เหรียญพระโพธิสัตว์(กวนอิม) มูลนิธิเทียนฟ้า รุ่นแรก ปี2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

หมายเลขemsแจ้งให้ในpmแล้วครับ

 

https://www.facebook.com/groups/Luangbhoopitsadoo/posts/3186959374837304/?locale=th_TH

ประชาสัมพันธ์งานบุญวัดเทพธารทอง

ขอเรียนเชิญทุกท่านเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสร้างรูปเหมือนไฟเบอร์กลาสหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี และสืบสานประเพณีไทยวันสงกรานต์ ทำบุญตักบาตร ขนทรายเข้าวัด ก่อพระเจดีย์ทราย ณ วัดเทพธารทอง ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี

รายละเอียดกำหนดการ

วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๘

ขอเชิญร่วมทำบุญขนทรายเข้าวัด และก่อพระเจดีย์ทราย ที่หน้าพระเจดีย์ใหญ่ (ช่วงเวลาแดดร่มลมตก)

วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๘

ขอเชิญทุกท่านเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสร้างรูปเหมือนไฟเบอร์กลาสหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี

เวลา ๐๗.๓๐ น. พระสงฆ์ออกรับบิณฑบาต

และถวายภัตตาหาร

เวลา ๐๘.๐๐ น. พิธีทักษิณานุปทาน

เวลา ๐๙.๓๐ น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์

เวลา ๑๐.๐๐ น. ทอดผ้าป่า

สามารถร่วมทำบุญทางออนไลน์ ได้ที่..

ธนาคารกรุงไทย

บัญชีวัดเทพธารทอง

เลขที่บัญชี 204-0-54342-2

ทางวัดขออนุโมทนากับทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

 

"กราบเรา กราบที่ไหนก็ได้ แค่คิดถึงก็พอ_เรารู้"

 

คาถาป้องกันภัย

ทิตะทิรา ทันมัณฑะโล กะลิลา กะละลา สะติโส จะถิโท คะหะตะเน (คาถาวันโลกดับ)

อิติสุคโต อรหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง (คาถาหลวงพ่อโอภาสี)

ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุคโตจุติ จิตตะเมตะ นิพพานัง สุคโตจุติ (คาถาพญายมราช)

คาถาป้องกันภัยที่หลวงปู่ใช้สวด มีอยู่ด้วยกัน 3 บท(ให้สวดต่อเนื่องกันไปเลย) ใช้สวดป้องกัน และระงับภัยต่างๆได้ทุกประการ ผู้ใดสวดอยู่เสมอ เทวดาจะคุ้มครอง และจะไม่ตายก่อนอายุไข

พระคาถาใดที่หลวงปู่สาธยายออกมาจากปากของท่าน ก็เหมือนเป็นประกาศิต จะมีอานุภาพในตัวเอง มนต์นั้นจะขลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ตลอดกาล หากท่านเมตตาถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ไว้สวด และอนุญาตให้เผยแผ่ต่อได้แล้ว ผู้ใดสวดก็จะมีอานุภาพเช่นเดียวกัน ขอเพียงก่อนสวดให้ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และหลวปู่พิศดูเป็นที่สุด แล้วจึงสวดเถิดได้ผลมามากแล้ว..

คาถามหาเมตตา มหาลาภ

(ที่หลวงปู่พิศดู มอบไว้ให้ลูกศิษย์สวดกันครับ.. และเป็นหนึ่งในคาถาที่หลวงปู่ใช้อธิษฐานจิตวัตถุมงของท่านด้วย)

นะโม ตัสสะ... (3 จบ)

คาถาเมตตามหาลาภ

พุทโธ อะระหัง สุสุขิโท พุทโธภะคะวาติ พุทโธ นะโมพุทธายะ นะ

มะ เมตตา จะ มหาราชา

อะ เมตตา จะ มหาเสนา

อุ เมตตา จะ มหาชะนา

สัพพะสิเนหา จะปูชิตัง สัพพะสุขัง จะ มหาลาภัง

ราชาโกรธัง วินาสสันติ เสนาโกรธัง วินาสสันติ

ชะนาโกรธัง วินาสสันติ สัพพะโกรธัง วินาสสันติ..

พระคาถาพระฉิมพลี

นะชาลีติ ประสิทธิลาภา ประสันนะจิตตา

สะทาโหนติ ปิยัง มะมะ สัพเพชะนา พหูชะนา

สัพเพชะนา ทิสา สะมาคะตา

กาละโภชะนา วิกาละโภชะนา อาคัจฉันติ ปิยัง มะมะ.

(* พระคาถานี้ถ้าจะออกไปหาลาภที่ไหน ให้ภาวนาไปเถิดจะเกิดลาภผล มีกินมีใช้ไม่ขัดสน หมู่คนทั้งหลายเมตตารักใครเรา ดีนักแล..)

แล้วจบด้วยบทนี้เป็น..(บทเรียกบารมี)

สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิลาโภ ชะโยนิจจัง ระโสนิจจัง

สิทธะมัตถุ สิทธะมัตถุ สิทธะมัตถุ อิทัง ผะลัง เอตัสมิง ระตะนัตตะยัสมิง

สัมปะสาทะนะเจตะโส

ข้อมูลคุณสิรภพ

 

ว่าด้วยเรื่องน้ำมนต์..

น้ำมนต์ขององค์หลวงปู่นั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มาก และมีผู้มาขอเมตตาให้ท่านทำให้ไม่ได้ขาด น้ำมนต์ของท่านได้ถูกนำไปประกอบพิธีสำคัญๆหลายพิธีมาแล้ว แต่ว่าการทำน้ำมนต์ของหลวงปู่ท่าน ท่านไม่ได้ทำเหมือนกับที่อื่นๆเขา คือแทบจะไม่เคยมีการใช้เทียนหยด หรือโยงสายสิญจน์ใดๆ เพียงแต่ผู้ต้องการให้ท่านทำน้ำมนต์ ก็เตรียมน้ำมาเท่านั้นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดยี่ห้อต่างๆ เอามาทีเป็นแพ็คๆ เอามาให้ท่านอธิษฐาน ท่านก็จะสวดมนต์ให้บ้าง เท่าที่จำได้บทที่หลวงปู่ท่านใช้อธิษฐานน้ำมนต์ มีด้วยกันหลายบท เช่น สักกัตวาบ้าง มหาเมตตาบ้าง คาถาท่านพ่อลีบ้าง คาถาวันโลกดับบ้าง ...ฯลฯ ตามแต่ท่านจะหยิบยกมาสวดให้เพื่อเป็นกำลังใจ หรือถ้าผู้ที่ไม่ได้เตรียมน้ำมาเอง น้ำดื่มที่บรรจุขวดที่มีญาติโยมถวายมา ท่านก็แจกต่อไปบ้างก็มี บางครั้งแจกออกไปโดยที่ไม่ได้สวดมนต์ก็มี ก็เพราะว่าท่านเสกของท่านไว้เรียบร้อยอยู่แล้ว หลวงปู่ท่านเคยบอก ของที่อยู่ในกุฏิของท่านศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดและเป็นของเสกหมดทุกอย่าง


น้ำมนต์ที่องค์หลวงปู่อธิษฐานนั้น ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า ใสเป็นประกายเพชรและมีรัศมีพวยพุ่งออกมาสว่างมากๆ.. คนที่หน้าตาหมองคล้ำเนื่องจากถูกกระทำ หรือดวงตก ฯลฯ พอโดนน้ำมนต์ขององค์หลวงปู่เข้าไป ในหน้าที่หมองคล้ำกลับดูสว่างสดใสขึ้นทันที

บางคนหลวงปู่เมตตาให้เอาน้ำมนต์ไปใช้ล้างหน้า ล้างไปท่านก็ให้สวดคาถาไปด้วยว่า..

" พระพุทธังล้างหน้า พระธรรมมังล้างทุกข์ พระสงฆ์เพิ่มสุขสวัสดีมีชัย

อิติปิโสภะคะวา ในโลกหล้าไม่มีใครสู้ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ได้.."

นี้เป็นคาถาล้างหน้าขององค์หลวงปู่ ที่ท่านมอบให้ลูกศิษย์ของท่านให้สวดล้างหน้าตอนเช้าๆ เป็นเมตตา สง่าราศรีดีนักแล..

(Cr. sira pop)

 

เหรียญมหากฐินปี2565 รุ่นแรก เนื้อเงินลงยาแดง(หมายเลข15) สร้าง 999 เหรียญ หลวงปู่มหาศิลา วัดพระธาตุหมื่นหิน จังหวัดกาฬสินธุ์ ปลุกเสกพิธีใหญ่ บูชา 8,999 บาท พร้อมส่งในประเทศ

 

นกสาริกาเนื้อเงิน จัดสร้างทั้งหมด 50 ตัว เลี่ยมกรอบเงินพร้อมแขวน บูชา 1,150 บาท พร้อมส่งในประเทศ





เสก 8 วาระ

จัดสร้างและอธิษฐานจิตเพื่อเป็นที่ระลึกในกองบุญ ปี 2561(ปี้หนาน)

ประกอบพิธีบวงสรวง เจ้าปู่ศรีสุทโธ เจ้าย่าศรีปทุมมา และเหล่าพญานาคราชทั้งปวง ณ ป่าคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี*****

ได้ผ่านการอธิษฐานจิต โดยพ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระเกจิอาจารย์

และเข้าพิธีพุทธาภิเษก หลายวาระ

วาระที่ 1. จุลกฐิน วัดป่าวุฑฒาราม จ.หนองบัวลำภู

หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ พร้อมพระสงฆ์ 90 รูป เจริญพระพุทธมนต์ อธิษฐานจิต

วาระที่ 2. พิธีเททองหล่อพระมหาสังกัจจายนะ หลวงปู่หา สุภโร ณ วัดแม่แพะ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ โดยมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ และพระมหาเถระเจริญพระพุทธมนต์ดังนี้

*ครูบาดวงจันทร์ วัดแม่สาบเหนือ จ.เชียงใหม่

*พระมหาวีระพล วัดหนองพันเงิน จ.เชียงใหม่

*ครูบาฐากูร วัดแม่แพะ จ.เชียงใหม่

*พร้อมพระสงฆ์ 5 รูปเจริญพระพุทธมนต์

วาระที่ 3. หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ วัดป่าวุฑฒาราม

จ.หนองบัวลำภู

วาระที่ 4. หลวงปู่บุญหลาย อาภรโณ วัดนาจอมเทียน จ.ชลบุรี

วาระที่ 5. หลวงปู่ฮก วัดราษฎร์เรืองสุข จ.ชลบุรี

วาระที่ 6. พระญาณวิสาลเถร (หลวงปู่หา สุภโร) วัดสักกะวัน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์

วาระที่ 7. พระเทพวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล) สำนักสงฆ์เทพนิมิตสุดเขตแดนสยาม อ.เชียงของ จ.เชียงราย

วาระที่ 8. หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ จ.เชียงใหม่

 

ชานหมาก ท่านพระครูกิตติวัชราภรณ์ (หลวงพ่อน้อย) วัดโพธิ์ทัยมณี จ.เพชรบุรี บูชา 250 บาท พร้อมส่งในประเทศ





ท่านเริ่มแจกชานหมากเมื่อไรครับ ?

.....ตอนแรกเคี้ยวแล้วก็กลืนหมด บางส่วนก็คายทิ้งบ้าง ครั้งหนึ่งลูกศิษย์นิมนต์ไปเปิดบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านบางเขน หลังจากทำพิธีเสร็จ มันก็ขอของจากฉันไว้ติดตัวเพื่อความเป็นสิริมงคล ตอนนั้นฉัน ไม่มีอะไร จึงคายชานหมากพร้อมกับบอกว่า กูไม่มีอะไรให้มึงหรอก กูเป็นพระ ไม่พกพระอยู่แล้ว กูมีชานหมากให้มึงคำหนึ่ง เก็บบูชาไว้ดีๆ ถ้าชานหมากนี้กลายเป็นแก้ว มึงไม่ต้องมาเหยียบวัดกู แล้วมันก็ไม่มาเหยียบวัดจริงๆ

.....พอแจกคำแรกคนก็ขอเรื่อยมา บางวันต้องฉันหมากเป็นร้อยๆ คำ ชนิดที่เรียกว่าฉันหมากมากกว่า ฉันข้าวเลยทีเดียว หมากคำใดฉันแล้วมีรสขมก็จะกลืน คำไหนอร่อยมีรสหวานก็จะคายเก็บใส่ห่อ ไว้แจกจ่ายลูกศิษย์ที่นับถือกัน

ชานหมากของหลวงพ่อดีอย่างไรครับ ?

.....คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเมื่อนำไปบูชาจะช่วยให้ค้าขายดีขึ้น ขณะเดียวกันระหว่างฉันหมาก ฉันจะกำ หนดจิตและบริกรรมคาถาลงไปด้วย แต่ฉันก็ไม่เคยบอกว่าชานหมากของฉันดีอย่างไร เพียงแต่ ให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเท่านั้น ต้องปฏิบัติดี สวดมนต์ไหว้พระ หมั่นทำบุญจึงจะได้ดีด้วย แต่ถ้าหาก ใครทำตรงกันข้ามชานหมากจะหายไปเอง และปาฏิหาริย์ก็จะไม่เกิดขึ้น บางคนมาของชานหมาก จากฉันไป ๔-๕ ครั้ง แต่ชีวิตก็ไม่ดีขึ้นที่เป็นเช่นนี้ เพราะไม่ยึดตามคำสอนของฉัน

วันอาทิตย์ ที่ 2 พฤษภาคม 2564
(ข้อมูลปี้หนาน)

 

ลูกสะกดไผ่ตัน บูชา 555 บาท พร้อมส่งในประเทศไทย





ลูกสะกดไผ่ตัน บรรจุมวลสาร ตะกรุดฟ้าฟีก จัดสร้างจากไม่ไผ่ตัน สร้างได้เพียง 38 ลูก เท่านั้น ไผ่ตันนั้นเป็นของวิเศษจัดอยู่ในประเภทของทนสิทธิ์ที่คนโบราณกล่าวถึงมากอย่างหนึ่ง ต้นไผ่นั้นถือเป็นไม้มงคล ที่ให้คุณประโยชน์ต่อมนุษย์ และสัตว์อย่างมากมายเป็นของที่มีเทพารักษ์ดูแลรักษาอยู่ เป็นของวิเศษที่นานๆถึงจะปรากฏขึ้นให้พบเห็นกัน ส่วนใหญ่แล้วจะพบโดยบังเอิญ เช่น มีการตัดต้นไผ่เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ในรูปแบบต่างๆ แล้วเกิดเจอไปพบลำต้นที่ตันไม่เป็นรูกลวงอย่างปกติทั่วไป อันนั้นแหละ ที่เขาเรียกกันว่า “ ไผ่ตัน” อานุภาพของไผ่ตันนั้นท่านว่า ดีเยี่ยมทางมหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด เมตตา โชคลาภ ซึ่ง ตั้งแต่ สมัยโบราณมาแล้ว คุณลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของไผ่ตัน คนโบราณเชื่อว่า หากนำไผ่ตันมาทำไม้เท้าเวลาเดินเข้าป่าแล้ว ไผ่ตันจะสามารถกันสัตว์มีพิษไม่ให้เข้ามาใกล้ตัวเราได้ หรือว่าสัตว์มีพิษต่างหลีกทางให้นั้นเอง ผู้เรืองอาคมทั้งหลายจะนำมาจัดสร้างเป็นเครื่องรางในรูปแบบต่างๆ ซึ่งบูรพาจารย์ท่านมั่นใจในอิทธิคุณเป็นอย่างมากเลยที เดียว วิธีการหาไผ่ตัน คนโบราณมักจะสังเกตว่าหากเกิดไฟป่า หรือจุดไฟเผาที่นาขึ้นเมื่อไหร่ แล้วก่อไผ่ ก่อไหนไม่ไหม้ไฟ หรือไหม้ไฟไม่หมด แปลว่าในก่อไฟนั้นจะต้องมีไผ่ตันอยู่ หรืออีกวิธีหนึ่งคือ ให้สังเกตในคืนที่มีแสงจันทร์ส่อง หากก่อไผ่ก่อไหนมีแสงสีขาวเป็นเส้นๆ ยาวๆเรืองแสงออกมา แปลว่าในก่อไผ่นั้น มีไผ่ตันอยู่ เนื่องจากคนโบราณคนเก่าคนแก่ท่านเชื่อกันว่ามีเทพ เทวาคอยปกปักรักษาคุ้มครองป่านั้นอยู่ ส่วนมากก็จะนำมาสร้างวัตถุมงคลจำพวกตะกรุด ลูกสะกด วัวธนู
วาระที่ 1 วันอาทิตย์ ที่ 6 สิงหาคม 2566 ตรงกับแรม 5 ค่ำ เดือน 10 เหนือ (สิทธิโยค) พระครูสุเมธธรรมวัฒน์ (ครูบากฤษดา สุเมโธ) วัดสันพระเจ้าแดง อ.บ้านธิ จ.ลำพูน อธิษฐานจิต

วาระที่ 2 วันพุธ ที่ 30 สิงหาคม 2566 ตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เหนือ (เทวีฤกษ์ อธิบดี) พระครูสุเมธธรรมวัฒน์ (ครูบากฤษดา สุเมโธ) วัดสันพระเจ้าแดง อ.บ้านธิ จ.ลำพูน อธิษฐานจิต

วาระที่ 3 วันพุธ ที่ 30 สิงหาคม 2566 ตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เหนือ (เทวีฤกษ์ อธิบดี) พระครูโสภณรัตนสาร (หลวงปู่ครูบาอูปแก้ว) วัดป่าลาน อ.บ้านธิ จ.ลำพูน เมตตาอธิษฐานจิต

วาระที่ 4 วันอาทิตย์ ที่ 3 กันยายน 2566 ตรงกับ แรม 3 ค่ำ เดือน 11 เหนือ (ทลิทโทฤกษ์) หลวงปู่ครูบาดวงจันทร์ เขมรโต วัดมะกับตอง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ อธิษฐานจิต

วาระที่ 5 วันจันทร์ ที่ 18 กันยายน 2566 ตรงกับ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 12 เหนือ (พิชฌฆาต์ฤกษ์ อุตมโยค) พระราชวชิรวุฑฒาจารย์ (หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ) วัดป่าวุฑฒาราม จ.หนองบัวลำภู อธิษฐานจิต

วาระที่ 6 วันเสาร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ตรงกับ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน ยี่ เหนือ (มหัทโนฤกษ์) วันธงชัย พิธีเทวาภิเษก มหาพุทธาภิเษก เททองหล่อพระเปิดโลก พระเจ้าฝนแสนห่า พระสิงห์ ณ วัดท่าตุ้ม อ.ป่าซาง จ.ลำพูน โดยได้กราบอาราธนานิมนต์ พระภาวนาจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิต ดังนี้

1.พระเทพรัตนนายก เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดลำพูน

2.พระราชวชิรวุฑฒาจารย์ วิ. (ทองสุข ฐิตปญฺโญ) วัดป่าวุฑฒาราม จังหวัดหนองบัวลําภู

3.พระครูโสภณรัตนสาร หลวงปู่ครูบาอูปแก้ว วัดป่าลาน จ.ลำพูน

4.หลวงพ่อพระมหาสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ จ.ลำพูน

5.หลวงปู่ครูบาดวงจันทร์ วัดมะกับตอง จ.เชียงใหม่

6.พระมหาวีระพล วัดหนองพันเงิน จ.เชียงใหม่

7.พระครูสุเมธธรรมวัฒน์ ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน

8.พระครูบาฐากูร วัดแม่แพะ จ.เชียงใหม่

 

มีอยู่ครั้งหนึ่งครับประมาณต้นปี 2548 ผมเคยเอารูปหล่อหลวงปู่ทวดของหลวงปู่หมุน ที่สร้างจากชนวนพระกริ่งเจริญลาภให้หลวงปู่พิศดูเสกเพิ่มให้ หลวงปู่ยังไม่ทันได้เสก #พระองค์นี้ท่านดังมากนะเนี่ย.."
ซึ่งในตอนนั้นชื่อเสียงของหลวงปู่หมุนก็ยังไม่ได้โด่งดังเช่นทุกวันนี้ ซึ่งที่วัดของหลวงปู่พิศดูก็ไม่มีโทรทัศน์ วิทยุ หรือหนังสือพระเครื่องใดๆที่จะทำให้รู้จักหลวงปู่หมุนมาก่อนเลย และอีกไม่กี่ปีต่อมา ชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงปู่หมุนก็โด่งดังอย่างมาก อย่างที่หลวงปู่พิศดูกล่าวไว้จริงๆ
คำกล่าวของหลวงปู่พิศดูที่ว่า พระองค์นี้ท่านดังมากนะเนี่ย.. สำหรับผมมั่นใจว่าญาณของหลวงปู่พิศดูท่านคงสื่ออะไรบางอย่างได้กับรูปของหลวงปู่หมุน โดยเฉพาะเรื่องของอนาคตังสญาณ(ญาณรู้อนาคต) เพราะหลวงปู่พิศดูท่านไวและรู้ละเอียดลึกมาก จากการที่ผมและลูกศิษย์หลายๆคนได้เคยสัมผัสมา..
พอดีทราบมาว่าสมาชิกในกลุ่มนี้ เป็นลูกศิษย์สายหลวงปู่หมุนกันมาก จึงนำเรื่องนี้มาลงให้อ่านกันครับ..
cr ทุเรียนทอด

 

น้อมรำลึกวันคล้ายวันมรณภาพครบ๑๔ปี
๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๑๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๘
หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี
น้อมกราบหลวงปู่พิศดูด้วยเศียรเกล้า

 

หลวงปู่เคยสอนว่า
" บุญกุศลถ้าทำให้ต่อเนื่องได้จะดี จะทำมากทำน้อยก็ได้ เมื่อมีโอกาสก็ให้ทำไปตามกำลัง.."
(เมื่อทำบุญได้อย่างต่อเนื่อง อานิสงส์ก็ย่อมส่งถึงเราอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ผู้นั้นจะเป็นผู้มีแต่ความโชคดีอยู่เสมอ)
" ถ้าไม่มีเงิน หรือข้าวของที่จะทำบุญ ก็ให้ สาธุๆๆ อนุโมทามะ กับคนที่เขาทำ ก็ได้บุญเหมือนกัน.."
ข้อมูลคุณสิรภพ

 

#วิทยาคม...
ถ้ากล่าวถึงพระอัจฉริยภาพของหลวงปู่พิศดูในเรื่องพระเวทวิทยาคม ท่านเล่าว่า เคยศึกษามามาก ตั้งแต่วัยเด็กเป็นต้นมาท่านเชี่ยวชาญที่สุดคืออักขระภาษาขอมเขมร และขอมไทย แรกเริ่มที่ท่านเพียรศึกษาก็เพื่อให้รู้ และเข้าใจในอำนาจเหล่านั้น เพื่อจะได้เอาตัวรอด และช่วยเหลือผู้คนได้ ท่านเคยกล่าวไว้ว่า..
" ไสยศาสตร์ก็มีประโยชน์ของไสยศาสตร์ ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย.. อยู่ที่เราจะเลือกเอามาใช้ประโยชน์ต่างหาก.."
ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ได้ศึกษาเรียนรู้ทั้งฝ่ายขาว และฝ่ายดำ รู้รุก รู้รับ รู้เขา รู้เรา รู้หน้ารู้หลัง ระวังทัน
นอกจากนี้ท่านยังเคยศึกษาในเรื่องการดูฤกษ์ยาม โหราศาสตร์ การจับยามสามตา ยามอุบากอง ทำนายทายทักดวงชะตาราศรีต่างๆ การดูลายมือ โหงวเฮ้ง และศาสตร์ทางด้านทิศต่างๆ ฯลฯ
ด้วยองค์หลวงปู่เป็นพระที่มีปัญญามากและมีความจำเป็นเลิศ เป็นอันสรุปได้ว่าหลวงปู่พิศดูท่านเก่งของท่านรอบด้านอย่างแท้จริง จะหาผู้มีความรอบรู้เสมอเหมือนกับท่านยาก หากใครคิดจะมาหลอก หรือลองภูมิท่าน ไม่ได้กินท่านง่ายๆ นี่ว่ากันตามศาสตร์ความรู้ของวิชาทางโลกียะเท่านั้น..
แต่หลังจากหลวงปู่ท่านได้ศึกษาปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานอย่างจริงจังจากท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดป่าคลองกุ้ง และได้เดินทางเข้าป่าลึกจาริกธุดงค์ ในท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรเพื่อฝึกฝนพัฒนาจิตนี้ ท่านก็เหมือนกับได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง ราวกับเป็นสิ่งที่ใจท่านค้นหามานาน และนี่เป็นจุดพลิกผันชีวิต เหมือนกับได้ปลดล็อคประตูแห่งดวงจิต ทำให้ท่านได้พบอะไรที่แปลก พิสดาร และมีโอกาสได้พบวิชชาความรู้ใหม่ๆ โดยได้ศึกษาวิชชาแปลกๆ จากครูบาอาจารย์ลึกลับในป่าอีกหลายองค์ทุกองค์ล้วนเป็นพระพิเศษที่มีจิตเหนือโลก ทั้งในการศึกษาตัวต่อตัว และในทางฌานสมาธิ บางวิชชาที่ได้มาก็ไม่มีในตำราการสอนในโลกมนุษย์ หลวงปู่ท่านมักอยู่ป่าเป็นหลักกว่าค่อนชีวิต ท่านจึงเป็นพระที่มีจิตมหัศจรรย์ เจนจบในกรรมฐานทั้ง 40 กอง เชี่ยวชาญในกสิณ สามารถแสดงฤทธิ์อภิญญา สามารถคุมธาตุได้อย่างเด็ดขาดมากอีกองค์หนึ่ง.. วัดเทพธารทอง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี - หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี

 

https://www.facebook.com/groups/Luangbhoopitsadoo/posts/1013972032136060/

#ญาณทัศนะอันกว้างไกล
เมื่อปลายปี 2552 หลวงปู่พิศดูได้เคยบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าให้ลูกศิษย์ได้ฟังกันว่า " เดี๋ยวอีกไม่นานนี้จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากในต่างประเทศ ในเมืองใหญ่นั้นตึกจะถล่ม คนจะตายมากเป็นแสนๆคน.."
ลูกศิษย์ที่อยู่กับหลวงปู่ในขณะนั้นได้เรียนถามท่านว่า เหตุเกิดจากอะไร.. ท่านตอบว่า " เกิดจากกรรม.. และให้คอยฟังข่าว.." แล้วท่านก็หลับตาลง ปลงธรรมสังเวช
ผ่านไปไม่นานวัน จนกระทั่งเข้าสู่เดือนมกราคม พ.ศ. 2553 ก็เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ซึ่งมีความรุนแรง 7.0 ริกเตอร์ โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศเฮติ ไปราว 25 กิโลเมตร แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16:53 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553 หรือตรงกับเวลา 04.53 น. ในเช้าวันพุธที่ 13 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย
จนถึงวันที่ 24 มกราคม ได้บันทึกว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อก ซึ่งวัดขนาดความรุนแรงได้กว่า 4.5 ริกเตอร์หรือมากกว่านั้น เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ได้มีการประมาณว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวมากกว่า 3 ล้านคน รัฐบาลเฮติรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 230,000 คน ประมาณการผู้ได้รับบาดเจ็บ 300,000 คน และอีก 1,000,000 ไม่มีที่อยู่อาศัย นอกจากนี้รัฐบาลยังประมาณว่ามีบ้านเรือน 250,000 หลัง และอาคารพาณิชย์อีกกว่า 30,000 หลัง พังทลายหรือเสียหายอย่างหนัก จนเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก
การพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าขององค์หลวงปู่พิศดูนั้นท่านมิได้แสดงให้เห็นบ่อยนักนอกจากจะมีความจำเป็น แต่ในบรรดาลูกศิษย์แล้วไม่มีข้อสงสัย และการแสดงฤทธิ์ทางใจของท่านล้วนเป็นเหตุให้นำมาซึ่งความเคารพยำเกรง และสร้างศรัทธาให้กับบรรดาลูกศิษย์ที่ประสบพบเห็นมากยิ่งๆขึ้นไป และทำให้ทราบอย่างแน่ชัดว่า ญาณทัศนะขององค์หลวงปู่ท่านไม่ได้จะทราบแต่เพียงเรื่องใกล้ตัว หรือเรื่องที่เกิดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ข่ายญาณของท่านยังสามารถทราบกว้างไกลออกไปได้ทั่วโลก หรือไม่มีประมาณอีกด้วย..— กับ Suwat Wat ใน วัดเทพธารทอง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี - หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี

 

" เราน้อมเอา เนรัญชราที่อินเดีย มาซ้อนไว้ที่วัดเทพฯ.. ลำธารที่นี่จึงเป็นลำธารศักดิ์สิทธิ์.."
ถ้าหากหลวงปู่พิศดูท่านจะพูดถึงลำธารที่ไหลผ่านข้างวัดเทพธารทอง ท่านมักจะเรียกว่า "เนรัญชรา" ท่านจะไม่เรียกคลอง หรือลำธารเหมือนที่อื่นๆ เนื่องจากหลวงปู่ท่านได้อธิษฐานจิต น้อมเอากระแสมงคลและความศักดิ์สิทธิ์แห่งแม่น้ำเนรัญชรา ประเทศอินเดีย อันเป็นแม่น้ำสำคัญในพุทธประวัติ มาทาบทับ ซ้อนเอาไว้ที่ลำธารแห่งนี้อย่างบริบูรณ์
ไม่ว่าจะเป็นสายน้ำ กรวด หิน ดิน ทราย ในลำธาร ล้วนแต่มีความศักดิ์สิทธิ์ หากผู้ใดได้กิน อาบ หรือแช่ น้ำในลำธารสายนี้ สิริมงคลจะบังเกิดแก่ผู้นั้น ทั้งยังสามารถชำระล้างสิ่งที่มัวหมองหรือพลังด้านลบที่เกาะติดมากับตัวให้หลุดออกไปได้ หรือหากได้ตักน้ำที่นี่ไปทำน้ำพระพุทธมนต์ ก็จะยิ่งเพิ่มพูนประสิทธิภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเปี่ยมล้น..
(ข้อมูลคุณทุเรียนทอด)