต้น เพื่อขอความเป็นมงคล ความสงบ ความสวัสดี ความไม่มีโรค ชัยชนะ และอายุ รวมทั้งขอให้ท่านคุ้มครองให้พ้นจากเหตุเภทภัยนานัปการ อันจะบังเกิดขึ้นในกาลทุกเมื่อ คัมภีร์อุปปาตะสันติเป็นคัมภีร์ของไทย แต่ต้นฉบับได้จากเมืองไทยไปอยู่เมืองพม่าเสียนาน จนแทบกล่าวได้ว่าคนไทยสมัยหลัง ๆ นี้ ไม่มีใครรู้จัก ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อคัมภีร์นี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2022
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    บทสวดอัตถิโลเก (วัฏฏะกะปะริตตัง)

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Jan 30, 2019

    พระทรงวุฒิ ถิรจิตโต ผู้สวด (ออกเสียงมคธ)
    บทสวดอัตถิโลเก (วัฏฏะกะปะริตตัง)


    อัตถิ โลเก สีละคุโณ สัจจัง โสเจยยะนุททะยา

    เตนะ สัจเจนะ กาหามิ สัจจะกิริยะมะนุตตะรัง อาวัชชิต๎วา ธัมมะพะลัง สะริต๎วา ปุพพะเก ชิเน สัจจะพะละมะวัสสายะ สัจจะกิริยะมะกาสะหัง สันติ ปักขา อะปัตตะนา สันติ ปาทา อะวัญจะนา มาตา ปิตา จะ นิกขันตา ชาตะเวทะ ปะฏิกกะมะ สะหะ สัจเจ กะเต มัยหัง มะหาปัชชะลิโต สิขี วัชเชสิ โสฬะสะ กะรีสานิ อุทะกัง ปัต๎วา ยะถา สิขี สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ เอสา เม สัจจะปาระมีติ ฯ
    คำแปลของบทสวดอัตถิโลเก (วัฏฏะกะปะริตตัง)
    อัตถิ โลเก สีละคุโณ สัจจัง โสเจยยะนุททะยา -คุณคือศีล ความสัตย์ ความสะอาด และความเอ็นดูอยู่ในโลก
    เตนะ สัจเจนะ กาหามิ สัจจะกิริยะมะนุตตะรัง -ด้วยคำสัตย์นั้น เราจักทำสัจจะกิริยา อันยอดเยี่ยม
    อาวัชชิต๎วา ธัมมะพะลัง -เราน้อมนึกถึงกำลังแห่งพระธรรม
    สะริต๎วา ปุพพะเก ชิเน -ระลึกถึงพระชินะพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ในปางก่อน
    สัจจะพะละมะวัสสายะ สัจจะกิริยะมะกาสะหัง
    -เราอาศัยกำลังแห่งสัจจะ จึงขอทำสัจจะกิริยา
    สันติ ปักขา อะปัตตะนา -ปีกทั้งสองของเรามีอยู่ แต่บินไม่ได้
    สันติ ปาทา อะวัญจะนา -เท้าทั้งสองของเราก็มีอยู่ แต่เดินไม่ได้
    มาตา ปิตา จะ นิกขันตา -มารดาและบิดาของเรา ก็ออกไปหาอาหารเสีย
    ชาตะเวทะ ปะฏิกกะมะ -นี่แน่ะไฟป่า ท่านจงหลีกไปเสียเถิด
    สะหะ สัจเจ กะเต มัยหัง มะหาปัชชะลิโต สิขี วัชเชสิ โสฬะสะ กะรีสานิ
    -เมื่อเราทำสัจจะแล้ว เปลวไฟอันลุกโชติช่วง ก็หลีกห่างไปถึง ๑๖ กรีส
    อุทะกัง ปัต๎วา ยะถา สิขี -ดุจดังเปลวไฟ ที่ตกถึงน้ำแล้วย่อมดับไป ฉะนั้น
    สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ -สัจจะอื่นเสมอด้วยสัจจะของเรา ย่อมไม่มี
    เอสา เม สัจจะปาระมีติฯ -นี้เป็นสัจจะบารมีของเรา ดังนี้แล ฯ
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    พุทธมนต์มหาเมตตาใหญ่(ฉบับ ๓ จบ) แก้ไขกรรมเก่า เป็นที่รักของเทวดา อานิสงส์มหาศาล

    อยู่ดีมีแฮง สตูดิโอ
    1,320,212 viewsOct 19, 2017


    บทสวดมหาเมตตาใหญ่ ฉบับ ๓ จบ [เหมาะสำหรับฟังเพื่อทำสมาธิ] : แก้ไขกรรม อานิสงส์มหาศาล เป็นที่รักของเทวดา อานิสงส์ของการเจริญคาถามหาเมตตาใหญ่ อานิสงส์ของการแผ่เมตตา พระพุทธเจ้าแสดงไว้ ๑๑ ประการ คือ ๑. หลับเป็นสุข : คือนอนหลับสบาย ไม่ฟุ้งซ่าน พลิกตัวไปมา ๒. ตื่นเป็นสุข : คือตื่นมาจิตใจแจ่มใส่ ปลอดโปร่ง ไม่เซื่องซึม มึนหัว ๓. ไม่ฝันร้าย : คือฝันดี ฝันเห็นแต่สิ่งที่เป็นมงคล สิ่งที่ดีงาม ๔. เป็นที่รักของมนุษย์ : คือมีมนุษยสัมพันธ์ดี จิตใจเบิกบาน ไม่โกรธง่าย มีเสน่ห์น่าเข้าใกล้ ๕. เป็นที่รักของอมนุษย์ : เป็นที่รักของสัตว์เดรัจฉาน ภูตผีปีศาจ ๖. เทวดาย่อมคุ้มครองรักษา : เทวดาช่วยเหลือบันดาลให้สมหวังในสิ่งที่ต้องการ และป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นให้ถอยห่าง ๗. ไฟ ยาพิษ ศัสตรา ไม่อาจทำร้ายได้ ๘. เมื่อทำสมาธิ จิตจะสงบเร็ว ๙. ใบหน้าผ่องใส ๑๐. ไม่หลงตาย : คือเมื่อถึงเวลาที่จะต้องตายก็ตายด้วยอาการสงบ มีสติ ไม่บ่นเพ้อ คร่ำครวญ ดิ้นทุรนทุราย ๑๑. ยังไม่บรรลุธรรมเบื้องสูง ก็จะบังเกิดในพรหมโลก : ธรรมเบื้องสูงในที่นี้ได้แก่ โลกุตรธรรม ๙ คือ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ผู้ที่เจริญเมตตาถ้ายังไม่บรรลุธรรม ๙ อย่างนี้ และสามารถเจริญเมตตากรรมฐานนี้จนจิตเป็นสมาธิเข้าถึงฌานขั้นใดขั้นหนึ่งและเสียชีวิตลงขณะเข้าฌานก็จะไปบังเกิดในพรหมโลกทันที
    ในการสวดคาถามหาเมตตาใหญ่แต่ละครั้งนั้น ผู้สวดพึงกระทำด้วยความตั้งใจจริง ไม่สักแต่ว่าทำ ให้ระลึกอยู่เสมอว่าเราทำเพื่อขออภัยขอโทษต่อเจ้ากรรมนายเวรที่เราเคยได้ล่วงเกินเขามา และการที่จะทำให้เขายอมอภัยแก่เรานั้น เราต้องทำด้วยความจริงใจ บริสุทธิ์ใจจริง ๆ เขาถึงจะเต็มใจให้อภัยและตัดเวรกรรมได้จริง เมื่อจะเร่ิมสวดควรตัดเรื่องกังวลต่าง ๆ ออกไปให้หมด ให้สำรวมกาย วาจา และใจ กราบพระ ๓ ครั้ง ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ จากนั้นเริ่มสวดมนต์ไปตามลำดับ ดังนี้
    ๑. บทกราบพระรัตนาตรัย
    ๒. บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า
    ๓. บทไตรสรณคมน์
    ๔. มหาเมตตาใหญ่
    ขณะสวดมนต์ควรสวดด้วยน้ำเสียงที่ดังพอได้ยิน ชัดถ้อยชัดคำ ควรสวดด้วยจิตใจที่สงบ ไม่ต้องรีบเร่งให้จบโดยเร็ว แรก ๆ อาจจะสวดผิดบ้างถูกบ้าง ก็ไม่เป็นไร ไม่ถือว่าเป็นบาปติดตัว เพราะเราสวดด้วยจิตบริสุทธิ์มิได้มีเจตนาที่จะแกล้งทำเล่นอันเป็นการลบหลู่พระธรรมคำสอน เมื่อได้สวดบ่อย ๆ นานไปก็จะชำนาญเอง ปัญหาเรื่องการสวดผิด ๆ ถูก ๆ ก็จะหมดไป
    คาถามหาเมตตาใหญ่นี้ เป็นบทบันทึกเรื่องราวและบทพระธรรมเทศนาที่สำคัญตอนหนึ่งของพระพุทธเจ้า ซึ่งถูกจารึกไว้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๑ หน้า ๓๔๑ ชื่อ "เมตตากถา" มีเนื้อความโดยย่อว่า สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับ ณ วัดพระเชตวันมหาวิหาร ที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย ครั้งนั้นได้ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายให้ประชุมกันแล้วตรัสพระธรรมเทศนาโปรด พระธรรมเทศนาที่ยกขึ้นแสดงในครั้งนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเจริญเมตตากรรมฐาน โดยในเบื้องต้นทรงแสดงอานิสงส์แห่งการแผ่เมตตาว่า ผู้เจริญเมตตาจะได้รับอานิสงส์มากมายถึง ๑๑ ประการ จากนั้นจึงทรงจำแนกการแผ่เมตตาออกเป็น ๓ ประเภทคือ
    ๑) การแผ่ไปโดยไม่เจาะจงผู้รับ
    ๒) การแผ่ไปโดยเจาะจงผู้รับ และ
    ๓) การแผ่เมตตาไปในทิศทั้ง ๑๐
    จากนั้นจึงทรงแสดงคำแผ่เมตตาแต่ละประเภทโดยละเอียด และทรงเน้นย้ำให้ภิกษุจดจำนำไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ความพิเศษของคาถามหาเมตตาใหญ่นี้ก็คือ เป็นพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทรงยกขึ้นแสดงเอง โดยไม่มีเหตุให้ต้องแสดง เช่น ไม่มีผู้คุยหรือสนทนาเกี่ยวกับการแผ่เมตตา ไม่มีผู้ทูลถาม เป็นต้น เพราะโดยส่วนมากแล้วการแสดงธรรมของพระพุทธองค์จะต้องมีเหตุการณ์ให้ต้องแสดง การที่ทรงยกขึ้นแสดงเองเช่นนี้ ย่อมเป็นพระธรรมเทศนาที่ทรงให้ความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง อนึ่ง บทแผ่เมตตานี้ เป็นบทแผ่เมตตาที่ยาวที่สุดในบรรดาบทแผ่เมตตาอื่น ๆ จึงได้ชื่อว่า มหาเมตตาใหญ่
    หากผิดพลาดประการใด ทีมงานผู้จัดทำขออภัยมา ณ ที่นี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 เมษายน 2022
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    ปัพพะโตปะมะคาถา-พระมหาธีรนาถ-วัดป่าภูผาสูง

    ภูผา สูง
    Jun 9, 2020
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,083
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    บทสวดมนต์ มงคลจักรวาลน้อย ๓ จบ

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    May 12, 2020
    สวดโดย.พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต (ออกเสียงมคธ)
    มงคลจักรวาลน้อย
    สัพพะพุทธานุภาเวนะ ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง
    สัพพะธัมมานุภาเวนะ ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมทั้งปวง
    สัพพะสังฆานุภาเวนะ ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งปวง ..ฯ
    จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นมรดกธรรมของพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่พุทธบริษัทสืบต่อไปฯ (จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน
    *ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ*)
    ทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต ภิกขุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...