ความรู้เรื่อง บ่วงนาคบาศก์ โดยหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน

มีโยมเอานาคบาศก์มาถวาย พระอาจารย์ถามว่า “แม่ชีเอาไหม ? ตีราคามาซิ ตีราคาเองเลย ไม่มีใครแย่งหรอก ไม่ให้ใคร เห็นชอบแต่ของแบบนี้ ระวังอย่าไปโดนเขี้ยวมันนะ ทำเป็นเล่นไปเดี๋ยวก็ตายไม่รู้ตัว เขาเรียก นาก-คะ-บาด ร้อยวันพันปีจึงจะเจอสักที

บางคนเรียกว่า บ่วงจับวิญญาณ เป็นอาวุธของท้าวเวสสุวรรณ เอาไว้ปราบผีโดยเฉพาะ

อย่าเอาไปตามตำหนักทรงนะ ไปตามตำหนักทรงนี่บรรลัยหมดทั้งตำหนักเลย เพราะว่าพวกผีที่เลี้ยงไว้จะอยู่ไม่ได้"

ถาม : ใช้อย่างไรคะ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรก็ นะโมพุทธายะ พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ เอาไว้ก่อน

******************************​

แม่ชีนำปัจจัยมาถวายเพื่อบูชานาคบาศก์ พระอาจารย์ประกาศว่า “เจ้าของนาคบาศก์และตัวนาคด้วย ทำบุญสร้างพระให้แล้วนะ

ถ้าทำตามวิธีโบราณ เขาให้ลน ย่างไฟอ่อน ๆ จนแห้ง แต่สมัยนี้มีไมโครเวฟ แต่ระวังจะกลายเป็นงูปิ้ง..! ตั้งครั้งละนาที พอหอมได้ที่ก็เอาออก หรือไม่ก็ใช้วิธีโบราณรมควันไปเรื่อย ๆ ระวังอย่าไปโดนแถวเขี้ยวนะ เพราะว่าเขี้ยวยังมีพิษอยู่

ลนไปก็ภาวนาไป เวสสะ ภุสสะ นะโมพุทธายะ ขออนุญาตท้าวเวสสุวรรณ ขออำนาจเทพอาวุธของท่าน จะใช้ทำอะไรก็อธิษฐานเอา

มีของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของท่านเป็นจงอางใหญ่สองตัวกลืนกัน จงอางตัวใหญ่มาก ถึงเวลาสะพายข้ามไหล่ ลงมาถึงหัวเข่า ต้องบอกว่าของแบบนี้ท่านตั้งใจมอบให้จริง ๆ ไม่อย่างนั้นโอกาสเจอยากมาก”

ถาม : เป็นงูอะไรได้บ้างคะ ?
ตอบ : ที่เขาต้องการจริง ๆ คืองูเห่าหรืองูจงอางกินกันเอง ถ้ากินงูอื่นเขาไม่นับ

ถาม : ถ้าย่างจะไม่ไหม้หรือคะ ?
ตอบ : ไม่สิ...แค่รม เขาใช้คำว่าย่างไฟอ่อน ๆ ค่อย ๆ พลิก ค่อย ๆ พลิก แบบเดียวกับที่ขุนแผนย่างกุมารทองล่อกันยันสว่างเลย

เป็นของแปลกที่คนไม่ค่อยเห็น ถ้าเป็นงูเห่าหม้อ งูเห่าปลวก ตัวสั้น ๆ กินแล้ววงจะพอดีขนาดนี้ ถ้าหากว่าตัวใหญ่ ๆ อย่างพวกจงอาง ที่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าท่านได้ สะพายข้างยังเกือบถึงหัวเข่า เพราะว่าจงอางยาวถึง ๔-๕ เมตรก็ยังมี ถึงเวลากินกันเข้าไปก็ยังยาวอยู่

ทำบุญทำกุศลอะไรก็อุทิศให้เขาด้วย ของพวกไสยศาสตร์มาอยู่กับพวกเราก็กลายเป็นพุทธศาสตร์ดี ๆ นี่เอง ขึ้นอยู่กับการใช้ ที่คนไปแบ่งเป็นไสยดำ ไสยขาว หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า “ไอ้ที่ข้าสอนแกไปน่ะ ไอ้ที่นักวิชาการบอกว่าไสยศาสตร์ทั้งนั้น คาถาอาคมอะไรสารพัด คราวนี้เขาไม่รู้จริงนั่นแหละ เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นหัวใจพระคาถาจากพระไตรปิฎกทั้งนั้น”

พอเขาไม่รู้จริง เขาก็เหมาว่าเป็นไสยศาสตร์หมด โบราณอาจารย์ท่านเก่ง โยงใจเราด้วยเวทมนต์คาถา แล้วก็ปรับเข้าหาในเรื่องของกรรมฐานสายวิสุทธิมรรค

****************************​

บรรดาโยมผู้หญิงที่บ้านเติมบุญ ขอดูนาคบาศก์เพื่อถ่ายรูปกัน “เป็นผู้หญิงยิงเรือหัดกลัวงูบ้างสิ ไม่ใช่ว่าเห็นงูแล้ววิ่งเข้าใส่...! งูคงตกใจตาย แบบเดียวกับเด็กมอญที่ทองผาภูมิ จงอางเลื้อยมายาวตั้ง ๓-๔ เมตร เจอเด็กมอญนี่กลับหัวเลื้อยหนีสุดชีวิต แล้วเด็กมอญก็วิ่งไล่ เพราะว่าเด็กไม่ได้เห็นเป็นงู ไม่ได้เห็นว่าเป็นพญางู เขาเห็นเป็นอาหาร วิ่งไล่นี่จงอางหนีสุดชีวิตเลย

พวกเราส่วนใหญ่ไปเห็นเป็นงูใช่ไหม ? งูพิษดุร้าย แต่พวกนั้นเห็นเป็นอาหารชั้นหนึ่ง..!

ดูเอาไว้เป็นขวัญตา ของไม่ได้เห็นง่าย ๆ ในชีวิตอาตมาก็เห็นมาแค่สองครั้งเท่านั้น ตัวแรกที่เห็นนั่นแห้งจนผุเลยนะ กลายเป็นสีเทา ๆ หมดเลย อันนั้นเป็นของลุงหมอแถวบ้านของอาตมา ลุงหมอท่านเป็นหมอแผนโบราณรักษาโรคทั่วไป แล้วทีนี้มักจะมีโรคที่หมอทั่วไปรักษาไม่ได้ ก็คือพวกคุณผีคุณคน แบบนั้นเจอนาคบาศก์แน่นอน”

“นาคบาศก์อีกแบบหนึ่งเป็นงูกินหางตัวเอง แบบนั้นไม่ได้เป็นมหาอำนาจ ไล่ผีไม่ได้ แต่ว่าใช้ในทางเมตตามหานิยม ร่ำรวย เพราะเขาถือว่ากินเท่าไรก็ไม่หมด”

ถาม : กินกันแบบนี้แล้วเขาตายตอนไหนคะ ?
ตอบ : ก็คงประเภทที่ว่าถึงเวลาก็ตายเอง ที่ขำที่สุดก็คือมีคลิปงูกินหางตัวเองเข้าไป แล้วมีคนไปเขี่ยออก..!

ของพวกนี้เขาอยากอยู่กับอาตมาเพราะทำบุญให้อยู่เรื่อย เที่ยวก่อนจะเปลี่ยนแมลงภู่คำเพราะเอาตัวเก่าเฝ้าบ้านมานานแล้ว จะย้ายเอาตัวใหม่ไปแทน ท่านบอกว่า "ไม่...จะทำงานต่อ" เจ้าของเดิมทิ้งไว้ในขันดอกเป็นสิบ ๆ ปี ไม่ได้ทำอะไรเลย ทีนี้ตัวใหม่ก็อยากจะทำ ตัวเก่าก็อยากจะทำ ท้ายสุดก็ให้ทำทั้งฝูงเลย หมดเรื่อง...!

พออยู่กับพวกเรา เราได้อุทิศส่วนกุศลให้บ่อย ๆ เพราะอย่างน้อย ๆ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น เจริญพระกรรมฐาน อุทิศส่วนกุศลทุกครั้ง ส่วนเจ้าของเดิมพอถึงเวลาได้จากครูบาอาจารย์ ทำขันดอกรับเสร็จก็ทิ้งลืม เขาบอกว่าอยู่ในขันมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว เบื่อ..อยากทำงานมากกว่า

เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
(หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๓

 

สาธุครับ