**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Lo_olLo, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +11,911
    thumbnail_20240909_183055.jpg
    ....วันนี้ 10/9/2567 ทางคณะชมรมพุทธธรรมเพื่อการเผยแพร่ ได้นำปัจจัยจากที่ท่านสมาชิกร่วมบุญกับกริ่ง "อวโลกิเตศวร" ส่วนหนึ่งจำนวน 5000 บาท น้อมถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด(ในซองดังในภาพ) เพื่อสมทบร่วมสร้างตึกที่พักสงฆ์ 73 ปีหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด ณ วัดศรีสุทธาวาส ครับ

    ....และในการนี้ทางคณะ "ได้เขียนจดหมายกราบเรียน(อย่างไม่เป็นทางการ)" ถวายหลวงพ่อท่านเจ้าคุณ(ในภาพคือท่านกำลังอ่านจดหมายกราบเรียน เพราะท่านสายตาสั้นมากๆครับเลยต้องใช้หนังสือลองอ่านใกล้ๆ) เพื่อกราบขอเมตตา นำพระกริ่งอวโลกิเตศวรทั้งหมด เ
    ข้าพิธีลงสวดปาฏิโมกข์ ณ พระอุโบสถในวันที่ 11 กันยายน 2567(มีครูบาอาจารย์ร่วมพิธีจำนวนมาก) และในการนี้กราบขอเมตตาหลวงพ่ออธิษฐานจิตพระกริ่งทั้งหมดในโอกาสนี้ด้วยครับ

    ....หลังจากท่านอ่านจดหมายเสร็จ
    "ท่านก็เมตตาให้นำพระทั้งหมดเข้าไปไว้ในกุฏิท่าน" และท่านปรารภว่า "เดียวคืนนี้หลวงพ่ออธิษฐานจิตให้ก่อน พรุ่งนี้จะให้พระนำไปไว้ในพระอุโบสถให้" เพื่อรอการลงสวดปาฏิโมกข์ของคณะสงฆ์วันที่ 11 นี้...

    ****ตอนนี้พระทั้งหมดรอผ่านพิธีต่างๆก่อนนะครับ และเดียว "อาจารย์บุญเลิศ" ท่านจะนำเข้าอธิษฐานจิตตามพิธีอีกครั้ง ท่านอาจารย์บุญเลิศบอกว่า "พระกริ่งอวโลกิเตศวร" ใครดวงตกให้นำไปทำน้ำมนต์ล้างหน้า
    "จะเสริมราศีได้ดีนักแล".....

    thumbnail_20240906_165439-jpg.jpg
     
  2. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +11,911
    thumbnail_20240918_140556.jpg
    .....วัน 18/9/2567 ทางคณะผู้จัดสร้าง(ชมรมพุทธธรรมเพื่อการเผยแพร่) ได้เดินทางเข้าพบ อ.บุญเลิศ เชื่อบุญมี อาจารย์ฆราวาสสายวัดประดู่ทรงธรรม ท่านได้กรุณารับทำพิธีไหว้ครูบูชาพระขอบารมีพระพุทธเจ้าท่านแผ่พุทธฉัพพรรณรังสีอธิษฐานจิตพระกริ่งอวโลกิเตศวรชุดนี้ ต่อจากหลวงพ่อท่านเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งท่านได้ให้คณะผู้จัดสร้างนำพระทั้งหมดไปเรียงไว้ในห้องพระสำนักงานของท่าน

    ....ทางคณะก็ได้นำพระไปเรียง(ตามในภาพ) ใต้ฐานไม้ข้างพระประธานตั้งแต่วันที่ 14/9/2567(หลังจากรับมาจากหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดแล้ว) แล้วท่านก็บอกว่าแล้วเดียวค่อยมาเอาหลังวันที่ 16/9/2567 เมื่อถึงวันที่ 16 ทางคณะก็ไปขอพระกริ่งอวโลกิเตศวรจากท่านคืนตามนัด แต่ทว่าท่านอาจารย์บุญเลิศบอกทางคณะครับว่า "อย่าเพิ่งเอาพระกลับไปนะ ผมยังทำไม่เสร็จเลย ดูเหมือนว่าพลังงานในพระท่านทำไมดูเหมือนไม่เต็มสักที จับตรงไหนก็เหมือนจะเต็มแต่พอเพ่งจิตพิจารณาดูดีดีพลังงานนั้นก็สลายไป ไม่คงที่เลย เอาไว้ก่อนนะ เอาไว้ก่อน" ทางคณะจึงจำเป็นที่จะต้องฝากไว้อีกในวันนั้น

    ...จนถึงวันนี้ครับ18/9/2567 ทางคณะได้รับโทรศัพย์จากท่าน อ.บุญเลิศ ให้มานำพระกลับไปได้ ทางคณะจึงรีบเดินทางไปหาท่าน พอไปถึงสำนักงานที่บ้านพักของท่านที่ จ.เพชรบูรณ์ ท่านก็บอกว่า "จำนวนขาดไป 2 องค์นะถวายพระครูอนุวัฒน์ท่านไป" ทางคณะจึงเรียนสอบถามท่านครับว่า "ท่านพระครูอนุวัฒน์เป็นใคร" อ.บุญเลิศท่านได้กรุณาเล่าว่า "พระครูอนุวัฒน์ก็เป็นเพื่อนท่านนี้แหละ ที่ไปบวช(ปัจจุบันอายุ74ปี) หลังจากท่านบวชแล้วปี2518 ได้ไปอยู่กับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีถึง 5 ปีก่อนที่ท่านจะออกมาทำสถานธรรมนาโพธิ์ที่จังหวัดนครพนม(ปี2522)

    ....วันนั้น(วันที่17 ก.ย.2567) ท่านมาเยี่ยมผม(เยี่ยมอ.บุญเลิศ) ที่นี้แหละ แต่ท่านไปสะดุดตาพระกริ่งอวโลกิเตศวรที่วางเรียงอยู่ฐานพระประธาน พระครูอนุวัฒน์ท่านจึงถามอาจารย์บุญเลิศว่าพระของใครท่านทำหรือ อ.บุญเลิศบอกไปว่าของชมรมเขามาฝากทำพิธี ท่านพระครูอนุวัฒน์ ท่านสนใจมากมองแล้วมองอีกจับแล้วจับอีก อ.บุญเลิศท่านจึงถามท่านพระครูว่า ทำพิธีสองหนแล้วดูเหมือนพลังงานไม่ลงเต็มสะที มันเป็นยังงัยนะ.. "

    ....ท่านพระครูอนุวัฒน์ จับพระกริ่งขึ้นมากำไว้ในมือ 1 องค์แล้วพิจารณาอยู่สักพัก แล้วบอกอาจารย์บุญเลิศว่า "โอยนี้ใช้ได้แล้วนะ เสกพระกริ่งอวโลกิเตศวรนี้ไม่เหมือนเสกพระอื่นๆนะ...."

    img_2342_resize.jpg
    ....ท่านอาจารย์บุญเลิศจึงสงใสแล้วถามพระครูท่านไป..."ยังงัยนะ(อาจารย์บุญเลิศถาม) ท่านพระครูจึงกรุณาอธิบายให้อาจารย์บุญเลิศฟังว่า...เนื้อพระกริ่งนี้ทำจากสำริดสำเร็จแล้วหล่ออะไรก็ขลังไปหมด(แม้จะไม่เสก) แต่พอขึ้นเป็นรูปพระอวโลกิเตศวรนี้ พลังงานจะเป็นแบบหัวใจพระสูตรปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร(พระสูตรว่าด้วยปัญญาอันเป็นหัวใจพาไปถึงฝั่งพระนิพพาน) เพราะเป็นพระสูตรหัวใจสำคัญของพุทธมหาญาณ พลังงานบทนี้มีหลักการคือ ทุกอย่างมีอยู่ แต่ไม่มีตัวตนเป็นของที่ไม่แน่นอน(คล้ายๆหลักการอนัตตาของพุทธเถรวาท)" ฉะนั้นเวลาพระท่านสงเคราะห์(หมายถึงพระท่านแผ่พลังงานบารมีลงมายังวัตถุมงคล) ท่านก็แผ่มาตามรูปลักษณ์ของวัตถุมงคลนั้นๆ อย่างพลังงานพุทธคุณต่างๆที่เราเห็น ไม่ว่าจะเป็นทางเมตตา ทางโภคทรัพย์ หรือเป็นแล้วสารพักนึก สุดท้ายของเหล่านี้ไม่เที่ยงตั้งอยู่ชัวคราว(อนิจจัง) แล้วเดียวก็หายไปจับต้องอะไรไม่ได้(สูญญตา,อนัตตา) พลังงานสูญญตานี้แหละ "อวิชชาจะมองไม่เห็นละ ใครปล่อยคุณปล่อยของมานี้ตีกลับหมดเพราะมองไม่เห็นงัยพลังงานท่านบังไว้ นี้ล้างอาถรรพ์ได้ด้วยนะที่ไหนร้อนๆ ทำน้ำมนดับพลังงานร้อนต่างๆได้ดี (นัยยะคือสถานที่นั้นมีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีแต่ปัญหาบ่อยๆ ทำอะไรก็ไม่เจริญขึ้นหรือต้องธรณีสาร นำพระกริ่งอาราธนาทำน้ำมนต์รดราด พลังงานร้อนจะค่อยๆสลายไป แต่ต้องทำประจำโดยเฉพาะการสวดมนต์)"

    ....นี้ท่านพระครูอธิบายอุปเทห์ไว้ดังนี้ ท่านอาจารย์บุญเลิศจึงเข้าใจเพราะท่านไม่เคยทำพลังงานพระแนวนี้มาก่อน(ที่มีความลึกซึ้งซับซ้อนแบบมหาญาณ) ก่อนกลับท่านพระครูจึงขอพระอาจารย์บุญเลิศไป 2 องค์พร้อมทั้งมอบเงินเข้ากองทุน 2000 บาท จึงกราบขออนุโมทนากับท่านพระครูอนุวัฒน์ไว้ ณ ที่นี้ครับ

    หลังจากได้รับพระทั้งหมดแล้วต่อไปทางคณะจะทำการแบ่งยอดจอง และจัดส่งให้ท่านสมาชิกต่อไปนะครับ ขอขอบคุณและอนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ

    thumbnail_20240918_140549.jpg

    thumbnail_20240918_140623.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2024 at 11:00

แชร์หน้านี้

Loading...