เว็บพลังจิต เกี่ยวกับผู้ให้ทำลายพระที่มีสำนักอยู่ทางเหนือ เป็นประเด็นมานาน ...

ได้อ่านแล้วนะครับ ^^

 

จิงไหมอยากทราบอ่ะ

ที่ท่านจานเกษมเอาพระพุทธรูปมามายมาเผา ทุบ ทำลาย

แล้วประกาศว่า เราไมยึดติด เราปล่อยวาง

จิงหรอ เผาแล้วปล่อยวางได้หรือ

ก็ถ้าปล่อยวาง เค้าก้ไมสนใจสิ ปล่อยไปตามสภาพ

ตาามสภาวะธรรมชาติ

แดดจะออก ฝนจะตก น้ำจะท่วม

เค้าก้ช่างมัน ไม่สนใจ ปล่อยวาง

อะไรก้ช่าง แบบนี้ไม่ไช่หรอ

นี่ปล่อยวางแบบไหนกันอ่ะ ไม่เข้า เผากัน เผากันเข้าไป

งง งงอ่ะ

 

ข้อความนี้ผมอ่านแล้วนะครับ^^
สงสัยอะไรตามนี้เลยครับ

 

ฮาสุดๆการกระทำกับคำพูดที่หลุดออกมา
สะท้อนได้เลยว่าสันดารของแต่ละท่านเป็นยังไง
ผมอยากถามอะไรหน่อยนะ ถ้าประเด็นพระเกษมมี10ประเด็น
แต่ผมเห็นด้วยกับพระเกษมประเด็นเดียวที่ไม่ใช่ทำลายพระพุทธรูป
พวกคุณจะรวมผมเข้าเป็นพวกพระเกษมหรือไม่
แล้วผมจะผิดไหมที่เห็นด้วยกับสิ่งดีๆ
แต่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งไม่ดีของพระเกษม

 

ท่านหายไปไหนมาครับ ไม่เห็นนานเลย

 

ผมว่าไม่ต้องมีการตั้งกระทู้เกี่ยวกับพระองค์นี้เลยดีกว่าไหมครับ
ใครชอบไม่ชอบก็เก็บไว้ในใจ ไม่ต้องตั้งกระทู้ในบอร์ดนี้จะได้ไม่มีปัญหา

 

เรื่องมันจบแล้วละครับท่าน
ผมขอเป็นฝ่ายหยุดดีกว่า
เพราะถ้าผมยังมั่วยุ่งในเรื่องนี้
ผมรู้ตัวเลยว่า สมาธิ ผมไปไม่ถึงไหนแน่

 

ดีแล้วครับ ไม่ว่าใครจะเป็นอาจารย์ของแต่ละท่าน

ก็ล้วนแต่ไม่อยากให้พวกคุณมาทำอะไรยึดติดแบบนี้หรอก

ใครจะด่าจะว่าอะไร ใครจะทำยังไง ก็ปล่อยไป แนวทางแต่ละคนมี

พูดแลกเปลี่ยนทำแล้วไม่รู้เรื่อง ก็ควรปล่อยจริงไหม

 

๑๑๔] ๑. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่าง
สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย
ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทายอวัยวะ ทายนิมิต ทายอุปบาต ทำนายฝัน ทำนายลักษณะ
ทำนายหนูกัดผ้า ทำพิธีบูชาไฟ ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ทำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ ทำพิธีซัด
รำบูชาไฟ ทำพิธีซัดข้าวสารบูชาไฟ ทำพิธีเติมเนยบูชาไฟ ทำพิธีเติมน้ำมันบูชาไฟ ทำพิธีเสกเป่า
บูชาไฟ ทำพลีกรรมด้วยโลหิต เป็นหมอดูอวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา เป็นหมอ
ปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกันบ้านเรือน เป็นหมองู เป็นหมอยาพิษ
เป็นหมอแมลงป่อง เป็นหมอรักษาแผลหนูกัด เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอทายเสียงกา
เป็นหมอทายอายุ เป็นหมอเสกกันลูกศร เป็นหมอทายเสียงสัตว์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอ
ประการหนึ่ง.

[๑๑๕] ๒. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่
สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย
ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทายลักษณะแก้วมณี ทายลักษณะผ้า ทายลักษณะไม้พลอง
ทายลักษณะศาตรา ทายลักษณะดาบ ทายลักษณะศร ทายลักษณะธนู ทายลักษณะอาวุธ
ทายลักษณะสตรี ทายลักษณะบุรุษ ทายลักษณะกุมาร ทายลักษณะกุมารี ทายลักษณะทาส
ทายลักษณะทาสี ทายลักษณะช้าง ทายลักษณะม้า ทายลักษณะกระบือ ทายลักษณะโคอุสภะ
ทายลักษณะโค ทายลักษณะแพะ ทายลักษณะแกะ ทายลักษณะไก่ ทายลักษณะนกกระทา
ทายลักษณะเหี้ย ทายลักษณะตุ่น ทายลักษณะเต่า ทายลักษณะมฤค แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอ
ประการหนึ่ง.
[๑๑๖] ๓. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่
สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย
ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ดูฤกษ์ยาตราทัพว่า พระราชาจักยกออก พระราชาจักไม่ยกออก
พระราชาภายในจักยกเข้าประชิด พระราชาภายนอกจักถอย พระราชาภายนอกจักยกเข้าประชิด
พระราชาภายในจักถอย พระราชาภายในจักมีชัย พระราชาภายนอกจักปราชัย พระราชาภายนอก
จักมีชัย พระราชาภายในจักปราชัย พระราชาองค์นี้จักมีชัย พระราชาองค์นี้จักปราชัย เพราะเหตุ
นี้ๆ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
[๑๑๗] ๔. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่
สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย
ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ พยากรณ์ว่า จักมีจันทรคราส จักมีสุริยคราส จักมีนักษัตรคราส
ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินถูกทาง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์จักเดินผิดทาง ดาวนักษัตรจักเดินถูกทาง
ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรตกจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรมัวหมอง
จักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตรกระจ่างจักมีผลเป็นอย่างนี้ แม้ข้อนี้
ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
[๑๑๘] ๕. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่
สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย
ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ พยากรณ์ว่า จักมีฝนดี จักมีฝนแล้ง จักมีภิกษาหาได้ง่าย จักมีภิกษา
หาได้ยาก จักมีความเกษม จักมีภัย จักเกิดโรค จักมีความสำราญหาโรคมิได้ หรือนับคะแนน
คำนวณ นับประมวลแต่งกาพย์ โลกายศาสตร์ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
[๑๑๙] ๖. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่
สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย
ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ให้ฤกษ์อาวาหมงคล ให้ฤกษ์วิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์
หย่าร้าง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ให้ยาผดุงครรภ์ ร่ายมนต์
ให้ลิ้นกระด้าง ร่ายมนต์ให้คางแข็ง ร่ายมนต์ให้มือสั่น ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง เป็นหมอ
ทรงกระจก เป็นหมอทรงหญิงสาว เป็นหมอทรงเจ้า บวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวงท้าวมหาพรหม
ร่ายมนต์พ่นไฟ ทำพิธีเชิญขวัญ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
[๑๒๐] ๗. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่
สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย
ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกัน
บ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธี
บวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยา
ถ่ายโทษเบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา
ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

พระพุทธเจ้าทรงรังเกลียด พวกทำอิทธิปาฏิหาร พวกทำเดรัจฉานวิชา เพราะเป็นทางเสื่อม แต่คนสมัยนี้กลับทำกัน คนก็พากันกราบไหว้

ถ้าใครมีหลักฐานว่าพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ ให้พระสงฆ์กราบไหว้บูชาพระพุทธรูปแทนพระองค์ หาหลักฐานมาครับเอาคำของพระพุทธเจ้านะครับ ประวัติศาสตร์หรือตำนานการสร้างยุคหลังไม่ต้องเอามาครับ เมื่อไม่มีหลักฐานแล้วไปยึดมั่นคิดเอาเองว่าพระพุทธรูปเป็นศาสนาพุทธ จะกราบไหว้ก็แล้วแต่ท่านทั้งหลาย ผมศรัทธาและยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

 

พระพุทธเจ้าทรงรังเกลียด พวกทำอิทธิปาฏิหาร พวกทำเดรัจฉานวิชา เพราะเป็นทางเสื่อม แต่คนสมัยนี้กลับทำกัน คนก็พากันกราบไหว้

ถ้าใครมีหลักฐานว่าพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ ให้พระสงฆ์กราบไหว้บูชาพระพุทธรูปแทนพระองค์ หาหลักฐานมาครับเอาคำของพระพุทธเจ้านะครับ ประวัติศาสตร์หรือตำนานการสร้างยุคหลังไม่ต้องเอามาครับ เมื่อไม่มีหลักฐานแล้วไปยึดมั่นคิดเอาเองว่าพระพุทธรูปเป็นศาสนาพุทธ จะกราบไหว้ก็แล้วแต่ท่านทั้งหลาย ผมศรัทธาและยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
---------------
คุณอุรุเวลาครับ

พระพุทธรูป เสมือนรูปถ่ายและปฏิมากรรมบรรบุรุษ นะครับ
ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม ที่เราควรจะมีไว้บูชา ระลึกพระคุณ อย่างเดียวกับที่คุณเคยกล่าวไว้ว่า
ไหว้บรรพบุรุษ ปีละ 2 ครั้ง

อีกอย่าง ที่คุณอ้างว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงบัญญัติ ให้กราบไหว้บูชา
แล้วคุณมีมั้ยหละที่พระองค์ทรงห้ามไม่ให้กราบไหว้พระพุทธรูป

ตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้ เค้าก็กราบไหว้สักการะบูชากันทั่ว
หรือเค้าทั้งหลายเหล่านั้นโง่กันทั้งหมด ที่หลงกราบไหว้สสารวัตถุ

 

ไม่ได้บัญญัติไว้ ก็ไม่ได้หมายความว่าทรงห้ามนะครับ

เหมือนกับที่คุณอ้างว่าจิตมีมากจนไม่อาจนับได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รวมเป็นหนึ่ง

เรื่องจิต ตอนนี้คุณยังคิดว่าเกิดดับอยู่ตลอดหรือปล่าวครับ

ถ้ายังคิดอยู่ ทำไมคุณยังทำอะไรได้ โดยที่จิตคุณมีช่วงดับอยู่ก็มี

เพราะจิตเป็นนายกายเป็นบ่าว ถ้าไม่มีจิต ร่างกายไม่สามารถทำอะไรได้นะครับ

 

อย่าเรียกว่าโง่เลยครับ เรียกว่าไม่รู้ดีกว่าครับ เมื่อก่อนผมก็ไม่รู้ ตอนสร้างพระพุทธรูปเขาทำอะไรกันบ้างละครับ ท่านลองอ่านที่ผมโพส #69 แล้วลองพิจารณาเป็นข้อ ๆ เอาเองครับ แค่ทำน้ำมนต์ก็ผิดแล้วครับ

 

อย่าเรียกว่าโง่เลยครับ เรียกว่าไม่รู้ดีกว่าครับ เมื่อก่อนผมก็ไม่รู้ ตอนสร้างพระพุทธรูปเขาทำอะไรกันบ้างละครับ ท่านลองอ่านที่ผมโพส #69 แล้วลองพิจารณาเป็นข้อ ๆ เอาเองครับ แค่ทำน้ำมนต์ก็ผิดแล้วครับ<!-- google_ad_section_end -->
-------------

แล้วทำไมคุณยังไหว้บรรพบุรษหละครับ หรือเพราะว่านั่นเป็นเชื้อสายคุณ
แต่สำหรับผู้มีมหากรุณาและเป็นผู้มีพระคุณที่ได้ชี้ทางหลุดพ้นให้ คุณไม่เคารพกราบไหว้หรือครับ

 

อ้อ แล้วที่อ้างพระไตรฯ ควรจะวิเคราะห์มาว่าคุณเข้าใจอย่างไรดีกว่าครับ
เพราะต่างคนก็ต่างเข้าใจกันไปคนละอย่าง เพราะถ้าถามผมเรื่องพระไตรฯที่อ้างนี้
ผมก็ว่าไม่เห็นจะมีอะไรที่เราบูชามันจะเสียหายแต่อย่างไรเลยครับ

 

ผมก็ทำแค่ทำตามประเพณีครับ ผมยังเป็นมนุษย์อยู่นะครับ ผมมีพ่อแม่พี่น้อง มีญาติทั้งหลาย ผมยังต้องดูแลท่านอยู่ ท่านแก่แล้ว ทางหลุดพ้นผมก็ศึกษา

 

ถ้าไม่เสียหายท่านก็บูชาไปครับ แต่สำหรับผมเสียเวลาครับ ผมเอาเวลามาระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ นั่งสมาธิดีกว่าครับ

ผมไม่ได้อ้างพระไตรปิฏกครับ ผมเชื่อตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ต่างคนต่างคิดผมอ่านพระไตรปิฏกมาผมศึกษามา ถ้าท่านไม่อ่านเชื่อแต่สิ่งที่ท่านเชื่อหาหลักฐานก็ไม่ได้ก็ตามใจท่าน พระพุทธเจ้าสอนให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ให้กราบไหว้บุคคลที่ควรกราบไหว้ ไม่ได้สอนให้กราบไหว้พระพุทธรูป

 

----------------

เช่นนั้นการกราบไหว้พระพุทธรูปก็เป็นประเพณีสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีตนะครับ
คุณจะว่ายังไงครับ

 

----------------

มันจะไปเสียเวลาอะไรนักหนาหรือครับ ผมว่านั่นเป็นข้ออ้างมากกว่าครับ

พระไตรปิฎก ผมทั้งอ่านและฟังเสียงอ่าน ผมถึงได้บอกไง คุณคิดอย่างผมคิดอย่าง ผมถึงให้คุณวิเคราะห์มาให้มันชัดเจนไปเลย เพราะถ้าถามใคร เค้าก็บอกอย่างที่เค้าเข้าใจนั่นแหละครับ

 

จะบอกว่าเป็นประเพณีก็ไม่น่าจะใช่ครับ ผมใช้ว่าใข้คำว่า "พิธี" น่าจะได้ครับ

ไหว้พระพุทธรูปไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ แต่ไหว้พระพุทธรูปแล้ว ระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ศีกษาพระธรรมบ้าง ฟังธรรมบ้าง ถือศีลบ้างตามโอกาส นี่แหละที่ควรเรียกว่า "พุทธศาสนิกชน"

 

ท่าจะยังไม่จบ ผมว่าเลิกพูดประเด็นนี้กันไปดีกว่าครับ ต่างคนต่างเชื่อจะได้จบ ไม่งั้นก็ไม่จบ
ใครเชื่ออย่างไรก็ไม่ต้องมาเถียงกันเเบ่งเป็นฝ่ายๆไปเลย เถียงกันเรื่องความเชื่อ ชาติหน้าจะได้มาเถียงกันอีกรอบ ผมขออ่านกระทู้อื่นที่ไม่ใช่ประเด็นนี้บ้าง